ตำนานและนิทานย่านอู่ทอง3


ตำนานลาวโซ่ง หรือไทยทรงดำย่านอู่ทอง

ตำนาน โซ่ง  ลาวโซ่ง  ไทยทรงดำ  อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี           

            โซ่ง  ลาวโซ่ง  ไทยโซ่ง  หรือ  ลาวทรงดำ  และ  ผู้ไทยดำ  นั้น  เป็นชื่อเรียกคนไทยภาคกลาง  ใช้เรียกชื่อคนกลุ่มน้อยกลุ่มหนึ่ง  ซึ่งอพยพจากเขตสิบสองจุไท  ในประเทศเวียดนามตอนเหนือ  คำว่าลาว  ในที่นี้เป็นสรรพนามที่คนไทยสยามแต่โบราณใช้เรียกกลุ่มคนที่พูดภาษาตระกูลไทยหลายกลุ่มที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา  โดยมิได้หมายถึงผู้คนจากประเทศลาวเพียงอย่างเดียวเหมือนในปัจจุบัน  ส่วนคำว่า  ผู้ไทย  นั้นเป็นชื่อที่พลเมืองในเขตสิบสองจุไทของเวียดนามและเขตหัวบันของลาวใช้เรียกตัวเองมาแต่โบราณ

                  ลาวโซ่งในอำเภออู่ทอง  อาศัยอยู่หนาแน่นในตำบลดอนมะเกลือ  บ้านดอน  สระยายโสม  และหนองโอ่ง   เป็นกลุ่มที่อพยพขึ้นมาจากจังหวัดเพชรบุรี                   เมื่อครั้งเข้ามาอยู่แรก ๆ  นั้น  ชาวโซ่งยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีกันไว้อย่างเหนียวแน่น  เช่นการแต่งกายด้วยผ้านุ่งซิ่นและเสื้อก้อมสีดำอยู่เสมอ  มีประเพณีการเซ่นผีบรรพบุรุษ  และการปลูกสร้างบ้านที่มีลักษณะของเฉพาะเป็นของตนเอง  เป็นต้น  แต่ในปัจจุบันนี้ลักษณะวัฒนธรรมของชาวโซ่งเริ่มกลมกลืนไปกับวัฒนธรรมสังคมในปัจจุบันเป็นอันมาก  การแต่งกายด้วยชุดประจำชุมชนของตนลดน้อยลงมาก  ส่วนใหญ่จะเห็นผู้สูงอายุชาวโซ่งยังคงแต่งกันไปในงาน  พิธีและประเพณีต่าง ๆ  เท่านั้น  ซึ่งคงเป็นผลเนื่องมาจาก  ความเจริญทางเทคโนโลยีสมัยใหม่และการแพร่กระจายของวัฒนธรรมเมืองไปสู่วัฒนธรรมชนบทนั่นเอง

               อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: cdd.web.cdd.go.th/Uthong/ ประวัติท้องถิ่น วัฒนธรรมภูมิปัญญา และสถานที่ท่องเที่ยว  นะคะ...

 
หมายเลขบันทึก: 88364เขียนเมื่อ 3 เมษายน 2007 18:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 16:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)
  • เสียดายนะคะที่ประเพณี และวัฒนธรรมของชาวโซ่งนับวันจะเหลือน้อยลงๆ
  • โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแต่งกาย  และภาษาพูด
  • ดิฉันเป็นคนอู่ทองคนหนึ่ง ที่อยากเห็นประเพณีฯโซ่งคงอยู่ คุณครูจะช่วยกันอย่างไรดี

 

 

ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้....ครับ ปัจจุบันประเพณีต่าง ๆ ค่อย ๆ เลือนหายเพราะปากท้องของชุมชนเอง..คุณค่าของวัฒนธรรม และคุณค่าแงการดำรงอยู่ค่อย ๆ เลือนหาย.....เพราะคนส่วนใหญ่รับรับวัฒนธรรมต่างชาติมากเกินความจำเป็น...บริโภคนิยม หากใครไม่ร่วมเลยหาว่า เฉยไป เพราะสังคมที่ล่มสลายทางกายภาพ..จึงยากที่จะอนุรักษ์ ...ควรมองที่จุดต้นกำเนิดของวัฒนธรรมชนเผ่าต่าง ๆ มาเป็นแบบ.....เพื่อให้สืบสานประเพณีและวัฒนธรรมของท้องถิ่นตนเอง.....ให้อยู่และยั่งยืน

คุณครูคะ

     เว็บไซต์น่าจะยังไม่ถูกต้องนะคะ

     ขณะนี้ที่ราชบัณฑิตยสภากำลังเริ่มที่จะศึกษาเรื่องนโยบายภาษาของประเทศ  จุดเน้นประการหนึ่ง คือต้องการให้เห็นความสำคัญของภาษาถิ่น ให้การรักษาสืบสานให้คงอยู่ต่อไป

    หวังว่าถ้าโครงการนี้ได้รับการอนุมัติ ดิฉันคงจะมาขอความรู้เรื่องนี้จากคุณครูนะคะ

     ได้เข้ามาเยี่ยมชมแล้วนะค่ะ ขอชมว่าเป็นเรื่องที่ดีมีประโยชน์มาก คนรุ่นใหม่ๆ หลายคนคงยังไม่รู้เรื่องนี้  (ยอมรับว่าป้าก็เพิ่งรู้นะเนี่ย) แต่ตัวหนังสือมันเล็กไปหน่อย ป้าแก่แล้ว อ่านลำบากค่ะ

    หวังว่าคงได้อ่านเรื่องดีๆอีกในตอนต่อไปนะค่ะ         

วันเพ็ญ แจ่มอนงค์(สิงห์ลอ)

ดิฉันเป็นไทยทรงดำมาแต่กำเนิด และได้ตั้งใจว่าหากได้ย้ายกลับบ้านเกิดเมื่อไหร่จะทำให้พี่น้องชาวไทยทรงดำที่บ้านเกิดของดิฉันเห็นความสำคัญ ของภาษา และประเพณี ที่มีมาช้านาน อย่างน้อยเพียงแค่พูดภาษาไทยทรงดำ กันภายในครอบครัวและหมู่บ้านก็ยังดี

เป็นประเพณีที่น่ารักษาไว้เป็นอย่างมาก  โดยเฉพาะการแต่งกาย   ภาษาพูด  และวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่นที่  ทุกวันนี้    นับวันจะจางหายไป  ดิฉันก็เป็นไทยดำเหมือนกัน  พูดได้  แต่เขียนไม่ได้กำลังศึกษาอยู่  เคยเข้าร่วมงานของสมาคมบ้างเป็นบางโอกาส  ที่บ้านของดิฉันจังหวัดกำแพงเพชรกำลังฟื้นฟู  ประเพณี  และรักษาให้อยู่ต่อไปคะ

เยี่ยมๆ 

     อาจารย์ที่ปรึกษาใครก้อไม่รุ  ที่ปรึกษาก้อหน้าตาดี  ลูกศิษย์ก้อหน้าตาดี  เห้อ  อืม....ข้อมูลก้อมีประโยชน์ดีน่ะค่ะ  หนูสนใจเรื่อง โซ่ง  มากๆ  อยากรู้ค่ะ  ชอบๆๆๆ

                                        เจ๊กเล็ก                       

อ๋อ...เหรอคร๊าบ

ดีๆๆๆๆๆๆๆๆ

ศิษย์เก่ารุ่น 45

คนไทดำเป็นชนชาติกลุ่มไท คือกลุ่มที่ใช้ ภาษาไท ชนกลุ่มไท อาศัยอยู่ตั้งแต่ตอนบนของพม่า เรียกว่าไทใหญ่ จีนตอนล่าง เขตปกครองพิเศษ สิบสองปันนา ไทลื้อ ตอนเหนือของเวียตนาม พวกไทดำ ไทแดง ไทขาว กลุ่มไทดำอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของเวียตนาม ตามพงศาวดารเมืองไล จัดพิมพ์โดยกรมศิลปากร 2507 เมืองที่ไทดำอยู่นั้น เช่น เมืองแถน เมืองควาย เมืองตุงเป็นต้น มี 12 เมืองเรียกว่าเมืองสิบสองผู้ไท หรือสิบสองจุไท คำว่าจุ มาจากคำว่าเจิว เป็นภาษาแกว แปลว่า เมือง เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีกล่าวถึงดินแดนสิบสองจุไท ในพ.ศ.2430 ว่าเป็นเมืองของพวกไทดำ ดังพวกลาวเพชรบุรี คำว่าลาวนั้นเป็นคำที่คนที่อยู่ในประเทศไทยเรียกคนที่ข้ามจากฝั่งโขงมาไทย เรียกว่าลาวทั้งหมด เช่นมาจากเมืองเวียงจันท์ก็เรียกว่าลาวเวียง มาจากเมืองพวน ก็เรียกว่าลาวพวน มาจากหลวงพระบางก็เรียกว่าลาวคั่ง เป็นต้น ส่วนคนไทดำไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศลาว แต่ข้ามแม่น้ำโขงมาเช่นกัน จึงถูกเรียกว่า ลาวไปด้วย ซึ่งคนในประเทศลาวเขาก็ไม่ยอมรับว่าไทดำเป็นลาว คนไทดำเรียกตนเองและพวกเดียวกันว่าไท หรือ ไต เช่น ไตบ้านดอน ไทบ้านยาง ไทเมืองเพชรเป็นต้น ไม่ได้เรียกตนเองว่าลาวเลย

ในการปกครองบ้านเมืองของไทดำ แบ่งเมืองออกเป็น 2 ชั้น หรือ3 ชั้นแล้วแต่เมือง คนที่อาศัยอยู่ในกำแพงเมือง เรียกว่าไทกวงเมือง หรือไทเมือง ส่วนพวกที่อยู่นอกกำแพงเมือง เรียกว่า ไทโซ่ง หรือไตโซ่ง การที่พวกโซ่งเป็นคนที่อาศัยอยู่นอกกำแพงเมือง จึงเป็นการง่ายที่จะถูกกวาดต้อน พวกไทดำที่ถูกกวาดต้อนจึงเป็นพวกไทโซ่งเสียเป็นส่วนมาก ในหนึ่งเมืองจะประกอบไปด้วย 4 โซ่ง เช่นที่เมืองลา มีโซ่งปัน โซ่งป้อง โซ่งหอหลวง โซ่งล่ามหอ (หนึ่ง โซ่งจะประกอบไปด้วยหมู่บ้าน 5-10 หมู่บ้าน) ดังนั้นคำว่าโซ่ง ก็หมายถึง พวกชนบท พวกบ้านนอก หรือพวกด้อยวัฒนธรรม พวกการศึกษาต่ำ พวกโง่ อะไรทำนองนั้น การที่พวกเราเรียก ไทดำ ว่าโซ่ง พวกโซ่งก็หมายถึงคุณกำลังเรียกเขาว่า ไอ้บ้านนอก ไอ้โง่อะไรทำนองนั้น เช่นเราคนสุพรรณไปเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ เขาเรียกเราว่าไอ้สุพรรณไอ้บ้านนอกเรายังโกรธเลย ไทดำก็เหมือนกัน ถูกเรียกว่าโซ่ง หรือไอ้บ้านนอก ไอ้โง่ เขาก็ต้องโกรธเช่นกัน ดังนั้นต่อไปนี้ให้เรียกเขาว่า ไทดำ หรือผู้ไทดำ นะจ๊ะ ยังมีเรื่องเล่าสู่กันฟังอีกมาก เอาไว้วันหลังก็แล้วกัน หรือใครอยากฟังเรื่องอะไร ขอได้ ตอนนี้ กำลังเขียนเรื่อง 1.การบริหารตามยถากรรม และ 2.อารมณ์วิปัสสนาที่ถูกต้อง เป็นแนวปฏิบัติ เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่า วิปัสสนาคืออะไร ปฏิบัติที่ถูกต้องทำอย่างไร วันนี้พอแค่นี้ก่อน bye

Dr.Suriya R.

คนไทดำเป็นชนชาติกลุ่มไท คือกลุ่มที่ใช้ ภาษาไท ชนกลุ่มไท อาศัยอยู่ตั้งแต่ตอนบนของพม่า เรียกว่าไทใหญ่ จีนตอนล่าง เขตปกครองพิเศษ สิบสองปันนา ไทลื้อ ตอนเหนือของเวียตนาม พวกไทดำ ไทแดง ไทขาว กลุ่มไทดำอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของเวียตนาม ตามพงศาวดารเมืองไล จัดพิมพ์โดยกรมศิลปากร 2507 เมืองที่ไทดำอยู่นั้น เช่น เมืองแถน เมืองควาย เมืองตุงเป็นต้น มี 12 เมืองเรียกว่าเมืองสิบสองผู้ไท หรือสิบสองจุไท คำว่าจุ มาจากคำว่าเจิว เป็นภาษาแกว แปลว่า เมือง เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีกล่าวถึงดินแดนสิบสองจุไท ในพ.ศ.2430 ว่าเป็นเมืองของพวกไทดำ ดังพวกลาวเพชรบุรี คำว่าลาวนั้นเป็นคำที่คนที่อยู่ในประเทศไทยเรียกคนที่ข้ามจากฝั่งโขงมาไทย เรียกว่าลาวทั้งหมด เช่นมาจากเมืองเวียงจันท์ก็เรียกว่าลาวเวียง มาจากเมืองพวน ก็เรียกว่าลาวพวน มาจากหลวงพระบางก็เรียกว่าลาวคั่ง เป็นต้น ส่วนคนไทดำไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศลาว แต่ข้ามแม่น้ำโขงมาเช่นกัน จึงถูกเรียกว่า ลาวไปด้วย ซึ่งคนในประเทศลาวเขาก็ไม่ยอมรับว่าไทดำเป็นลาว คนไทดำเรียกตนเองและพวกเดียวกันว่าไท หรือ ไต เช่น ไตบ้านดอน ไทบ้านยาง ไทเมืองเพชรเป็นต้น ไม่ได้เรียกตนเองว่าลาวเลย

ในการปกครองบ้านเมืองของไทดำ แบ่งเมืองออกเป็น 2 ชั้น หรือ3 ชั้นแล้วแต่เมือง คนที่อาศัยอยู่ในกำแพงเมือง เรียกว่าไทกวงเมือง หรือไทเมือง ส่วนพวกที่อยู่นอกกำแพงเมือง เรียกว่า ไทโซ่ง หรือไตโซ่ง การที่พวกโซ่งเป็นคนที่อาศัยอยู่นอกกำแพงเมือง จึงเป็นการง่ายที่จะถูกกวาดต้อน พวกไทดำที่ถูกกวาดต้อนจึงเป็นพวกไทโซ่งเสียเป็นส่วนมาก ในหนึ่งเมืองจะประกอบไปด้วย 4 โซ่ง เช่นที่เมืองลา มีโซ่งปัน โซ่งป้อง โซ่งหอหลวง โซ่งล่ามหอ (หนึ่ง โซ่งจะประกอบไปด้วยหมู่บ้าน 5-10 หมู่บ้าน) ดังนั้นคำว่าโซ่ง ก็หมายถึง พวกชนบท พวกบ้านนอก หรือพวกด้อยวัฒนธรรม พวกการศึกษาต่ำ พวกโง่ อะไรทำนองนั้น การที่พวกเราเรียก ไทดำ ว่าโซ่ง พวกโซ่งก็หมายถึงคุณกำลังเรียกเขาว่า ไอ้บ้านนอก ไอ้โง่อะไรทำนองนั้น เช่นเราคนสุพรรณไปเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ เขาเรียกเราว่าไอ้สุพรรณไอ้บ้านนอกเรายังโกรธเลย ไทดำก็เหมือนกัน ถูกเรียกว่าโซ่ง หรือไอ้บ้านนอก ไอ้โง่ เขาก็ต้องโกรธเช่นกัน ดังนั้นต่อไปนี้ให้เรียกเขาว่า ไทดำ หรือผู้ไทดำ นะจ๊ะ ยังมีเรื่องเล่าสู่กันฟังอีกมาก เอาไว้วันหลังก็แล้วกัน หรือใครอยากฟังเรื่องอะไร ขอได้ ตอนนี้ กำลังเขียนเรื่อง 1.การบริหารตามยถากรรม และ 2.อารมณ์วิปัสสนาที่ถูกต้อง เป็นแนวปฏิบัติ เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่า วิปัสสนาคืออะไร ปฏิบัติที่ถูกต้องทำอย่างไร วันนี้พอแค่นี้ก่อน bye

Dr.Suriya R.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท