สวัสดีครับทุกท่าน
วันนี้มีเหตุการณ์หลายๆ อย่าง เหมือนว่าจะมีความสุขครับ ที่ได้เห็นได้รับรู้ แม้จะอยู่ไกลกันด้วยระยะทางและเวลา แต่ความรู้สึกดีๆ ก็มีต่อประเทศไทยตลอดมา ตลอดอยู่ และตลอดไป
หลังจากวันก่อน ได้บันทึกข้อความเรื่อง เปลี่ยนจาก ติดเกมส์ เป็น ผลิตเกมส์ ไปแล้วนั้น ซึ่งเราจะต้องหาแนวทางมาเป็นผู้สร้างกันบ้างครับ
แม้คนจะสังเคราะห์แสงเองไม่ได้ แต่ก็สามารถเพิ่มปริมาณให้มีการสังเคราะห์แสงได้โดยการปลูกป่า ปลูกต้นไม้ครับ และคนก็สามารถจะสร้างอะไรต่ออะไรได้เยอะในโลกใบนี้ ที่ไม่ทำให้เกิดพิษภัยกับธรรมชาติ
วันนี้จะขอเปลี่ยนประเด็นมาในสิ่งที่ใกล้ตัวเรา ก็คือ ขอเป็น เปลี่ยนจาก เช้าชาม เย็นชาม เป็น เช้าทำ เย็นทำ ค่ำธรรม ครับ เมื่อพูดกันถึงเรื่อง เช้าชาม เย็นชาม ทุกคนก็คงมองและนึกถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับระบบราชการครับ ส่วนจะจริงหรือไม่นั้น ก็คงแล้วแต่ว่าใครจะมองและทำกันอย่างไร
ศักยภาพของระบบราชการของไทย จริงๆ แล้วเชื่อมโยง โยงใยกันดีมากๆ เลยครับ ไม่ว่าจะทางการบริหาร หรือ ทางเกษตร ที่เกี่ยวกับรากแก้วของประเทศ เราก็มีหน่วยงานที่เกี่ยวกับการเกษตร ส่งเสริมกันทั่วเลยครับ ไม่ว่าจะระดับประเทศ ภาค จังหวัด อำเภอ และในภาคส่วนการศึกษาก็เช่นเดียวกัน
ภาคราชการก็สามารถจะทำงาน ได้โดย ไม่แพ้ระบบบริษัทเลยนะครับ หากบุคลากรให้ความร่วมมือ กันอย่างจริงจัง และมีอิสระในทางด้านความคิด ได้ ไม่ว่าจะผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงาน หรือระดับใดๆ ก็ตาม ทำงานให้เกิดการขับเคลื่อนขององค์กรได้เป็นอย่างดี
ผมเองจะรู้สึกฝืนมากๆ เวลาได้ยินคำว่า ระบบราชการ เช้าชามเย็นชาม แต่ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร เพราะเราต้องรับฟัง แล้วหาทางออกดู และต้องเริ่มที่ตัวเรา เคยลองทำมาปึหนึ่ง แบบว่าบ้าทำงานเลย เอาให้รู้กันไปครับ ว่าเช้าชามเย็นชามที่ว่านี่คืออะไร
ในที่สุดผมเลยสรุปว่า ศักยภาพในองค์กรราชการไม่เป็นแบบเช้าชามเย็นชาม เพียงแต่หากบุคลากรร่วมมือกันทำ เป็น เช้าทำ เย็นทำ กลับบ้านไปตอนค่ำ ก็ใช้ธรรม มามองย้อนตัวเองในสิ่งที่ทำกันไป เพื่อพัฒนากันต่อไปครับ
อีกเรื่องคือการทำงานเป็นทีม ส่วนนี้สำคัญมากๆ แล้วจะทำให้ระบบราชการไทย จะไปได้อย่างดีครับ แล้วผมเชื่อว่าหลายๆ คนก็ มีสิ่งนี้คือ เช้าทำ เย็นทำ ครับ
ขอบคุณมากครับ มีอะไรจะเสริมต่อยอด เชิญคุณบรรเลง ครับ
ขอบคุณครับ
เม้ง
สวัสดีค่ะคุณเม้ง
เห็นด้วยค่ะ เพราะประเทศไทยยังขาดคนคุณภาพ(อ่านแล้วคุ้น ๆ ไหมค่ะ) หรือขาดแรงกระตุ้น เพราะทุกคนจะคิดถึงแต่ตัวเองเป็นหลัก ลืมคำว่าส่วนรวม หรือจะคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเองก็ไม่ทำ หรือไม่ก็ทำงานกันแบบผักชีโรยหน้า หรือทำงานเอาหน้ากันซะงั้น (มีเยอะซะด้วย)
สวัสดีครับ คุณราณี
สวัสดีครับพี่นนทลี
น้องเม้ง
อยู่บ้านพ่อครู
มาถึงกันสักครู่
มีความสุขมากค่ะ
พี่สมพร พี่แป๊ด พี่เมตตา และลิงอีก 4 ตัว
สวัสดีครับพี่สาว
สวัสดีค่ะคุณเม้ง
อ่านแล้วนึกถึงคำของมหาตมะ คานธี..You must be the change you wish to see in the world.
เห็นด้วยกับอาจารย์เพื่อนร่วมทางค่ะว่าเดี๋ยวนี้ข้าราชการแบบเช้าชาม เย็นชามเหลือน้อยลงแล้วค่ะ..( แต่อาจมีบางคนที่เป็น เช้า - เย็นเหลือชามเดียว ที่เหลือ สุรา..ล้วนๆ )
บางทีเบิร์ดก็สับสนเหมือนกันค่ะว่าระบบทำคนเสีย หรือคนทำให้ระบบเสียกันแน่..แต่ถ้าเริ่มที่ " ตัวเรา " ทุกอย่างก็เป็นไปได้ ( ถึงแม้บางครั้งอาจต้องใช้เวลา )
สวัสดี อ.เม้ง
เราต้องสร้าง บุคลากรใหม่ใส่โปรแกรมใหม่ ความเชื่อที่ถูกต้อง ค่อยๆเปลี่ยน จนได้บุคลากรที่มีคุณภาพเต็มเปี่ยม เมื่อนั้น ระบบราชการไทยจะเจริญก้าวไกล
สวัสดีครับคุณเบิร์ด
สวัสดีครับคุณครู
สวัสดีคับพี่สาว
เช้าชาม...เย็นชาม...กลางวัน 2 แถมขนมหวานอีก 1...
พี่ว่าข้าราชการไทยยุคปฏิรูปส่วนใหญ่ไม่มีว่างงานแล้วครับ...เพราะส่วนใหญ่เขาต้องมี KPI ของตัวเอง...และมุ่งมั่นที่จะทำ BSC เพื่อให้องค์กรแข่งขันกับหน่วยอื่นใช้ TQM ให้บรรลุ TQA...หลายหน่วยงานก็ใช้ KM ในกระบวนการพัฒนาองค์กรครับ...
แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือ...ข้าราชการไทยกำลังงงเอามาก ๆ กับ ศัพท์/ตัวย่อภาษาอังกฤษที่พี่ว่า...ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำความเข้าใจแบบSnakeๆFishๆ แบบเนี้ย....555...รวมทั้งคนรุ่นเก่าที่เหลืออยู่ก็ลำบากใจกับการทำงานด้วย IT ...
อีกอย่าง...คุณภาพน่ะมีมาก...คุณธรรมนี่ซิ....อิอิ
สวัสดีครับพี่นายขำ
เห็นด้วยกับคุณเบิร์ด ค่ะว่า ทุกอย่างเริ่มที่ตัวเรา
แต่ตอนนี้ได้ความคิดเพิ่มขึ้นอีกว่า เราต้องทำแบบ"ไม่เงียบ"ค่ะ
ทำแล้วพูด ทำแล้วเขียน ทำแล้วบอก
เห็นใครทำก็ชม เห็นใครทำก็พูด เห็นใครทำก็เขียน
เพื่อจะขยายวงสิ่งที่เราเห็นว่าดีให้ขยายออกไปเร็วๆ ถ้ามัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำอย่างเดียว ชั่วชีวิตเราก็คงไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆค่ะ ต้อง"ขยาย"ด้วย ยิ่งคนใหญ่ๆเท่าไหร่ ดีมากๆเท่าไหร่ (คุณธรรมสูงๆ) ยิ่งขยายได้ดีเท่านั้น
สวัสดีครับ พี่สอน
สวัสดีครับพี่โอ๋
สวัสดัครับอาจารย์ช่วย
ชอบมากเลยครับ เพราะตั้งแต่รับราชการมากว่า 20 ปี กลับบ้านทีไร ส่วนใหญ่ฟ้ามืดแล้วทุกที แต่ก็มีความสุขดี
และก็ชอบมาก ตรงที่ว่า คนสังเคราะห์แสงเองไม่ได้ แต่ก็สามารถเพิ่มปริมาณให้มีการสังเคราะห์แสงได้โดยการปลูกป่า ปลูกต้นไม้ เพราะว่าผมอยู่กรมป่าไม้ (ฮา...) ขอบคุณครับ
สวัสดีครับพี่โต๊ก