anywhere Dhamma(2)


แม้การไปกราบและเยี่ยมเยียนพระอาจารย์ที่เคารพหรือขึ้นไปเยี่ยมผู้ป่วยเด็กที่ตึกต่างก็สอนธรรมะเรื่องทุกขฺให้เรียนรู้ด้วยรสแห่งความเมตตาและปรารถนาดีซึ่งกันและกัน

ช่วง17-18เมษายนที่ผ่านมามีกิจกรรมพิเศษที่สมัครใจเลือกทำนั่นคือ1.ได้ไปกราบและสนทนาธรรมกับพระอาจารย์พระมหาประทีปที่วัดชลฯ..เนื่องจากเป็นช่วงที่รู้ข่าวว่าท่านมาพักที่ที่นี่เพื่อตรวจสุขภาพและบำบัดอาการเส้นเลือดหัวใจตีบ...พระอาจารย์ผ่าตัดเปลี่ยนหลอดเลือดหัวใจหลายครั้งมาแล้วและครั้งล่าสุดก็เมื่อสักสามสี่ปีก่อน..ซึ่งพระอาจารย์เมตตาเล่าถึงอาการล่าสุดให้รับรู้ว่าหลายครั้งที่มีอาการชาตามแขนขาและใจเต้นเร็วไม่เป็นจังหวะแต่ก็ทำใจไว้แล้วว่าเป็นอย่างไรเป็นกันเพราะไม่มีอะไรที่ต้องห่วงอีกแล้ว...ฉันถามถึงการกำหนดใจและสติในการเผชิญกับอาพาธที่ท่านมีอยู่..ท่านก็พูดง่ายๆสั้นๆว่าอยู่ที่ธรรมะในลมหายใจเท่านั้น  พระอาจารย์ขยายความขึ้นอีกนิดเมื่อมองหน้างงของฉันว่า..ปฏิบัติอานาปนสติและคิดว่าตราบที่ยังมีลมหายใจเข้าออกอยู่ก็ยังมีชีวิตอยู่ก็คงทำประโยชน์ต่อไป..การที่พระอาจารย์ผ่าตัดหัวใจคราวก่อนและอายุที่มากขึ้นทำให้เวลาพูดน้ำเสียงบางคำไม่ชัดเจนดังเคยเป็นและเทศน์นานๆไม่ค่อยไหวแต่จิตวิญาญแห่งความเป็นพระผู้เผยแผ่ก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม..พระอาจารย์บอกส่งท้ายแก่ฉันก่อนลากลับว่า"อย่าไปยึดติดคิดพึ่งอาจารย์มากนักให้ยึดแต่พระธรรมเป็นหลักของใจถูกต้องกว่า...อาจารย์หรือคนอาจตายจากกันได้แต่ธรรมะกับใจนี้ไม่ตายจากกัน ...จำไว้นะ"

2.ขณะโทรขอติดรถไปข้างนอกกับพี่จุ๋มทำให้รู้ข่าวว่าน้องเกต(ชื่อสมมุติ)เข้ารักษาตัวอีกและคราวนี้แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งที่ปอด..วันพรุ่งนี้จะย้ายไปรักษาอีกโรงพยาบาล..เย็นวันนั้นตัดสินใจหาขนมที่คิดว่าเด็กคงจะชอบติดไม้ติดมือไปเยี่ยม..ขึ้นไปพบว่าเด็กกำลังนั่งดูทีวีอยู่กับคุณแม่..แม่เด็กเคยคุยกันตอนที่น้องมารักษาในครั้งที่แล้วจึงคุ้นเคยและพอที่จะแลกเปลี่ยนความรู้สึกต่อกัน..แม่เด็กเล่าโดยอ้อมว่ารับรู้แล้วว่าน้องเกตเจ็บป่วยเป็นอะไรแต่ตัวน้องยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร..แม่ยังรู้สึกช็อกอยู่แต่ก็พยายามที่จะตั้งหลักทำใจดูแลน้องให้ถึงที่สุด...ส่วนน้องเกตก็เล่าถึงสิ่งที่กลัวและไม่อยากเจออีกคือการถูกเจาะปอดเอาน้ำออกมาอีกเพราะมันเจ็บมากแต่งวดนี้ไม่ร้องไห้เลยเพราะรู้ว่าถ้าไม่ทำอย่างนี้แล้วหมอก็จะช่วยน้องหายใจต่อไปไม่ได้ แม่เด็กเล่าเพิ่มเติมว่าตลอดเวลาเด็กก็พยายามฟังการถามตอบระหว่างแม่กับหมอเกี่ยวกับการเจ็บป่วยของตัวแก..น้องเป็นเด็กกำลังเริ่มเข้าวัยรุ่น..มีนิสัยรักสวยรักงามพอควร..ฉันเผลอฟุ้งคิดไปถึงการรักษาต่อไปที่น้องจะต้องเผชิญซึ่งมีผลกระทบต่อกายและใจนี้ไม่น้อยเลย..ฉันรู้สึกสงสารในชีวิตและชะตากรรมของน้องเกตเกือบๆจะร้องไห้แต่สตินึกถึงคำขอของแม่เด็กและคำสอนก่อนจากของพระอาจารย์มหาประทีปที่สั่งไว้..จึงลดความทุกข์ที่ใจฟุ้งและปรุงแต่งขึ้นมา หันกลับมาอยู่อาการปกติและคุยเล่นกับน้องเกตอีกสักครู่..แลกเปลี่ยนกันสอนเคล็ดลับหมัดเด็ดแก้เจ็บซึ่งน้องเกตเขาก็มีสูตรลับท่องในใจว่า"อดทนไว้เจ็บเดี๋ยวเดียว"..ฉันก็เลยขอแถมให้เพิ่มว่า"ถ้าคิดแล้วมันยังปวดหรือเจ็บอยู่ให้เกตย้ายใจมาผูกที่การตามลมหายใจก็ได้..แค่ดูไม่ต้องคิดว่าหายใจดีหรือไม่หายใจดี"..เด็กก็ร้อง"อ๋อเหมือนที่แม่สอนให้หลับตาทำสมาธิเลย"แม่เด็กก็พลอยเสริมว่า"ใช่แล้ว..บางทีเราต้องใช้สิ่งนี้ช่วยเหลือรอจนให้หายเจ็บ"ก่อนจากกันทั้งแม่และน้องเกตต่างก็ขอบคุณกับขนมและความเป็นห่วงที่ฉันขึ้นมาเยี่ยม..ลงมาจากตึกด้วยใจที่เต็มตื้นในความรักและการอบรมลูกให้รู้จักรักษาใจ/มีจิตใสสะอาดของแม่น้องเกต..

หมายเลขบันทึก: 91897เขียนเมื่อ 23 เมษายน 2007 02:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ คุณseangja

ขอบคุณที่นำมาเล่าสู่กันฟังนะคะ

ธรรมะคือสิ่งที่มีอยู่จริง และชีวิตดำรงอยู่ได้เพียงชั่วขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท