ม้าตีนต้น หรือตีนแบบไหนดี?


ความเร็ว หรือความบ่อยดีกว่ากัน
  • ในรุ่นเดียวกัน ทั้งหมด 13 ชีวิต  มีวิธีการเรียนที่แตกต่างกันตามสไตล์ของใครของมัน ผ่านมาเกือบปีแล้ว พวกเราแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มคือ

  • พวก ศิราณี เรียนแบบเงียบๆ ไม่ถามอ.แต่ถ้ามีโอกาสจะถามเพื่อนๆ จิตตกได้ง่าย ต้องการความมั่นใจทั้งจากเพื่อนๆและคนรอบตัว(ครอบครัว)

  • พวก ดารา เรียนแบบมันๆ ขำๆ ถ้าไม่เข้าใจอะไร จะไม่อายที่จะถามอ.ในชั้นเรียน ชอบติวกับเพื่อนๆ ถือเป็นสีสรรของรุ่น บางครั้งเหมือนลมพัดไปมาจิตก็พัดไปมาตกบ้าง อึดบ้าง

  • พวก ฤาษี เรียนรู้เฉพาะตัว สามารถอยู่ในถ้ำของตนติดต่อกันได้หลายวันโดยไม่เจอเพื่อนๆได้ มีพฤติกรรมที่ยากจะเข้าถึง มีความคิดเป็นตัวของตัวเองมากๆ

  • พวก จอมยุทธ์ เรียนรู้ได้ว่องไว หัวดี ทำอะไรพร้อมๆกันได้บางครั้งทำงานด้วยเรียนด้วย แทบจะไม่เสียสักเรื่อง ประคองตัวได้ดีแม้ว่าจะยากแค่ไหน

ความเร็ว หรือความบ่อยดีกว่ากัน
        ที่ขึ้นชื่อว่า ม้าตีนต้น ม้าตีนกลาง หรือม้าตีนปลาย สไตล์ไหนดีกับการเรียนป.เอก ส่วนตัวดิฉันของเสนอว่า ไม่ว่าจะบุคลิก ศิราณี ดารา ฤาษี หรือจอมยุทธ์ ต่างต้องการความสม่ำเสมอในการอ่าน การคิด การค้นคว้า การเขียน สม่ำเสมอ รุ่นพี่ท่านหนึ่งใช้คำว่า "Marginal"   ชอบเลย ใช่เลยค่ะท่านคิดว่าอย่างไรคะ

หมายเลขบันทึก: 89176เขียนเมื่อ 8 เมษายน 2007 21:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 22:49 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

ผมจัดอยู่ที่พวกฤาษีและจอมยุทธครับ.....แต่ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ไม่มีขีดจำกัด..เพียงแต่จะเรียนรู้แบบใดสามารถใช้ประโยชน์กับการดำรงชีวิตและนำความรู้ที่เล่าเรียนมาก่อเกิดประโยชน์แก่บุคคลอื่น.....

สวัสดี อ.เก่ง  ตามมาให้กำลังใจครับ  สำหรับคนเก่งของ มข.  สู้สู้..

เรียน ท่านรองรังสรรค์

ต้องขอบพระคุณอ.ที่เช้ามาทักทายและให้กำลังใจค่ะ เก่งจะสู้ต่อไปค่ะ คิดเสมอว่าต้องกลับมาทำประโยชน์อะไรบ้างเพื่อมข.เราค่ะตอนนี้เหมือนกับอยู่อีกโลกหนึ่งเลยค่ะ คิดถึงทุกคนค่ะ

เห็นด้วยค้าบบ.. ที่ผมเรียน ก็ คล้ายๆ แบบ ที่ อ. ว่าหล่ะ ส่วนผมคงเป็นแบบ ฤาษี มั้ง .............. ส่วน ม้าตีน ต้น หรือ ม้าตีนปลาย ... ผมเห็นว่า ผมก็เคยเป็นตีนต้น ทำงานอะไรด้วยสปีด แต่หัวข้อก็ล้มสัก สิบครั้งได้ ในเวลาเดียวกัน เพื่อนๆ ก็ ล้มมาสามครั้ง.. เลยคิดว่า ตีนต้นหรือ ตีนปลาย คงไม่มีผลอะไร ..แต่สิ่งที่ได้จากการเรียนรู้ก็คือ ศึกษาจนให้ได้ผลึกของแก่นแท้ เสียก่อน จึงจับต้นชนปลายมาตกผลึกเป็นโมเดลแบบฉบับของเราที่คิดว่าเป็นประโยชน์ .. และขณะเดียวกัน.. การใช้เวลาในการศึกษา ถ้าเร่งไป เครียดไปก็ไม่ดี เดี๋ยวสุขภาพแย่ ร่างการเสีย ..และถ้าเอ้อระเหยไป ก็จะทำให้เฉื่อยชาขาดการต่อเนื่องทางความคิด.. อย่างไร ก็ตาม เป็นกำลังใจให้กับ อ.และหลายๆท่านที่กำลังศึกษานะครับ ..ขอบพระคุณ

ขอบคุณค่ะอ.นิรันดร์ เป็นกำลังใจเช่นกันค่ะ

อาจารย์ ผมพึ่งกลับมาจากค่ายครับ แหะๆ

ค่ายนี้สนุกมากเลยคับ

ขอบคุณอาจารย์มากนะครับ

ขอบคุณค่ะ ดีใจที่ทำให้นักศึกษาที่จะเป็นอนาคตของพวกเราได้อะไรๆกับไปบ้าง

สวัสดีค่ะอาจารย์เก่ง

หนูไม่แน่ใจค่ะว่าอาจารย์จะยังทำเว็บนี้อยู่หรือไม่ หนูเป็นนักศึกษา เศรษฐศาสตร์ วจก.ค่ะ(MS19) และเคยทำกิจกรรมทำกิจกรรมหน้าต่างโจอารีมาแล้ว (2ครั้ง) ตอนนี้ได้เล็งเห็นความสำคัญของกิจกรรมนี้มากค่ะ เพราะต้องนำมาใช้เพื่อรับน้องในระดับ ป.โท หนูอยากจะขอพระคุณอาจารย์ค่ะ แว๊บแรกที่ได้รับหน้าที่นี้มา หนูนึกถึงกิจกรรมนี้ทันที และจะนำไปใช้ให้ถูกวิธีค่ะ และจพยายามใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์ที่อาจารย์เคยสอน

ขอบพระคุณอาจารย์เก่งค่ะ...

กรภัทร์

สำหรับความรู้สึกของคนเป็นครู ได้ยินผลลัพธ์เช่นนี้ ก็อิ่มใจแล้วค่ะ เรียนรู้กับสิ่งต่างๆรอบตัวไปนะคะ ไม่มีบทเรียนใดที่จะยิ่งใหญ่เท่ากับบทเรียนชีวิตอีกแล้ว จาก อ.เก่ง

อาจารย์มี facebook มั๊ยครับ จะได้ติดตามและ add เพื่อติดตาผลงาน :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท