เมื่อคืนได้มีโอกาสนั่งคุยกับน้องๆ ในเครือญาติ สนุกสนานตามเทศกาล ดึกๆ มีการเล่าเรื่องต่างๆ นานาในอดีตให้น้องๆ ฟัง 1 ในเรื่องที่ถามน้องๆ คือ เรื่องเงินปากฝี
จากที่ได้อ่านมาจากหนังสือ "วางมีดหมอมาหัวร่อหน้าไมค์" ของ อ.นพ.พันธุ์ศักดิ์ เลยถามผู้ร่วมวงเสวนา ว่า ทำไมเวลาคนตายทำไมนำเงินใส่ปากก่อนเผา?
* จะได้มีเงินไปใช้ชาติหน้า
* จะได้นำมาเป็นเครื่องรางของขลัง
2 คำตอบนี้ได้รับการสนับสนุนมากที่สุด แต่พอน้องๆ ได้ฟังเฉลยก็หวังว่าจะได้ฉุกคิดอะไรบางอย่างได้ เพราะจริงๆ เป็นปริศนาธรรมที่ทิ้งไว้ว่า คนเราตายไปแม้แต่เงินบาทเดียวก็นำติดตัวไปไม่ได้
ด้วยรัก
พิธีกรรมทุกเรื่อง มีปริศนาธรรมแฝงไว้หมดครับ แต่คนไม่รู้ จึงได้แต่ปฏิบัติสืบต่อกันมาโดยไม่ทราบเหตุผล หรือทราบแต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริง
เห็นด้วยครับ ยิ่งปัจจุบันคนรุ่นใหม่ยิ่งห่างไกลปริศนาที่แฝงอยู่มากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต่างๆ ในการดำเนินชีวิตที่มีความประมาทมากขึ้น
ขอบคุณครับ
เงินปากผีเป็นเรื่องที่มองได้ 2 ทาง
1. ทางวัฒนธรรมประเพณี
2. ทางสัจธรรม
แต่อิ๋วมีอีกทางหนึ่งที่น่าจะเป็นความรู้ให้กับคนอื่นๆ คือ ทางไสยศาสตร์ ?
บางคนอาจจะไม่เชื่อ หรือ เชื่ออย่างงมงาย แต่ทางไสยศาสตร์แล้วอิ๋วเชื่อว่ามีจริง "เพราะบ้านอยู่ติดกับบ้านของหมอผี (น้าของอิ๋วเอง) หรือหมอไสยศาสตร์
มันมีเหตุการณ์หลายเหตุการที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับไสยศสตร์ ตั้งแต่เด็กจนโตมาก็ 28 ยังเกี่ยวข้องอยู่เสมอๆ มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง....จะเล่าให้ฟัง เมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน มีคนไข้(ที่ป่วยแบบไม่รู้สาเหตุ) ที่เขาไปรับการรักษาพยาบาลมาหลายโรงพยาบาลแล้ว ฐานะก็ปานกลาง เป็นคนงานก่อสร้าง หน้าตาเขาก็สวยนะ แต่ด้วยเพราะป่วยจึงดูทรุดโทรม ในตาล่องลอย ลึกโบ๋ ผิวพรรณดูเหี่ยวแห้งเฉา เขาได้ทำการรักษามานานหลายปี(ประมาณ 3 ปีเห็นจะได้) ก็เข้าๆออกๆ แล้วหมอก็สรุปว่าเขาป่วยทางจิต+เครียด+พักผ่อนไม่เพียงพอ
อาการของเขาก็คือ ตอนกลางคืนเขาจะต้องการผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ใช่สามีเขา เขาจะเรียกหาอยู่ตลอดเวลา สามีของพี่เขาจะคอยจับ+ล่ามไว้ไม่ให้ไป ญาติๆ ก็ช่วยกัน เป็นอย่างนี้อยู่นาน เมื่อรักษาหมอแผนปัจจุบันไม่หาย ก็เลยมาพึ่งไสยศาสตร์
วันหนึ่งเขาก็ได้รับการแนะนำให้ไปหาหลวงปู่ แถวๆ โคราช (ไม่ใช่หลวงพ่อคูณนะ) ให้ดูอาการให้ หลวงปู่ก็ได้แต่อาบน้ำมนต์ให้และ บอกให้มาหาน้าของอิ๋วอีกต่อหนึ่ง เห็นเขาบอกว่าระหว่างที่ไปหาหลวงปู่นั้น ตอนที่อาบน้ำมนต์ ผู้หญิงคนนี้ก็ร้องอยู่ตลอดเวลาว่าร้อนบ้าง+หนาวบ้างสลับกันไป แล้วหลวงปูก็ถามตลอดว่าจะออกไหม? ๆๆ อยู่เหมือนกัน มัน(ผีที่สิ่งอยู่) ก็บอกว่ายอมแล้วๆๆๆๆ จะออกไปแล้วๆ แต่ท้ายสุดมันก็ออกไม่ได้ มันบอกว่าอยากจะออกแต่ก็ออกไม่ได้ หลวงปู่ท่านก็จับตัวผู้หญิงไม่ได้ใช่ไหมละ? ท่านก็เลยบอกให้มาหาน้าของอิ๋วแทน
พอมาถึงที่บ้าน อิ๋วก้ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นอะไรมาบ้าง เพราะบ้านเราติดกัน ก็เล่นๆ อยู่แถวๆนั้นไปเรื่อย บางทีก็ไปนั่งข้างๆ พี่ผู้หญิง(คนที่โดนของ) อิ๋วก็สังเกตุนะว่าพี่เขามองเราแบบตาขวางๆ แต่เราก็ไม่สนใจ
ผ่านมาถึงตอนเที่ยงเกือบบ่าย อิ๋วนอนดูทีวีอยู่ที่บ้าน ได้ยินเสียงกรีดร้องเสียงดังม๊าก ร้องแบบครวนคราง+เจ็บปวดไปด้วย (เหมือนคนโดนสาดน้ำร้อน) ก็เลยวิ่งออกไปดู ก็เห็นคุณน้าเขากำลังไล่ผีออกจากตัวพี่ผู้หญิงคนนั้นอยู่
คุณน้าจะมีมีดหมอ 1 เล่มและแส้หวายลงอาคม 1 เส้น เขาไม่ได้ตีแรงๆ เหมือนในหนังนะ เขาแค่เอาหวายแตะๆ แปะๆ ตามตัวเท่านั้นเอง แตะตรงไหนก็ร้องบอกว่าร้อนๆๆๆๆ ทุกที แล้วน้าก็พูดเหมือนเดิมว่า "จะออกไหมๆ" พี่ผู้หญิงเขาก็บอกเหมือนเดิมว่ายอมแล้วววว ยอมแล้วววว จะออกแล้วววว จะไปแล้วววว อยู่อย่างเนี๊ยะตั้งนาน พอน้าหยุดไม่ทำอะไรมันก็ยังไม่ไปไหนยังนั้งยิ้มหัวเราะ แล้วก็พูดว่ากูไม่ออก กูไม่ไป.... น้าอิ๋วก็เลยหมดความอดทน เอามีดหมอจ่อที่หน้าผาก + ตามฝ่ามือ + ฝ่าเท้า มันก็ร้องๆๆๆๆๆๆ เจ็บๆๆๆๆ อีกเหมือนเดิม ทีนี้น้าอิ๋วก็บอกให้ลูกชายคนโตวิ่งไปเอาน้ำมนต์บนบ้านมาเทใส่ในถัง ซึ่งอิ๋วก็ทำหน้าที่ตักน้ำจากตุ๋ม(โอ่งมังกร) มาเทใส่ถ้งที่ผสมน้ำมนต์
แล้วน้าเขาก็จับกรอกปากพี่ผู้หญิงเขาหมดไป 1 ถัง ก็ยังไม่ออก แล้วถังที่ 2 3 4 และสุดท้ายตุ๋ม ก็หมดน้ำไป
น้าจึงบอกให้อิ๋วไปเอาน้ำจากโอ่ง (คนอีสานจะมีโอ่งแดง/น้ำเงินที่ใหญ่ๆ สูงๆ เท่าตัวคนเกือนทุกบ้าน) อิ๋วก็เปิดฝาโอ่งดูมีน้ำเต็มเลย ซักพักก็ตัก ตักแล้วก็ตักไปเทใสถังผสมน้ำมนต์ เชื่อไหม ผู้หญิงตัวเล็ก ผอมๆ กินน้ำหมดโอ่งใหญ่ๆ ใบนี้อีกใบ.......
ท้องก็ไม่ได้ป่องขึ้นซักนิด มีแค่เปียกๆ นิดหน่อยเท่านั้นเอง น่าแปลกมาก (อันนี้มาเอะใจทีหลังจากนั้น 2-3 วัน) แล้วน้าอิ๋วก็เลยสังเกตุดูว่า ทำอย่างไรก็ไม่ออก ซักพักเขาก็ขึ้นไปบนบ้าน ซึ่งจะมีหิ้งพระบูชาอยู่ เขาก็ไปนั่งสมาธิ/ตั้งจิตอะไรซักอย่างนี้แหละ แล้วเขาก็กลับลงมา มาจับดูที่คอของผู้หญิงคนนี้ แล้วเขาก็ล้วงมือ (ผู้ชายนะเนี๊ยะ) เข้าไปในปาก ลึกประมาณถึงข้อมือ และซักพักก็ดึงมือออกมาพร้อมกับเหรียญ 5 บาทรุ่นเก่าๆ ที่เป็นเหรียญใหญ่ๆสมัยก่อน ที่มีรอยไหมสีดำๆ+น้ำตาลๆ มีขี้สูท (เป็นคล้ายๆดินเหนียวสีดำ) ติดปะปนออกมาด้วย
น้าก็ถามมันอีกว่า จะออกไปได้ยัง มันบอกว่าได้แล้วจะออกไปแล้ว ซักพักผู้หญิงคนนั้นก็อ้วกออกมา แต่ไม่เหมือนอ๊วกปกติ มันจะเป็นเหลืองๆเหมือนไข่ไก่ที่เราตีสำหรับทอด + มีเลือดอยู่ก้อนหนึ่งกลมๆ คล้ายๆตัวอ่อนของไข่ไก่ ที่กำลังจะเริ่มเป็นตัวอ่อน
มีกลิ่นเหม็นคาวออกมาด้วยหละ น้าอิ๋วก็เอาเงินที่ได้มาเนี๊ยะมานั่งดู แล้วก็พูดว่า "เนี๊ยะมันเงินปากผีตายโหง เขาเอามาลงอาคมกักวิญญาณผีที่เขาสิงผู้หญิงเอาไว้ ไม่ให้ออกไปที่ไหนได้" แล้วก็เอาเงินปากผีนี้ใส่ในขั้นน้ำมนต์
แล้วเหตุการณ์สงบลง ผีตัวนี้ไม่ก้าวร้าวเหมือนเดิมแต่ก็ยังไม่ออกจากร่างของพี่ผู้หญิง บอกว่าจะไปตอนเช้ามืด ขอขึ้นไปไหว้พระที่บนบ้านก่อน เพื่อขอพึ่งบุญบารมีหลวงปู่บนหิ้งพระ น้าอิ๋วก็ให้ขึ้นไป ในระหว่างที่เดินขึ้นไปบนบ้านนั้น ผีก็พร่ำบ่นพึมพำไปตลอดว่า "ท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ๆๆๆๆๆ " แล้วพอไปถึงหน้าหิ้งพระก็ก้มกราบ ตั้งหลายครั้ง นับ 10 ครั้งเห็นจะได้ แล้วญาติๆ เขาก็หิ้วปีกลงมาข้างล่าง
หลังจากนั้นตอนเช้าอิ๋วก็ถามหลานว่าเป็นไง ผีตัวนั้นไปหรือยัง หลานก็บอกว่า ออกไปแล้ว น้าบุญเชิญวิญญาณเขาไปสิ่งไว้ในก้อนหินก้อนหนึ่งแล้วฝากให้พ่อของอิ๋วเอาไปส่งที่เมืองพล เพราะสงสารเขาที่ไม่มีที่ไป ก็ให้เขาไปตามทางที่เขามานั่นแหละ ....
แล้วพี่ผู้หญิงก็คล้ายๆ ว่าจะคุยกันรู้เรื่อง แต่ก็ยังดูอ่อนเพลีย ต้องพักผ่อนอีกหน่อย น้าอิ๋วเขาก็อาบน้ำมนต์ให้อีกครั้ง
กระนั้นเองสอบถามญาติเขาไปมาเรื่องราวได้ความว่า "พี่คนนี้มีผู้ชายคนนึงมาชอบ ซึ่งพี่เขาก็ไม่สนใจเพราะมีสามีแล้ว แต่ผู้ชายคนนั้นไม่ยอมรามือ ก็ได้ไปหาหมอผีทางไสยศาสตร์ ให้เสกผีเข้า แล้วให้บังคับผู้หญิงคนนี้มานอนด้วยทุกๆคืน"..... ประมาณเนี๊ยะ
นี่แหละไสยศาสตร์ที่อิ๋วเจอมากับตัวเอง มันคงเป็นเรื่องแปลกสำหรับบางคน แต่เป็นเรื่องปกติสำหรับอิ๋วไปซะแล้ว.