วันศุกร์ที่ ๖ เมษายนที่ผ่านมา ผมไปเยี่ยมแกนนำเครือข่ายสัจจะตำบลบ้านใหม่อุดม อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา ๒ วัน ๒ คืน
วันแรกที่ไปถึง แกนนำอบรมการแปรรูปอาหารกันจบคอร์สพอดี เลยได้คุยบ้าง และทานข้าวเที่ยงกับคณะวิทยากร มาจาก มรภ.โคราช
อาหารเป็นข้าวเที่ยงบวกข้าวมันไก่ แต่ผมชอบข้าวกับยอดผักหวานมากกว่า ผสมกับหมูทอดกระเทียมแบบชาวบ้าน แห้งและอร่อยดี ดูจากอาหารแล้ว ทีมที่มาอบรมนี่ไม่ธรรมดาแน่ เพราะทำกับข้าวอร่อยน่าดู(ทีมแม่บ้านตัวจริง)
งานได้ชมนวัตกรรมที่ทดลองของกลุ่มแม่บ้าน คือ ข้าวแตนมังสวิรัติ เอาข้าวแตนที่ชาวบ้านทำกันอยู่เดิมเป็นข้าวแตนหมูหยอง และข้าวตังหมูหยอง มาเป็นข้าวตังมะขาวสามรส และข้าวแตนมะขามสามรส เที่ยวนี้ไม่ได้ทาน เพราะแม่บ้านเขาทำผิดสูตร กลายเป็นขนมนางเล็ดมะขามสามรสไป ......
วันนี้มีโอกาสได้คุยกับ อาจารย์สุชาติ จากทีมวิทยากรอบรมการแปรรูปอาหาร เป็นอาจารย์ที่เรียนมาทางธรรม แล้วออกจากเพศบรรพชิตมาเป็นอาจารย์สอนวิชาปรัชญา และศาสนา กิจกรรมพิเศษก็จะออกมาอบรมชาวบ้านเรื่องการแปรรูปอาหาร ทำประโยชน์ให้กับสังคมดีน๊ะ
ผมคุยเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ว่า ถ้าทำได้จะทำให้ไม่ร้อนรน มีสุข ผมบอกอาจารย์สุชาติว่า ผมไม่เป็นหนี้ เพราะเราพอเพียง ไม่เดือดร้อน .........
อาจารย์สุชาติบอกว่า ถ้าทุกคนทำได้ก็จะดี แต่ที่ผ่านมา แม้ตัวอาจารย์เอง เปรียบเหมือนรถยนต์ที่วิ่งไปที่ความเร็ว ๑๒๐ กม. ต่อชั่วโมง การจะเบรคทันทีก็คว่ำ เราต้องลดความเร็วลงก่อนเหลือ ๑๐๐หรือ เหลือ ๘๐ - ๖๐ กิโล แล้วค่อยเบรค ยังพอเอาอยู่
แต่ผมบอกว่า "เศรษฐกิจพอเพียง" ของท่านในหลวง ท่านต้องการให้เราลดแค่ ๑ใน๔ ก็พอ แล้วจะเลี้ยงตัวได้ ถ้าขณะนี้เราวิ่งด้วยความเร็ว ๑๐๐ -๑๒๐ เราก็วิ่งแค่ ๘๐-๖๐ ก็น่าจะพอไหว เราอาจไม่ทันสมัย ไม่ตามคนอื่นเขา แต่เราไม่สร้างหนี้เพิ่ม หนี้เก่าก็อดทนผ่อนให้หมด...เหนื่อยน๊ะ แต่ต้องผ่อน
พอคุยเรื่องนี้จบ ก็แยกกันไป มีโอกาสจะได้คุยเรื่องต่อน๊ะอาจารย์สุชาติ
ผมพยายามสังเกตุ และพิจารณา ปราสาทหินบ้านถนนหักอีกรอบหนึ่ง เพราะความอยากรู้เรื่อง "ศาลา อโรคยา" เหมือนเดิม ยังพอมีความเป็นไปได้ถ้าให้กษัตริย์รักษาโรคแบบนั่งรักษา (ไม่นอนรักษา) ไปสังเกตุดูแท่นที่วางศิวลึงค์ ว่าแปลกดี พื้นของปราสาทมีหินสีไม่เหมือนกัน เหมือนกันทำใหม่ ช่างโบราณคงไม่ทำแบบส่ง ๆ แน่ ตัวแท่นวางก็กลับหน้ากลับหลัง เพราะว่าการวางศิวลึงค์ควรวางหันไปทางทิศตะวันออก แต่นี้กับเป็นทิศตะวันตก
ข้อสรุปว่ามีความเป็นไปได้ แต่ชาวบ้านบอกว่ามี พระพุทธรูปแบบพุทธแบบขอมอยู่บนกำแพงเยอะมาก
น่าจะเป็น "ศาลา อโรคยา" แบบเวทมนต์มากกว่ารักษาโรคแบบใช้ยาสมุนไพร
มาเที่ยวนี้ก็ได้ความรู้ไปอีกหลายอย่าง ขอบคุณความช่างสังสัยที่ทำให้ได้ความคิด และความรู้อีกแบบ.....
ไม่มีความเห็น