วันนี้วันหยุด อากาศร้อนมาก
สัญญาไว้กับหมาตั้งแต่ 2-3 วันที่แล้ว ว่าจะอาบน้ำให้
แต่ก็.. มัวขลุกอยู่หน้าคอมเพลิน จนผัดวันประกันพรุ่งกับมันทุกวัน
วันนี้เค้ามอมสุดขีด
ประกอบกับเจ้านายง่วงจัดๆ
เลยแก้ง่วง โดยการอาบน้ำให้หมาซะเลย
อาบเสร็จเห็นขนเค้าฟูฟ่อง หน้ามอม น่ากอดมาก
จึงจับเอามาถ่ายรูปซะเลย
ชูจังป่วยมา 1 ปีเต็มๆ
กินอะไรไม่ได้ (ไม่ยอมกิน)
พาไปหาหมอฉีดยาบำรุง หลายเข็มแต่ก็อาการไม่ดีขึ้น
จนหมอบอกว่า "พอดีกว่านะ"
เราถามหมอว่า "เค้าเป็นอะไร ? "
หมอตอบว่าอาจจะเพราะชรา การดูดซึมของลำไส้จึงไม่ดี
หรือไม่ก็..อาจจะเป็นมะเร็ง
แล้วหมอก็บอกว่า.. ถ้าอยากรู้ ก็คงต้องตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
เราปฏิเสธ !
ไม่ใช่เพราะเสียดายเงินค่าตรวจหรอกนะหรอกนะ
หากว่าเงินสามารถซื้อ และยื้อชีวิตเค้าให้อยู่กับเราต่อได้
เรายินดีจ่ายให้.. เท่าไหร่เท่ากัน
(แม้เจ้านาย ต้องกลับมากินมาม่าทุกวันก็ยินดี)
แต่เราคิดว่า.. เค้าอายุมากแล้ว
ตรวจไปก็เจ็บตัว
ไม่ว่าจะเป็นเจาะเลือดเอย หรือส่องกล้อง (มีมั้ยเนาะของหมา?)
ต่อให้ X-ray ก็เถอะ.. ทำไปรู้ไป เพื่ออะไร ?
ถ้ารู้แล้วจะทำอย่างไร ?
ถ้าเจอว่าเค้าเป็นมะเร็ง จะผ่าตัดเหรอ ?
ผ่าตัดแล้ว..เค้าจะไม่ตายเหรอ ?
สุดท้าย.. เลือกชีวิตที่มีความสุขให้กับเค้าดีกว่า
ไม่ต้องเจ็บปวด.. ไม่ต้องทรมาน
เค้าอยู่กับเราได้แค่ไหนก็แค่นั้น...
ไม่ต้องไปยื้อแย่งชีวิตกับมัจจุราช
ในเมื่อรู้ว่าต้องตาย
ในเมื่อเริ่มได้กลิ่นอายของความพลัดพราก
ระหว่างที่เค้ายังมีลมหายใจ
ไยไม่ให้ความรัก และมอบสิ่งดีๆ ที่เราสามารถให้เค้าได้ให้เต็มที่
เพื่อให้เค้าได้รู้ ก่อนที่เค้าจะจากไป
ว่า.. เรารักเค้าแค่ไหน
ไม่อยากให้เค้าเจ็บตัว..แค่เพราะอยากรู้
เมื่อหมอหมารักษาไม่ไหว
จึงอาศัยวิชา "Palliative care" ที่พอรู้งูๆปลาๆ
มาใช้กับหมาตัวเองซะเลย
จากนั้น...ตั้งแต่ พฤศจิกายนปี 49 ก็เริ่มพยายามทำใจ
เตรียมใจไว้ตลอดเวลาเพื่อรอรับการพลักพราก
เคยผ่านวิกฤติของชีวิตตอนเสียแม่มาแล้ว
เสียหมารักทำไมจะทำใจอีกสักครั้งไม่ได้
คิดได้ดังนั้น จึงเตรียมเรื่องราวหลังการตายให้มันก่อนความตาย
ถึงขนาดโทรไปที่บ้าน จองพื้นที่หลังบ้าน ขอเอาไว้ฝังเจ้าหมาน้อย
แล้วก็โทรบอกน้องที่ราชภัฎสงขลาว่า
วันไหน "เค้า" เป็นอะไรไป ช่วยขับรถพา "เค้า" ไปฝังที่บ้านพัทลุงด้วย
ไม่อยากจะฝังไว้แถวข้างๆแฟลต
กลัวสุสานเค้าจะถูกรื้อ เพราะว่า 'ขุดทำโน่นทำนี่กันบ่อยมากกกกก'
จากนั้นก็รักษาเองค่ะ
เค้าไม่ยอมกิน ก็ Feed ให้เองสิ
ทีคนไข้ยังใส่ NG feed ให้ได้นี่
จึงซื้ออาหารผง (นมที่ใช้ feed ให้คนไข้) ชงให้เค้ากิน
จากที่ Feed 20 cc x 3 feed / day
รับได้บ้าง อ้วกออกซะบ้าง
ต่อมาก็รับได้ดีขึ้น จนตอนนี้ 2 ออนซ์ x 4 feed / day
ไม่รวมหมูปิ้ง ไส้กรอก ไก่ทอด ที่บดแหลกๆพอเคี้ยวง่าย
ใส่จานวางให้กินเป็นอาหารเสริม บริหารฟันที่เริ่มโยกเยก
ได้ผลค่ะ... ใครจะนึกว่าได้ผล
จากหมาอ้วนขนฟู เมื่อ 1 ปีที่แล้ว
ที่ป่วยจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก เหมือนเด็กเอธิโอเปีย (ในอดีต)
ขนก็ร่วงหรอมแหรม เห็นแล้วเห็นซึ้งถึงสัจธรรมชีวิตสุดๆ
แต่แล้วก็เหมือนได้ชีวิตใหม่
ตอนนี้เริ่มมีเนื้อมีหนัง ขนก็งอกทั้งยาว ทั้งนิ่ม
มีเพลง 14 อีกครั้ง แต่สำหรับชูจัง ต้องร้องว่า "เป็นเด็กอีกครั้ง"
พาไปไหน มีคนถามว่า.. "อายุกี่เดือนแล้ว"
เราบอกว่า "เกือบจะ 11 ปีแล้ว"
เขานึกว่าฟังผิด ถามว่า "11 เดือนหรือ ? "
เราย้ำว่า "ไม่ใช่ 11 ปีค่ะ"
แต่ก็นะ...
พอเริ่มแข็งแรง ก็เริ่มดื้อ และเริ่มซน
เมื่อก่อนจะจับป้อน อะไรยังไงก็ไม่ดิ้น เพราะไม่มีแรง
มาตอนนี้เจ้านายมันเริ่มจับเค้าไม่ไหวแล้ว
เห็นตัวเล็กยังงี้.. แรงเยอะจริงๆ
แต่ก็นะ...
แม้จะเหนื่อยหน่อย ..ก็พอใจที่เค้าเป็นเช่นนี้
นี่คงเป็นอานุภาพของความรัก ที่เราทำให้เค้ามั้ง
เค้าถึงได้รู้ว่า.. เค้ายังไปจากเราไม่ได้
จึงเริ่มต้นชีวิต.. อยู่กับเราใหม่
ขอบใจนะชูจัง... ที่อยู่กับนายต่อ
ขอบคุณสวรรค์ด้วยค่ะ.. ที่ยังไม่เอาเค้าไป
^________________^