การประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรให้มีความเป็นธรรม ถูกต้อง โปร่งใส ในกระบวนการของการประเมินผลการปฏิบัติงาน และให้มีความเข้าใจร่วมกันระหว่างผู้รับการประเมินและผู้ประเมิน ว่าจะมีการประเมินผลการปฏิบัติงานในงานชิ้นใด จะประเมินเรื่องใด และประเมินอย่างไร เป็นสิ่งท้าทายผู้บริหาร และทีมบริหารอย่างยิ่ง
หลักการเบื้องต้นของการประเมินผลการปฏิบัติงาน
1. เน้นการประเมินเพื่อการพัฒนา
2. มีความโปร่งใส และตรวจสอบได้
3. มีความเป็นธรรมกับผู้รับการประเมิน
4. เป็นที่ยอมรับของบุคลากรส่วนใหญ่ ทั้งที่เป็นผู้บริหาร ผู้ประเมิน และผู้รับการประเมิน
5. มีประสิทธิภาพและสามารถนำไปใช้ปรับปรุงและพัฒนาบุคลากรได้จริง
6. การประเมินผลการปฏิบัติงานให้เป็นส่วนเดียวกับระบบทรัพยากรมนุษย์
วัตถุประสงค์ของการประเมินผลการปฏิบัติงาน
1. เพื่อพัฒนาบุคลากร และเพื่อเป็นการปรับปรุงงาน
2. เพื่อทราบว่าบุคลากรปฏิบัติงานสำเร็จตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้เพียงใด
3. เพื่อเป็นการประเมินพัฒนาสายอาชีพของบุคลากร
4. เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาความดี ความชอบประจำปี
5. เพื่อพัฒนาทักษะ และสมรรถนะของบุคลากรให้สามารถบรรลุเป้าหมายขององค์กร
6. เพื่อให้เห็นสภาพปัญหาและอุปสรรคในการทำงานเพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงระบบ และพัฒนาบุคลากร
หลักการประเมินผลการปฏิบัติงาน ใช้การประเมินแบบ 360 องศา ได้แก่ผู้บังคับบัญชา(ผู้ประเมินหลัก) เพื่อนร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา/ผู้รับบริการ และแหล่งข้อมูลอื่น ทั้งนี้อาจให้ผู้รับการประเมินประเมินตนเองด้วยก็ได้
รูปแบบและแนวทางการประเมินผลการปฏิบัติงาน
1. รูปแบบและแนวทางเกี่ยวกับผู้ประเมิน
1.1 ผู้ประเมินจะอยู่ในรูปแบบคณะกรรมการและมีการกลั่นกรอง 2 ระดับ เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้ง
1.2 ผู้ประเมินต้องได้รับการอบรมและพัฒนาให้สามารถประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐานเหมือนกัน
1.3 ผู้ประเมินต้องสามารถชี้บ่งจุดอ่อน/จุดแข็งของผู้รับการประเมินได้
1.4 ผู้ประเมินต้องสามารถสอนแนะผู้รับการประเมินระหว่างการปฏิบัติงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้
2. รูปแบบและแนวทางเกี่ยวกับผู้รับการประเมิน
2.1 ผู้รับการประเมิน/บุคลากรต้องมีส่วนร่วมในการประเมินโดยการแสดงความคิดเห็น รับรู้ และยอมรับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเป้าหมายในการประเมิน และต้องทำข้อตกลงร่วมกับ ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นก่อนถึงรอบการประเมิน
2.2 ต้องมีกระบวนการและวิธีการในการปรับปรุงและพัฒนาบุคลากรรายบุคคลอย่างเหมาะสม และเป็นที่ยอมรับ
3.รูปแบบและแนวทางเกี่ยวกับกระบวนการและวิธีการประเมิน
3.1การประเมินประกอบด้วย 2 ส่วน คือ การประเมินผลงานตามข้อตกลง และการประเมินทักษะและความสามารถเชิงสมรรถนะ (Competency) โดยมีสัดส่วนข้อตกลง ทักษะและความสามารถเชิงสมรรถนะตามที่กำหนด ของแต่ละสายของบุคลากร
3.2การประเมินความสามารถเชิงสมรรถนะ เป็นการประเมิน 360 องศา โดยเป็นการประเมินจากผู้บังคับบัญชาเบื้องต้น ร้อยละ 60 และผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นอีกร้อยละ 40
3.3การประเมินนี้ใช้กับข้าราชการและลูกจ้างทุกคน การนำผลการประเมินไปใช้
1. ผลการประเมินการปฏิบัติงานของบุคลากรจะต้องได้คะแนนผลการปฏิบัติงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 จึงถือว่าผ่านการประเมิน ทั้งนี้จะต้องได้คะแนนประเมินแต่ละส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ของคะแนนผลการประเมินในแต่ละส่วน จึงจะถือว่าผ่านการประเมิน
2. ผู้ได้รับคะแนนการประเมินต่ำกว่าร้อยละ 60 จะได้รับการวางแผนเพื่อการพัฒนารายบุคคลจากผู้บังคับบัญชาเป็นพิเศษ
3. สำหรับผู้ที่ได้รับคะแนนมากกว่าร้อยละ 60 จะต้องได้รับการพัฒนาในจุดอ่อน และเสริมจุดแข็งเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับตัวเองด้วย
4. ผลการประเมินส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในการพิจารณาเส้นทางสายอาชีพ (Career path) ของบุคลากรในบางตำแหน่งและบางระดับ
5. ผลการประเมินส่วนที่จะนำไปประเมิน/พิจารณาความดีความชอบนั้น จะต้องปรับและดำเนินการให้สอดคล้องกับระบบการประเมิน และเกณฑ์การพิจารณาความดีความชอบของ กพ
สวัสดีค่ะ คุณจงดี
อ่านการประเมินผลการปฏิบัติงานของคุณแล้วมาย้อนนึกถึงการที่ได้เป็นคณะกรรมการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษาเพื่อประกอบการพิจารณาความดีความชอบในแต่ละปี พวกเราที่เป็นคณะกรรมการก็ลงพื้นที่ประเมินผลตามสภาพจริงซึ่งสถานศึกษาแต่ละแห่งได้จัดนิทรรศการไว้ให้เราดู ว่ากันว่าเชิงประจักษ์นั่นแหละ พวกเราก็ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งอย่างเข้มแข็ง เป็นไปตามสภาพจริง....อย่างจริงจัง
เรียงลำดับคะเนนตามสภาพจริงที่เราประจักษ์....แต่ผลของความดีความชอบไม่ยักเป็นไปตามนั้น
มีตัวแปรแทรกซ้อนเยอะแยะ.....กล่าวในที่นี้คงไม่หมด หรือกล่าวไม่ได้นะ
อะไร..กัน...ทำไม.....จึงเป็นเช่นนี้
เรียนท่านอาจารย์ จงดี
หลักการใช้ PM+PA นั้นดีจริงๆครับ ใช้เพื่อพัฒนา แต่ส่วนใหญ่ เห็นแต่นำไปให้
"ขั้นบันได ไม่ใส่ใจ เรื่อง ฅน" ครับ
สวัสดีค่ะ คุณวิไล และท่านอาจารย์หมอ
การประเมินผลการปฏิบัติงานที่จะทำให้ตรงไปตรงมา ยุติธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ และถูกใจทุกคน เป็นเรื่องยากจริง ๆ มีตัวแปรแทรกซ้อนเยอะแยะ อย่างที่คุณวิไลบอก เมื่อขึ้นมาเป็นผู้บริหาร จึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะถ้าการประเมินผลไม่ยุติธรรม เลือกปฏิบัติ แบ่งพรรคแบ่งพวก ใช้ความเห็นมากกว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานเสียกำลังใจ ก่อให้เกิดความแตกแยก หมดศรัทธากับผู้บริหาร ไม่เชื่อมั่นในระบบ และยังทำให้เกิดระบบประจบสอพลอ และสิ่งที่ไม่ดีอีกมากมาย จากประสบการณ์การประเมินผลการปฏิบัติงานบุคลากรมาหลายปี ได้พยายามวางระบบ และพัฒนามาหลายปี พบว่า ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการประเมินผลการปฏิบัติงาน มีดังนี้
1. การมีส่วนร่วมของบุคลากรในการ
- จัดวางระบบการประเมิน
- การกำหนดภาระงาน
- การกำหนดค่าน้ำหนักงาน
- KPI
- การกำหนดความสามารถเชิงสมรรถนะ
- การกำหนดระดับทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติ
งาน
- การจัดทำแบบประเมินขีดความสามารถในการ
ปฏิบัติงานของงานทุกงาน
- กำหนดเกณฑ์การประเมินและการให้คะแนน
- กำหนดผู้ประเมิน และขั้นตอนการประเมิน
2. ชี้แจงทำความเข้าใจให้ตรงกันระหว่างผู้ประเมิน
และผู้รับการประเมิน
3. การจัดทำคู่มือการประเมินผลการปฏิบัติงานแจกทุก
คน
4. ให้บุคลากรทุกคนจัดทำข้อตกลงการปฏิบัติงาน
(PA)
5. การประเมินขีดความสามารถในการปฏิบัติงาน
6. การประเมินทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน
หลักการดีมากค่ะ สมควรที่หลายหน่วยงานได้นำไปปรับหรือพัฒนาให้เข้ากับหน่วยงานตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม หลักฐานต่างๆที่สร้างขึ้นมาเพื่อตรวจสอบ ควรพิจารณาครอบคลุมถึงผลลัพธ์สุดท้ายที่ปรากฎและเกิดประโยชน์จริงต่อหน่วยงาน ตัวอย่างเช่น คุณภาพของงานวิจัยที่ดีไม่ใช่คำนึงแต่ปริมาณ และอีกประการหนึ่ง ควรให้ความสำคัญกับผู้มีผลงานเด่นชัดแม้ไม่มีเอกสารประกอบเสนอด้วยเพื่อเป็นขวัญกำลังใจกับทุกคน