สมาชิกคลังสมองฯได้คุยแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้ใหญ่สมชาย สมานตระกูล ถึงแนวคิดพอเพียงของชุมชนรุกตั๊กวา หนองจอก กทม.
ชุมชนรุกตั๊กวา หนองจอกได้นำ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เริ่มต้นจากครอบครัวที่เป็นจุดสำคัญและได้ขยายพื้นที่ออกไปนอกชุมชม โดยมีการพูดคุยเล่าสู่กันฟังทั้งพ่อแม่ลูก ในชุมชนของผู้ใหญ่ได้เปรียบตรงที่อยู่กลางระหว่างวัฒนธรรมเมืองที่เจริญแล้วกับวัฒนธรรมชนบทที่ล้าหลัง เป็นวิถีชีวิต ๒ แบบในชุมชนที่ต้องรักษาให้ทั้งรูปแบบทั้งสองมีดุลยภาพกันและให้มีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอยู่ตรงกลาง ได้นำมิติทางเทคโนโลยี คุณธรรมและภูมิปัญญาของชุมชน มาผสมผสาน เพื่อให้ดำรงความอยู่รอดได้ภายใต้วัฒนธรรมทั้งสองแบบ แต่จุดเปลี่ยนอยู่ที่ผู้นำ คือ “ประชาชน” นั่นเอง
ชุมชนหนองจอก มีวิธีการดำเนินงานตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่มีเวลานั่งคุยกันซี่งเป็นประโยชน์มาก ชุมชนไปมัสยิดวันละ ๕ ครั้ง ในแต่ละครั้งจะได้นั่งคุยกันเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆ และแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นซึ่งกันและ ทำให้เกิดความเข้าใจต่อกันและกันมากยิ่งขึ้น
เกิดกระบวนการเรียนรู้โลกและสังคมไปโดยอัตโนมัติ ครูที่สอนในชุมชนจะมีคุณธรรมจริยธรรมมาก ถ้าเด็กดื้อก็จะถูกตีและถ้าไปฟ้องพ่อแม่ว่าถูกครูตี แม่ก็จะตีซ้ำอีก ทำให้การดำเนินงานทางจริยธรรมเข้มแข็งมาก เด็กไม่กล้าจะกระทำผิดเพราะกลัวโดนตี ๒ รอบ การลงโทษของครูจึงศักดิ์สิทธิ์
ปัจจุบันการศึกษาของหมู่บ้านมีถึงระดับปริญญาตรี สามารถนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงบรรจุในการศึกษาของชุมชน เพื่อให้คนเข้าใจได้ตลอดเวลา และกำลังขอให้สถาบันราชภัฏเปิดหลักสูตรใหม่ในหมู่บ้าน เช่น สาขาวิชาการพัฒนาชุมชน จะสอดคล้องวิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ ทำให้เกิดความเข้มแข็งภายในชุมชนที่ถูกหล่อหลอมด้วยคุณธรรมและวิชาการ การศึกษาในท้องถิ่นไม่เฉพาะเด็กแต่ชาวบ้านก็จะได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกับนักศึกษาและนักเรียน เพราะบ้านคือห้องเรียน
มีกิจกรรมร่วมกันระหว่างนักเรียนกับชาวบ้าน สามารถถ่ายเทความรู้และวัฒนธรรมได้ ชาวบ้านที่เรียนปริญญามีการทำเกษตรกรรมและทำงานราชการ มีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
ประวัติศาสตร์ของชุมชนช่วยให้เกิดความภาคภูมิใจ กล้าเชิดชูท้องถิ่นที่คนรุ่นก่อนได้สร้างคุณธรรมบนแผ่นดิน ทำให้รุ่นลูกรุ่นหลานภาคภูมิใจมาก เพราะพี่น้องของเขามีความดีบนแผ่นดิน เป็นความรัก ความหวงแหนและกล้าเชิดชูท้องถิ่นอย่างมีคุณค่า แม้จะไม่โดดเด่น แต่ที่หยิบยกมาล้วนเป็นความภูมิใจในแผ่นดินที่ทุกคนจะมีความดีงาม คุณธรรม
ปัญหา คือ เราจะหยิบยื่นให้เขาได้เห็นอย่างไร ความสำเร็จคือใช้ความจริงที่เขาไม่เคยนึกว่า พ่อแม่ของเขาก็มีคนกล่าวถึงคุณงามความดี แม้จะเสียชีวิตไปแล้วก็ยังให้เกียรติอยู่เสมอ ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ให้ได้รับรางวัลเป็นผลสำเร็จของความดีงาม เราให้การเรียนรู้ทุกวันศุกร์ตามหลักธรรมในการดำรงชีวิต เพื่อให้มีการศึกษาเพิ่มเติมและควบคุมกันด้วยจิตวิญญาณ ถ้าเป็นกฎหมายจะมีการบังคับใช้เสริมจากการบังคับด้วยคุณธรรม และตรงนี้เติมความสมบูรณ์ให้ชีวิต เป็นเครื่องมือการดำรงชีวิตให้สอดคล้องกับกระแสโลกาภิวัตร
ส่วนวัฒนธรรมที่แปลกปลอมจะถูกสกัดทิ้งไปเองตามธรรมชาติ เรารับวัฒนธรรมอื่นเข้ามา แต่จะใช้อย่างไรต้องผ่านการพิจารณาว่าเรามีภูมิคุ้มกันหรือไม่ การพัฒนาชุมชนในหมู่บ้านมีทั้งหมด ๑๒ กลุ่ม บนเนื้อที่ ๕๐๐ ไร่ มีการป้องกันสิ่งที่แปลกปลอมเข้ามาในชุมชนได้ผลดีมาก โดยหัวหน้ากลุ่มคอยตรวจตราและรับปรึกษาปัญหา ให้ความนับถือผู้ที่เข้ามารบกวนในชุมชน ชาวบ้านจะรู้ไปหมดเลยว่าใครมาทำอะไร หรือมีใครอยู่ไหนบ้าง เขาคิดอะไรเรารู้หมด แม้จะเป็นการกว้านซื้อที่ดินตรงไหนบ้าง ก็รู้หมด พวกที่เข้ามาอยู่ทีหลังจะใช้วิถีชีวิตแบบเราและมีความเป็นอยู่เหมือนเรา ไม่มีความแตกต่างทางศาสนา สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนกันในวัฒนธรรมเดียวกัน
หลักธรรมในศาสนาที่ใช้ในการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การทำมาหากิน มันจะถูกควบคุมอยู่บนหลักธรรมเหมือนกัน ไม่มีการเอาเปรียบกัน มีการแบ่งปัน เงินตราไม่สามารถใช้ได้ในชุมชน เพราะวัฒนธรรมมีความสำคัญมากกว่าเงิน เงินจะซื้อวัฒนธรรมไม่ได้ทั้งหมด ให้มีเงินเป็นล้าน ๆ มาซื้อที่ดิน เขายังไม่ยอมขายที่ดินให้เลยก็มี การใช้ชีวิตในหมู่บ้านไม่ต้องใช้สตางค์ เราใช้วิธีการแบ่งปันให้มาตลอด เป็นความเอื้ออาทรที่อยู่ในเศรษฐกิจพอเพียง ช่วยเหลือกัน ไม่ทอดทิ้งกัน และส่วนที่เป็นกระแสของโลกาภิวัตรที่สร้างบนคานให้ได้ดุลย์ เราก็เติมส่วนที่ขาดหายไปและประคองให้มันมีประโยชน์มากขึ้น ไม่ต้องรอเติมจากภายนอก จนกลายเป็นชุมชนเข้มแข็ง เพราะหมั่นเติมในส่วนที่ขาดหายไป และสกัดสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากชุมชน
คำนึงถึงหลัก ๓ คุณคือ คุณธรรมเสมอภาค คุณประโยชน์ และคุณค่า แนวทางการดำเนินงานในอนาคตเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก เกรงคนจะทำใจไม่ได้ในขณะสังคมเมืองกำลังพลวัตรอยู่ มันอาจจะเกิดความหวั่นไหวได้ง่าย การอบรมคนรุ่นใหม่ ๆจะต้องทำอย่างไร เราใช้สามเหลี่ยมนี้เอง ซึ่งจากหลักคุณทั้งสามข้างต้นสามารถช่วยพัฒนาประเทศได้ โดยการผลักดันส่งเสริมในระดับหมู่บ้านและตำบลให้เกิดวุฒิภาวะเข้มแข็ง สามารถสะท้อนให้กลับมาสู่การพัฒนาตนเองได้ อาศัยมิติของการบริหารส่วนท้องถิ่นให้นำทรัพยากรมาใช้อย่างคุ้มค่ามีประโยชน์ตามเศรษฐกิจพอเพียง ให้ใช้ชีวิตอย่างเหมาะสมแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยระหว่างคนกับสิ่งแวดล้อมและคนกับคน สิ่งแรกที่พวกนอกรีตจะได้รับหรือลูกที่ดื้อรั้นมากๆ จนพ่อแม่เอาไม่อยู่ ก็ใช้บทลงโทษทางสังคมง่าย ๆ คือ ไม่ให้ความสนใจ เขาก็จะรู้สึกหว้าเหว่เหมือนถูกทอดทิ้ง อายสังคม แต่ได้ไม่หมด มันได้แค่บางส่วน ต้องมีมาตรการอย่างเข้ม คือ กฎหมายของรัฐ แต่ในชุมชนใช้กฏหมายไม่มาก มีการตรวจและจัดการพวกนอกกรอบจริง ๆ ถ้าเราลงมือเองจะผิดกฎหมาย จะให้พ่อแม่และสังคมช่วยกันตักเตือน หลังจากนั้นถ้าไม่ดีขึ้นก็จะประณามเลย การถูกจับ เอาขึ้นรถเป็นสิ่งที่น่าอายมาก จะให้คนในชุมชนไปแจ้งตำรวจ เราดูแลกันเองภายในสังคม ซึ่งตำรวจก็รู้สึกเบาใจเพราะไม่ค่อยมีเรื่องราวมากนัก ตำรวจภูมิใจที่ในพื้นที่อยู่กันอย่างสงบสุข เป็นกระบวนการดูแลทางสังคมที่ดีอีกทางหนึ่งอุปสรรคในการดำเนินงาน
ในแผ่นดินตั๊กวาไม่ได้ราบเรียบเหมือนผิวกระจก มันมีคลื่นลมเป็นระยะ มีอุปสรรค แม้ว่าจะดูเป็นหมู่บ้านสงบสุข ร่มรื่น ดีงาม แต่เรามีอุปสรรคมาก ๆ ที่พยายามดูแล ส่งเสริมและแก้ไข ได้แก่
๑. ขาดโอกาส ชาวบ้านที่ได้เรียนรู้จะคิดว่าการเรียนจบป.๔ ม.๓ ม.๖ และปริญญาตรี จบคือจบ จะไม่ต่อยอดทางความรู้ให้มากขึ้นไปอีก ทำให้การพัฒนาไม่ต่อเนื่อง จบเท่าที่เตรียมไว้ การศึกษาที่เกี่ยวข้องกับความเจริญทางวัตถุ ผมเคยถามชาวบ้านและเขาตอบว่า เขาไม่เอา เขาไม่ชอบอยู่ในความเจริญด้วย แม้ในหมู่บ้านจัดสรรก็รับเอาวัฒนธรรมจากหมู่บ้านชุมชนดั้งเดิมมาใช้ เพราะเรามีแนวคิดแบบเดียวกัน ทั้งสองหมู่บ้านได้พัฒนาด้วยเศรษฐกิจพอเพียงสะท้อนให้เห็นได้ตรงนี้
๒.ชาวบ้านเป็นผู้บริสุทธิ์ยังไม่มีผู้นำ ขาดผู้ขยับ เขาเข้าใจว่าต้องแต่งตั้งประธานชุมชนก่อน จึงจะทำตามหรือแม้แต่ผู้นำทางศาสนาก็ต้องไปทำพิธีฮัจจ์ที่เมกกะเสียก่อน นั่นเป็นความเข้าใจผิดทั้งหมด เพราะมันไม่ต้องจบที่ไหน ไม่ต้องแต่งตั้งตำแหน่ง ความเป็นผู้นำต้องเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ทีนี้จะทำอย่างไรให้มีผู้นำธรรมชาติมาก ๆ อาจจะไม่ต้องมีตำแหน่งให้เขาก็ได้ ไม่ต้องใช้กระบวนการเลือกตั้งด้วย โดยฝึกให้เขาเป็นผู้นำไปเลย ถ้าติดรูปแบบมากจะเป็นอุปสรรคทั้งหมด ต้องให้เขาเผชิญกับเรื่องบ่อย ๆ หรือเผชิญปัญหาบ่อย ๆ หรือจัดกิจกรรมให้เขาบ่อย ๆ จะเป็นการฝึกให้แก้ไขปัญหาและเกิดภาวะผู้นำขึ้นมาเอง เช่น เวลาที่ผมไม่อยู่ เขาต้องเป็นผู้นำทำหน้าที่แทนผม แต่ถ้ายึดติดว่าต้องเป็นตัวเราเท่านั้น เขาก็จะไม่เป็นผู้นำซักที ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ผม แต่เป็นเธอนั่นล่ะ เพราะกว่าพระนเรศวรจะใช้พระแสงฟันพระมหาอุปราช จะมีองค์ประกอบของปัจจัยหลายตัวเลย นั่นก็คือ ช้างเท้าหลัง ไม่ใช่ช้างเท้าหน้า ดังนั้นผู้หญิงหรือแม่บ้านมีส่วนสำคัญมาก ให้ผู้ชายเป็นผู้นำหรือช้างเท้าหน้าจะเดินเองไม่ได้ ถ้าไม่มีช้างเท้าหลัง สตรีเขาก็เกิดความภาคภูมิใจที่เขาได้เป็นกำลังหลักสำคัญของสังคม เพราะเราหลงลืมสตรีไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง เธอมีบทบาทในสังคมสูงมาก และเธอก็ทำงานหนักเหมือนกัน
๓. ขาดเงิน ต้องมีปัญญาก่อนค่อยเงินตามลำดับ จะได้ลดกระแสการใช้งบประมาณอย่างพอประมาณ ด้วยการใช้ปัญญาอย่างมีเหตุผลเพื่อให้เกิดกิจกรรมต่าง ๆ ในชุมชนเป็นภูมิคุ้มกัน
๔. สิ่งล่อแหลมที่ยั่วยุ ทำให้เราเกิดการเปรียบเทียบให้ทันสมัยบ้าง ไม่ทันสมัยบ้าง เราต้องคิด ถ้าทำอย่างนี้จะเกิดปัญหาหรือไม่ ปลูกฝังค่านิยมโภชนาการ จะหาร้านอาหารในชุมชนไม่พบ ต้องไปหาของกินตามบ้านที่มีวัฒนธรรมการกินแบบเรียบง่าย ราคาไม่แพง เราหาซื้อจากข้างนอกชุมชนบ้าง แต่การจะทำให้คนรู้จักตนเองได้ ต้องให้เขาใช้ทรัพยากรภายในท้องถิ่นอย่างมีคุณค่า การซื้อจากรถหาบเร่จะไม่มีคุณค่าเพราะจะมีสารปนเปื้อน ต้องรู้จักเลือกใช้สิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่น เกิดเป็นวัฒนธรรมที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ก็มีใช้ได้อย่างพอเพียง ไม่อด ไม่หรูหรา ต้องพยายามให้เขามีความสุข เป็นตัวชี้วัด โดยจัดระบบนิเวศน์และใช้หลักธรรมในการดำเนินชีวิต(ศาสนานำชีวิต)เพื่อให้ความสุขในโลกนี้และโลกหน้าและขยายผลไปคนข้างเคียง เขาจะเห็นว่าบ้านแบบนี้หนอที่มีความสุข สะอาด เป็นระเบียบ มีวินัย เราก็จูงใจของเขาเรื่อยไป และเพิ่มให้มีการออกกำลังกายและเข้าร่วมกิจกรรมของมัสยิดที่มีอยู่ราว ๔๗ ชมรมภายในเขตหนองจอก มักจะมีการนัดประชุมในทุกวันจันทร์
ซึ่งผมได้เสนอให้มัสยิดจะต้องดำเนินงาน ๓ ประการ คือ
๑.จัดสภาพแวดล้อมในมัสยิดให้สวยงาม รื่นรมย์ น่าอยู่
๒.ต้องสามารถควบคุมเศรษฐกิจชุมชนได้ แต่จะทำอย่างไรให้ในแต่ละมัสยิดมีเศรษฐกิจชุมชนที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นเอง เช่น OTOP ที่ผ่านมายึดได้กลั่นกรองเป็นกลุ่มอาชีพต่างๆ ได้แก่ กลุ่มเลี้ยงนกเขาชวา กลุ่มหัตถกรรม กลุ่มทำกรงนก กลุ่มทำเรือนไทยจำลอง กลุ่มบ้านทำแชมพู กลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษ ฯลฯ
๓. ให้มุสลิมปักษ์ใต้มาอยู่ ๓วัน ๓ คืนเพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมแบบเศรษฐกิจพอเพียง มีการจำหน่ายสินค้า สร้างให้คนกระตือรือร้น พยามยามจัดไม่ให้ขาดกิจกรรม ไม่อย่างนั้นเขาจะขาดความคิด เราต้องการสร้างเมืองงาม จำเป็นต้องให้ชีวิตเป็นธรรมชาติ ราษฎรต้องร่วมรัฐพัฒนา เปลี่ยนเจตคติ ชาวพุทธก็สามารถมาร่วมกับเราได้ เช่น ในโครงการ บวร เป็นต้น ประเทศไทยโชคดีที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้สร้างบันไดไปสู่การพัฒนาประเทศให้มั่นคงยั่งยืน ถ้าทุกชุมชนยึดแนวทางปรัชญานี้ก็ไม่ต้องใช้อาวุธเลย ใช้ความเอื้ออาทรก็จะสามารถลดกระแสความรุนแรงจากภายนอกชุมชนได้ และค่าใช้จ่ายที่สูญเสียในแต่ละปีก็จะลดลง ต้องขอบคุณพระองค์ ไม่ว่าเศรษฐกิจด้านใด ๆ เช่น เครือเจริญโภคภัณฑ์ก็ใช้เศรษฐกิจพอเพียงและการพึ่งตนเอง สามารถขยายไปสู่ระดับโลกได้ ทำให้คนร่ำรวยด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอยู่อย่างมีความสุข มันสร้างธุรกิจที่มีชีวิตชีวา โดดเด่น ท้าทาย จะเห็นว่าปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสามารถช่วยพัฒนาประเทศได้เป็นอย่างดี แต่ยังไม่มีการค้นให้สังคมประจักษ์ว่ามีใครที่ไหนบ้าง น่าจะมีการประมวลข้อมูลเหล่านี้เอาไว้เพื่อเวลาที่ต้องให้ใครมาทำอะไรก็สามารถจัดการได้ง่าย และสามารถดูแลชุมชนในหมู่บ้านต่างๆได้อย่างมั่นคง ถ้าภาครัฐและประชาชนมีความเข้าใจสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาประเทศได้ อารยประเทศก็คงจะพากันมาถามว่าเมืองไทยใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างไรท่ามกลางสภาวะโลกที่ใช้ความรุนแรง ก็ใช้หลัก ๓ ประการมาประยุกต์เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาและป้องกันประเทศที่สำคัญมาก ให้เด็กกับผู้ใหญ่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน โดยมีผู้ใหญ่ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงกิจกรรม เด็กกับเด็กจะคุมกันเอง ทำให้เรารู้ว่าใครเป็นใคร หรือใครเป็นอย่างไร รู้ไปทั้งหมดถือเป็นการคุมพฤติกรรม สามารถบอกพ่อแม่ได้เลย เพื่อไม่ให้ลูกมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ต้องสอดส่องไปถึงการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซึ่งมุสลิมถือว่าเป็นความชั่วร้ายที่รุนแรงมาก ถ้าครอบครัวมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงจะถูกสังคมประณามเลย ก็จะช่วยลดการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เป็นจุดแข็งของมุสลิมที่คอยให้ความร่วมมือกับฝ่ายบ้านเมืองเป็นอย่างดี มุสลิมถือว่าโลกนี้เป็นที่อาศัย ภาระบนโลกไม่ใช่สิ่งสำคัญ การได้ทำเพื่อพระเจ้าจะไม่มีวันตาย เขาตั้งคนไว้โลกหน้าเลย ในสังคมสมัยอดีตสตรีที่จบ ป.๔ ไม่มาก ให้อยู่บ้านเพื่ออยู่ในกรอบศาสนา และให้ผู้ชายออกไปเรียนหนังสือได้ เขาจะให้เรียนศาสนาในโรงเรียนประจำของหมู่บ้านอย่างมีบูรณาการทั้งศาสนาและด้านวิชาการให้สอดคล้องกัน ทำให้ผู้ก่อการร้ายมั่นใจในเด็กที่เรียนศาสนา ปัญหาการศึกษาอิสลามเพราะครูไม่เก่ง เป็นจุดอ่อนที่ครูไม่คิดว่าศาสนาเป็นเรื่องสำคัญ ต้องสอดแทรกศาสนาให้เข้าไปในทุกๆวิชา ไม่ใช่เรียนรายวิชา ต้องจัดให้บูรณาการในหลักสูตร ตอนนี้เด็กเก่งมี แต่ขาดเด็กดี เด็กยังไม่มีคุณธรรม อยากให้รัฐช่วยขับเคลื่อนตรงพฤติกรรมของครูให้ห่างจากอบายมุข ให้ครูเป็นปูชนียบุคคล ไม่ใช่ให้ครูแบกภาระเป็นผู้นำท้องถิ่น