อ้างถึง ภิกษุเห็นผี ของคุณโยมธรรมาวุธ ก็จะนำพระสูตรเหล่านี้มาเล่า...
สามภาณ เป็นพระสูตรสั้นๆ ๓ สูตร... ส่วน คิริมานนทสูตร... เป็นพระสูตรยาว... สมัยก่อนจะใช้สวดในงานสืบชะตาต่ออายุ (ปักษ์ใต้เรียก บังสุกุลเป็น)... นั่นคือ ถ้าไม่สวดสามภาณก็สวดคิริมานนท์... เมื่อผู้เขียนแรกบวชก็เคยเรียนเคยสวด แต่เดียวนี้ พระก็ขี้เกียจสวด โยมก็ขี้เกียจฟัง ก็เลยนำเพียงบทโพชฌงค์มาสวดเท่านั้น...สุดท้ายพระรุ่นใหม่ๆ เมื่อไม่เรียนจึงสวดไม่ได้ และพระรุ่นกลางเก่ากลางใหม่แบบผู้เขียนก็สวดไม่ได้เพราะลืมเลือนไปแล้ว...
สามภาณ คือ มหากัสสปโพชฌังคสูตร... เรื่องย่อว่า พระมหากัสสปะ อาพาธหนัก พระพุทธเจ้าก็เสต็จไปทรงเยี่ยม และทรงแสดง โพชฌงค์ ๗ ให้ฟัง พระมหากัสสปะ สดับตามธรรม ค่อยๆ พิจารณาก็หายจากอาพาธ...
มหาโมคคัลลานโพชฌังคสูตร... เรื่องย่อว่า พระมหาโมคคัลลานะ อาพาธหนัก พระพุทธเจ้าก็เสด็จไปเยี่ยม...ฯลฯ..ทรงแสดงโพชฌงค์ ๗...ฯลฯ.. พระมหาโมคคัลลานะ ก็หายจากอาพาธ...
มหาจุนทโพชฌังคสูตร... เรื่องย่อว่า พระพุทธเจ้าทรงอาพาธหนัก พระมหาจุนท์ก็เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าถึงที่ประทับ .... พระพุทธเจ้าก็ทรงรับสั่งให้พระมหาจุนท์แสดงโพชฌงค์ ๗ ให้ทรงสดับ...หลังจากทรงสดับแล้ว พระพุทธเจ้าก็ทรงหายจากอาพาธ....
....สามภาณ นี้ อาจสรุปได้ว่า เมื่ออาพาธหรือป่วยไข้ก็ให้ใคร่ครวญโพชฌงค์ ๗ ก็อาจหายได้... เราจึงนิยมนำมาสวดให้ผู้สูงอายุฟัง หรือแพทย์แผนโบราณก็มักจะใช้เป็นคาถาเสกยาชนิดต่างๆ ทำนอง ธรรมโอสถ..
....
คิริมานนทสูตร ก็คล้ายๆ กับ สามภาณข้างต้น แต่รายละเอียดแตกต่างกัน กล่าวคือ...พระคิริมานนท์อาพาธหนัก... พระอานนท์จึงเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าแล้วกราบทูลให้พระพุทธเจ้าทรงทราบเพื่อจะได้เสด็จไปเยี่ยม... พระพุทธเจ้าก็รับสั่งให้พระอานนท์เรียน สัญญา ๑๐ ให้จำแล้วนำไปแสดงให้พระคิริมานนท์ฟัง แล้วพระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงสัญญา ๑๐ ต่อพระอานนท์....
พระอานนท์ครั้นเรียนจำแล้วก็กลับมายังที่พักของพระคิริมานนท์... แสดง สัญญา ๑๐ ให้พระคิริมานนท์ฟังตามที่ได้เรียนมาก... พระคิริมานนท์ครั้นได้สดับสัญญา ๑๐ แล้ว ก็หายจากอาพาธ..
.....
โดยส่วนตัว เวลาผู้เขียนอาพาธหนัก ตอนที่อะไรก็ไม่สามารถช่วยให้ทุเลาได้แล้ว ก็มักจะใคร่ครวญโพชฌงค์ ๗ และสัญญา ๑๐ นี้ เพื่อสอนตนเอง....
โพชฌงค์ ๗ และสัญญา ๑๐ เป็นอย่างไร ? ... ผู้สนใจสามารถค้นหาในอินเตอร์เน็ตได้ เพราะมีผู้นำมาเสนอไว้เยอะแล้ว...
หรือผู้เขียนอาจค่อยนำมาเสนอในโอกาสต่อไป.....
คนกลัวผี ผีไม่ตัวตน แต่ทำไม่คนถึงกลัว บ้างทานบอกว่ากลัวความมืด ไม่ได้กลัวผีหรอก แต่ว่าเมื่อให้ไปในที่ต่างๆ ที่มีแส่งสว่างเขาก็ไม่กล้าไปคนเดียว แท้จริงเขากลัวอะไรกันแน่
มงคล |
ท่านพุทธทาสชอบอ้างว่า
ตะถะตา เช่นนั้นเอง
ไม่ต้องคิดอะไรให้มาก ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องผีและหนังผียังทันสมัยอยู่ทั่วโลก
เจริญพร
กราบนมัสการค่ะ
ตอนอ่านเรื่อง สามภาณและคิริมานนทสูตร นี้ไปเรื่อยๆ เห็นหลวงพี่กล่าวถึง โพชฌงค์ ๗ หลายครั้ง กำลังนึกในใจว่าอยากอ่านเรื่องโพชณงค์ ๗ เพราะเคยอ่านที่ผู้อื่นเขียนอยู่บ้างแต่ไม่ค่อยได้ความเข้าใจเท่าใด ถ้าหลวงพี่เขียนอธิบายทีละองค์ประกอบคงจะได้ความเข้าใจมากขึ้น ขออนุญาตให้หลวงพี่ให้ "ทาน" โดยการอธิบายธรรมให้ดิฉันฟังเมื่อมีโอกาสด้วยนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ
เห็นด้วยกับอาจารย์กมลวัลย์ครับ...ใครจะสาธยายธรรมให้เข้าใจได้ง่ายเท่าพระอาจารย์ของกระผมเล่าครับ...อิอิ
สงสัยอยู่ว่าอาพาธนั้นหนักไปในทางป่วยใจหรือไม่หนอ...
โพชฌงค์ ๗ มีเขียนไว้มาก และมีหนังสีอบางเล่มที่อธิบายเรื่องนี้โดยเฉพาะ....
อาตมาจะเขียนอธิบายย่อๆ คงไม่นานเกินรอ อาจารย์คงจะได้อ่าน...
..........
ท่านเลขาฯ ถามมานั้น ไม่แน่ใจว่า อาพาธของใคร ?
ถ้าเป็นของพระพุทธเจ้าหรือพระสาวก ..ท่านเหล่านั้นเป็นพระอรหันต์ ท่านป่วยกาย ไม่ป่วยใจ...
ถ้าเป็นของอาตมา... ป่วยทางใจต้องใช้หมวดธรรมะอื่นระงับ...ธรรมะหมวดนี้ เน้นระงับอาการป่วยทางกาย
เจริญพร
กราบนมัสการครับพระคุณเจ้า
กราบสามครั้งครับ
อนุโมทนา...
นักปราชญ์ท่านเปรียบเทียบพระไตรปิฏกว่าเหมือน...
แผ่นดิน... แผ่นดินเป็นที่อยู่อาศัย เป็นที่ทำกิน เป็นที่ท่องเที่ยว...พระไตรปิฏกก็ฉันนั้น ผู้ศรัทธาอาจศึกษาเพื่อใช้เป็นแนวทางดำรงชีวิต และเมื่อกำลังศึกษาก็ประดุจท่องเที่ยวไปในโลกแห่งจินตนาการได้
ท้องฟ้า... นกเมื่อบินไป โดยมุ่งหมายว่าให้ทั่วทั้งท้องฟ้า บินไปให้สุดขอบฟ้า นกตัวนั้นก็จะหมดอายุขัยเสียก่อน...พระไตรปิฏกก็ฉันนั้น ผู้คิดว่าจะศึกษาให้เจนจบครบทุกประการ ก็คงจะสิ้นอายุขัยเสียก่อนเช่นกัน
ทะเล... ทะเลมีตื้นมีลึก มีหยั่งถึงและไม่สามารถหยั่งถึง ประกอบด้วยสรรพสัตว์และอัญมณีหลากหลาย...พระไตรปิฏกก็ฉันนั้น มีทั้งยากและง่าย มีทั้งเข้าใจได้และไม่อาจเข้าใจ ประกอบด้วยสุตร เคยยะ คาถา อุทาน เป็นต้น
....ฯลฯ....
เจริญพร
กราบนมัสการครับพระคุณเจ้า
ถือเป็นพรอันประเสริฐที่กระผมได้รับครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
กราบ ๓ ครับ
พระอาจารย์ครับ...ป่วยใจน่ะ...กระผมกำลังตรวจสอบตัวเองอยู่...พยายามวัดระดับไข้(ใคร่)ว่ามุ่งสู่มิจฉาทิฐิมากน้อยแค่ไหน...
พอดีกระตุ้นพระอาจารย์ให้เปิดเผยว่ามีธรรมะระงับอาการทางใจแล้ว...ผมจะคอยทวงถามถึง...ราวกับคนไข้รอยาปานนั้น...
ยิ่ง
ไตรปิฎก...กินความหมายถึงไหนกันครับ...
บางคนก็ว่า...เพียงพบประตูเข้า ก็หยั่งเห็นโลก
นมัสการ หลวงพี่ชัยวุธ ครับ
...ก่อนนอน ผมหยิบหนังสือคิริมานนทสูตร ที่พี่พรให้ตอนปีใหม่ปีนี้ขึ้นมาอ่านเป็นครั้งแรก รู้สึกว่าอ่านยากมากแต่จับประโยคหนึ่งได้ก่อนจะหลับไป ..เมื่ออยากรู้ว่าเราจะได้รับความสุขในสวรรค์ หรือจะได้รับความทุกข์ในนรก ก็สังเกตใจของเราในเวลาที่ยังไม่ตายนี้ เมื่อยังเป็นคนอยู่ สุขหรือทุกข์มากเท่าใด แม้ตายไป ก็คงมีสุขหรือทุกข์มากเท่านั้น ไม่พิเศษกว่ากัน..
วรรณกรรมไทยเก่าๆ มีงานเขียนอธิบายคิริมานนท์สูตรไว้หลายสำนวน... ซึ่งมีคุณค่าและน่าสนใจอย่างมาก....
ถ้าอาจารย์หมอสนใจ เมื่อมีโอกาสไปเที่ยวสถานที่เค้ามีหนังสือเก่าๆ ลองสอบถามดู...
ส่วนสำนวนย่อของอาตมา อาจารย์หมอรอหน่อย.....
คิดว่าคงจะไม่นานเกินรอ...
เจริญพร.
สวัสดีครับคุณหมอ
..เมื่ออยากรู้ว่าเราจะได้รับความสุขในสวรรค์ หรือจะได้รับความทุกข์ในนรก ก็สังเกตใจของเราในเวลาที่ยังไม่ตายนี้ เมื่อยังเป็นคนอยู่ สุขหรือทุกข์มากเท่าใด แม้ตายไป ก็คงมีสุขหรือทุกข์มากเท่านั้น ไม่พิเศษกว่ากัน..
ธรรมะสวัสดีครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
ครับพระคุณเจ้า
กราบนมัสการครับพระคุณเจ้า
ผมมีคำถามอยากจะถาม
การทีกระผมเบื่อหน่ายชีวิตและสังขารตัวเองเห็นแล้วเวทนาตัวตนเห้นสุขแค่ชัวคร่าวแต่กลับเห็นทุกข์มากกว่าสุข เห็นผีในตัวตนแล้วกระผมมาฟังคิริมานนทสูตรกับดูบทพิจารณา32ยิ่งทำให้ผมเบื่อหน่ายเข้าไปอีกแบบนี้กระผมผิดหรือไม่ครับ ที่ผมเบื่อเพราะไม่ใช่เพราะผมหนีปัญหาหรืออะไรแต่ผมดูอารมณ์ทางโลกแล้วว่ามันไม่มีสิ่งไหนจริงแท้แน่นอน กระผมตั้งจัยไว้แล้วจะบวชปีหน้าหลังจากเสร็จงานทีกระผมได้ทำเอาไว้
กราบนมัสการครับพระคุณเจ้า
ช่วยชี้แน่ะแนวทางให้กระผมด้วยนะครับถ้าผิดพลาดประการใดกระผมขอขมาด้วยขอรับ