ชายหนุ่ม: เฮ้ย...มึง กูเพิ่งติดเน็ทเว้ย... ๑ เม็ก วันหยุดกูไม่ได้ทำห่..อะไรเลย เล่นเน็ทมันส์ ฉิ..ห.. โปรเจคก็ไม่ได้ทำ หนังสือก็ไม่ได้อ่าน ไม่ได้ทำเหี้.. อะไรเลย นอนแม่.. ทั้งวัน ๒๔ ชั่วโมง
เพื่อนชายหนุ่มในโทรศัพท์: ..................
ชายหนุ่ม: ก็จริงสิวะ..... ไม่ได้ทำห่.. อะไรเลย
เพื่อนชายหนุ่มในโทรศัพท์: ..................
ชายหนุ่ม: ไอ้ห่... เรียนโทเหรอ... มึงก็ไปที่ ยูเค (หมายถึงอังกฤษ) สิวะ เรียนแค่ปีเดียว แล้วบอกแม่มึงว่าเรียน ๒ ปีสิ จะได้อยู่เล่นๆ ปีนึง......
หลังจากนั้น ดิฉันก็ได้ idea คิดว่าน่าจะเอาเรื่องนี้เขียนบันทึกเรื่องการส่งจิตออกนอก แต่คราวนี้ไม่ได้ส่งไปในอดีต หรืออนาคต ตามที่เคยเขียนไว้ในบันทึกเก่า แต่ส่งจิตออกนอกอยู่กับปัจจุบันขณะที่กำลังได้ยินการสนทนาของชายหนุ่มคนนี้แหละค่ะ
ดิฉันก็ไวพอควรค่ะ เกิดความรำคาญและทุกข์ใจแป็บเดียว เพราะจิตถูกรบกวนด้วยเสียงและเนื้อหาการสนทนา
หลังจากแยกออกมาแล้ว ก็สอบอารมณ์ตัวเองค่ะ ว่ารู้สึกอย่างไร ก็พบว่ามีกระทบบ้าง แต่ไม่มาก เพราะคำหยาบเลื้อยเข้าหูเยอะมาก แถมไม่ชอบและไม่สนับสนุนพฤติกรรมทุกประการที่ชายหนุ่มแสดง
สมมติว่าท่านเห็นซองสีน้ำตาลใบหนึ่งตกอยู่ เป็นซองที่ดูแล้วมีเอกสารใส่อยู่ข้างใน ท่านเก็บขึ้นเปิดดู แล้วพบว่ามีเงินมัดปึกละแสนอยู่ ๓-๔ ปึกด้วยกัน ไม่มีใครอยู่แถวนั้น ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ และท่านมาคนเดียว ....
อ่านบันทึกนี้แล้วเจริญสติโดยดูสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตของท่านไว้ค่ะ หวังว่าดิฉันคงไม่ได้กระทำบาปทำให้คนเกิดทุกข์จากการอ่านนะคะ ; )
อาจารย์ขา...
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ..
อ่านแล้วก็ได้ทดสอบสติตนเองดู. ดิฉันก้รู้สึกเช่นเดียวกันค่ะที่เด็กสมัยนี้พูดคำหยาบคายโดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลย..และบางทีอาจจะคิดว่าเท่ซะด้วย...ไม่รู้ว่าอย่างนี้จะแก้ปัญหายังไงดี..
แต่สำหรับตัวเองก็มีเป้าหมายแล้วค่ะว่า..จะสอนเด็กป.1 ให้คิดถึงข้อเสียของการพูดคำหยาบ...ก็เริ่มซะตั้งแต่เล็กๆเลยก็น่าจะดีนะคะ..ได้ผลอย่างไรจะมาเล่าให้ฟังนะคะ..
ขอบคุณค่ะ..
สวัสดีค่ะครูอ้อย สิริพร กุ่ยกระโทก
เกือบเหมือนค่ะ เพราะเน้น concept เรื่อง "ปัจจุบัน" เหมือนกัน แต่การเจริญสตินี้ไม่ได้บังคับหรือตั้งใจค่ะ เช่น ดิฉันไม่ได้ตั้งใจฟังชายหนุ่มคุยในกรณีนี้ แต่ดิฉันได้ยินอย่างช่วยไม่ได้ แล้วสติไม่อยู่กับตัว แต่ออกไปอยู่ที่การสนทนาของเขาค่ะ ประมาณนั้น...
หลังจากเห็นว่าจิตออกนอกไปอยู่กับการสนทนา (เห็นแล้ว รู้ตัว) สติมันแว๊บกลับมาที่ตัวทันทีเองค่ะ ความรู้สึกที่ไม่ชอบคำหยาบ คำสนทนา มันดับไปตรงนั้นค่ะ
ถ้าสงสัยถามได้อีกนะคะ เพราะไม่รู้ตัวเองอธิบายครบหรือชัดเจนหรือเปล่าน่ะค่ะ
ชัดเจนค่ะอาจารย์ ครูอ้อยดีใจที่ได้สนทนาเรื่องที่กำลังสนใจ จากผู้ที่รู้จริง และกำลังจะรู้ใจด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณครูแอ๊ว
เรื่องแก้การพูดคำหยาบนี้ สงสัยจะยากค่ะ ดิฉันว่าบางทีมันเป็นเรื่องฮอร์โมนล้วนๆ เด็ก (ชายหนุ่ม) ฝรั่งก็พูดเลวร้ายพอกันค่ะ "fu..." and "sh.." ล้วนๆ เหมือนกันค่ะ ถ้าเขาสนทนาอยู่กับเพื่อน
ที่ดิฉันรู้สึกไม่ชอบใจในตอนนั้น นอกจากคำหยาบ ก็คือเรื่องการแนะนำให้โกหกแม่ และทัศนคติของการใช้เงิน (ที่ตัวเองยังไม่เคยหา) ค่ะ... อันนี้น่ากลัวค่ะ
ดีใจที่พบคุณครูที่จะมาร่วมด้วยช่วยกันในสังคมไทยอีกท่านค่ะ ขอบคุณที่เข้ามา ลปรร แล้วอย่าลืมเล่าผลให้ฟังนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณ เม้ง สมพร ช่วยอารีย์ ---------> http://www.somporn.net ---------> http://www.schuai.net
ดีจัง... จะได้เป็นคนรู้ใจครูอ้อยด้วย ; )
สวัสดีค่ะอาจารย์
ดิฉันได้ยินเอง ได้ฟังเด็กเล่าให้ฟังก็บ่อยค่ะ เกี่ยวกับเรื่องการหลอกพ่อแม่นี่ และการพูดหยาบทั้งหญิงและชาย ตามห้าง เคยได้ยิน
ฟังแรกๆ หงุดหงิดค่ะ แต่ก็ไม่ทราบจะแก้อย่างไร หวังว่า คนใกล้ชิดเราคงไม่เป็นแบบนี้ ทำอะไรไม่ได้ ต้องอุเบกขาค่ะ
สำคัญมากเลยครับเรื่องนี้
ผมคิดว่าเราจะพบเหตุการณ์แบบที่อาจารย์เล่าให้ฟังบ่อยๆ
การรู้เท่าทันอารมณ์ การดูจิต เป็นการฝึกฝน ช่วยมองในแง่ดี เป็นการเรียนรู้พัฒนาตัวเองยิ่งๆขึ้นไป
ทุกวันนี้ พอผมขับรถออกไปข้างนอก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา ในขณะที่มองออกไปข้างนอกรถ และเหตุการณ์อื่นๆในชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งสอนใจเราได้ทั้งนั้นเลย...
หยุดสักนิด ...คิดสักหน่อย พัฒนา-สร้าง กุศโลบาย ทำให้นิ่งและอารมณ์เย็นไปมากเลยครับ
สวัสดีค่ะ คุณ sasinanda
เห็นด้วยค่ะ ว่าสุดท้ายต้องวางอุเบกขาค่ะ พรหมวิหาร ๔ เป็นเรื่องที่สำคัญ ดิฉันสอนนักศึกษาต้องตระหนักเรื่องนี้เป็นสำคัญเลยค่ะ บางทีก็ลืม ทำให้ต้องเจริญสติเป็นประจำค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามา ลปรร นะคะ
สวัสดีค่ะคุณ จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
อ่านจากที่คุณจตุพร เขียนไว้ ดิฉันคิดว่าคุณจตุพรมีความรู้เรื่องนี้ดีมากและเข้าใจสภาวธรรมแบบนี้ดีอยู่แล้ว
ถ้าทุกคนเจริญสติกันมากขึ้น แม้จะใช้เวลาเล็กน้อยเพียงใดระหว่างวัน ก็จะทำให้เราเย็นขึ้นได้ อย่างที่คุณจตุพรว่าไว้เลยค่ะ ; )
สวัสดีครับ
ผมว่า ก็ อาจจะเป็น เกิดจากสังคมรอบๆ ตัวคนๆ นั้นมากกว่า เพราะว่า แต่ก่อน ผม ก็ เคยเหมือนกันครับ ตอนอยู่ ม.ต้น ม.ปลาย คือทางบ้านยากจน ก็ เลยไม่ได้ อยู่โรงเรียนดีๆ ก่ะเค้า เหอะๆๆ กลุ่ม คน ส่วนใหญ่ ก็ พูดคำหยาบ คายกันเยอะ ประมาณว่า ปากตลาด ตอนนั้น เราก็ ไม่ได้ คิดอะไรหรอกครับ แต่ พอเข้ามหาลัย อาจารย์ พูดคุณ ผม เพื่อนๆ ก็ เรา กับ เธอ คำหยาบ ก็ หดหายไป จน ติดคุณกับผม ล่ะครับตอนนี้ แต่ถ้า ด่ากัน ก็ ไม่มีสัตว์เลี้อย คลาน เพ่นพ่าน มีแต่ กระทบกระทั้ง กันเล็กน้อย เหอะๆๆ ดูเหมือนอันนี้จะเจ็บกว่า
หลังๆ มาก็ ไม่ค่อย ชอบเรื่องคำหยาบเท่าไรนัก คิดว่า มันก็เป็น คำพูด ที่เราไม่อยากได้ เท่านั้นเอง ให้ผ่านมา ก็ ผ่านไป ไม่จดจ่อตาม ถ้า เรา คล้อย ตาม ก็เหมือนเรา เป็นทาส คำพวกนั้นไปทุกทีครับ
สวัสดีค่ะ คุณหมอสุพัฒน์ kmsabai
สวัสดีค่ะ คุณ บู้บี้จัง
ชอบค่ะ เคยเอาจิตไปจับการสนทนาของคนอื่นแล้วเป็นทุกข์เหมือนกัน ขอบคุณที่แบ่งปันสิ่งดี ๆ นะคะ
สวัสดีค่ะคุณ ทีน่า
สวัสดีค่ะ อาจารย์
เดิมไม่เคยสนใจเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมค่ะ แต่เมื่อเข้ามาในวงการ KM เข้ามาใน G2K รวมถึงเข้าอบรมและฟังเกี่ยวกับการบริหาร การทำงาน รวมทั้งฟัง อ่านบันทึกหลายๆ ท่าน พบว่า หลายๆ ท่านสนใจเรื่องการปฏิบัติธรรมกันมาก ก็เลยให้ความสนใจ กำลังศึกษา กำลังอ่าน ดู สังเกต ทดลอง คิดตาม ฝึกตามบ้าง ทีละเล็กละน้อยค่ะ...ก็พอจับประเด็นได้ค่ะ ท่านหนึ่งที่มีส่วนในการทำให้ดิฉันสนใจเรื่องการปฏิบัติธรรมหลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน ... ดร.วรภัทร ภู่เจริญ หรือ ท่านไร้กรอบ ใน G2K แห่งนี้ค่ะ ท่านใช้คำว่า สอบอารมณ์ ดูจิต จิตตก คล้ายๆ กับที่อาจารย์ใช้เลยค่ะ
สงสัยค่ะ...การส่งจิตออกนอกนี่ไม่ดีใช่มั้ยค่ะ...จิตต้องอยู่กับเรา ให้เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไร ... แล้วต่างกับมีสติอย่างไรค่ะ....
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ อ. paew
ดีใจมากค่ะที่อาจารย์สนใจเรื่องการปฏิบัติธรรม ดิฉันปฏิบัติแล้วรู้สึกสงบ ชีวิตลดความยุ่งเหยิงทางจิตลงมาก ความเครียดลดลง เลยพยายามมาเล่าประสบการณ์ของตัวเอง ถูกบ้างผิดบ้าง ผ่านบันทึกนี้ค่ะ
ต้องขอออกตัวก่อนว่าที่ตอบไปอาจไม่ถูกต้องทั้งหมดนะคะ แต่ตอบตามความเข้าใจ จากประสบการณ์ที่ปฏิบัติมา แต่ว่าไม่ค่อยรู้บาลี/ปริยัติ และไม่ค่อยได้ไปวัดค่ะ ; )
ไม่รู้ว่าตอบคำถามอาจารย์ได้ครบไหม อาจารย์ลองอ่านบันทึกนี้ กับบันทึกนี้ดูนะคะ...
ถ้าสนใจสอบถามหรือให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม ดิฉันยินดีเสมอนะคะ ขอบคุณที่เข้ามา ลปรร ค่ะ
อ้อ.. ใน G2K มีหลายคนทีเดียวค่ะ ที่ปฏิบัติอยู่ ดิฉันเลือกเป็น blogger หน้าใหม่ในดวงใจของดิฉันหมดเลยค่ะ : )