วันที่ 29 มีนาคม 2550 ที่ผ่านมาได้เข้าร่วม ประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผู้สนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายคุณภาพสถานบริการสาธารณสุข(QRT) งานศูนย์สุขภาพชุมชน(PCU) เพื่อมุ่งเน้นพัฒนามาตรฐาน PCU ให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านบริการ ด้านบริหารจัดการ และด้านวิชาการ โดยจังหวัดระนองตั้งเกณฑ์ไว้ที่ 70% ทั้ง 3 ด้าน และจากการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา พบว่า ผลการประเมิน PCU ไขว้ระหว่างอำเภอ กับผลการประเมินของ QRT ระดับอำเภอเองไม่สอดคล้องกัน เมื่อศึกษาถึงสาเหตุพบว่า ส่วนหนึ่งมาจาก คณะกรรมการ QRT มีความเข้าใจเกี่ยวกับเกณฑ์การประเมินไม่ตรงกัน จึงได้มีการกำหนดเกณฑ์/แนวทาง/ข้อตกลงที่ชัดเจนขึ้น
เนื้อหาส่วนใหญ่ที่พูดคุยกัน ก็จะเป็นการนำเกณฑ์ประเมินรับรองมาตรฐานศูนย์สุขภาพชุมชน 26 ข้อ 42 ตัวชี้วัด ซึงประกอบด้วย มาตรฐานด้านบริการ (18ข้อ 29 ตัวชี้วัด) มาตรฐานด้านบริหารจัดการ (5 ข้อ 10 ตัวชี้วัด ) และมาตรฐานด้านวิชาการ (3 ข้อ 3 ตัวชี้วัด) ซึ่งนำตัวชี้วัดมาจัดกลุ่ม ได้เป็น 5 กลุ่ม และแบ่งกลุ่มเพื่อกำหนด ตัวชี้วัดและเกณฑ์การประเมิน โดยส่วนตัวที่ผู้เขียนมีความคิดเห็นมันไม่จำเป็นมากมายที่เราต้องมานั่งรื้อ และค้นตัวชี้วัดกันใหม่หากแต่ เราทำความเข้าใจทุกตัวชี้วัดดังกล่าวแล้วมาหาข้อสรุปก็น่าจะเพียงพอ ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจากเวลาที่ใช้ในการถกเถียงในเวทีกลุ่มย่อย และเวทีกลุ่มใหญ่ ใช้เวลาในการประชุมถึง 2 วัน ( 9 และ 29 มีนาคม 2550) และท้ายสุด ตัวชี้วัด และเกณฑ์การประเมินก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมเท่าไหร่นัก....
ธรรมดาของการมองชิ้นเนื้อในน้ำ มันช่างใหญ่โต กว่าชิ้นเนื้อที่เราคาบอยู่ แต่แท้ที่จริง ชิ้นเนื้อนั้นไซร้เป็นชิ้นเดียวกัน เฮ้ย... แนวคิดดี กระบวนการไม่ช่วยขับเคลื่อน ผลก็จะอยู่ที่จุดเดิม แถมเหนื่อยที่ต้องไปดิ้นรนซะงั้น หลังจากการจบการนำเสนอของตัวแทนกลุ่มย่อยจำนวน 5 กลุ่มในเวทีใหญ่แล้ว ก็มีการพูดคุยกันถึงโบนัส และเงินรางวัลสำหรับการประกวดแข่งขัน PCU ระดับอำเภอและระดับจังหวัด ระดับต่อไป ก็เป็นการนำมาแจ้งให้ทราบนะคะ ย้ำคะ!! สำหรับ PCU หรือสถานบริการเท่านั้น.. สำหรับ ทีม QRT ก็จำเป็นต้องเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทำงานต่อไป อิอิ
และก่อนปิดประชุมก็ได้มีการขอรายชื่อ ตัวแทน QRT อำเภอละ 1 ท่าน เพื่อเข้าไปเรียนรู้ การใช้โปรแกรม วิเคราะห์ผลการประเมิน (โอ้!! ฟังดูแล้วยิ่งใหญ่มากมายก่ายกองเท่าเนินภูเขา) อำเภออื่นๆก็ส่งชื่อกันไป พอถึงกะเปอร์ไซร้ พี่อำนาจ ไม่อยู่คะ QRT อำเภอกะเปอร์ท่านอื่นจึงเสนออรุฎา แต่แล้วมีเสียงนุ่มนวลจากทีม QRT จังหวัดตอบกลับมาว่า.. "ไหวมั้ยเปิ้ล" ไอเราคิดในใจ ว่าจะดีใจ หรือเสียใจดี - - พี่เค้าถามเพราะเป็นห่วง หรือว่า งานนี้มันคงยากไปสำหรับเรา!! แต่ที่รู้ๆ มันปั่นทอนกำลังใจ มั๊กมากกกกกกก เอาเป็นว่านี่คงเป็นประเด็นที่ทิ้งไว้ล่ะกันคะ ..สำหรับผู้ที่เป็นหัวหน้างาน หรือ เป็นผู้ที่จำเป็นต้องถ่ายทอดความรู้ให้กับคนอื่น พยายามหลีกเลี่ยงคำพูดเหล่านี้ไว้เถอะคะ เพราะนอกจากมันจะไม่มีอะไรดีขึ้นแล้ว คำพูดนั้น อาจกลับ ไปทำลายกำลังใจของผู้รับฟังก็ได้ ... ก็เรามันมือใหม่เพิ่งหัด (ขับ) นี่น่า...
น้องเปิ้ล ครับ
ก่อนอื่นออกตัวก่อนว่า พูดในฐานะกลางๆ นะคะเพื่อนเปิ้ล เค้ามองเพื่อนเปิ้ลหน้าเด็กหรือเปล่า จึงทำให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพของเพื่อนเปิ้ลลดน้อยลงดั่งเช่น หน้าตา หรืออย่างไร? เน้นๆ นะคะมองในแง่ดี
แต่ก็มีข้อให้คิดเช่นกัน คือวิสัยทัศน์ของ ผู้ที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นผู้บริหาร...? ซึ่งอาจนะคะ อาจต้องมีศักยภาพหลายๆ ด้านซึ่งตรงนี้คงจะมีมากมายก่ายกอง อ่องออ (สมองในส่วนที่พยายามทำงานให้เต็มความสามารถ) น้อยๆ ของเพื่อนอั้มก็ไม่สามารถกลั่นกรองคำตอบให้ออกมาสวยงามและอธิบายได้ชัดเจน เท่ากับท่านผู้บริหารเหล่านั้นได้เลย
แต่เท่าที่ได้ผ่านหู หนึ่งในวิสัยทัศน์เหล่านั้น คือให้โอกาส คนรุ่นใหม่ในการปฏิบัติหน้าที่ และเพื่อนอั้มก็เห็นว่าการทำงานนั้นก็ต้องเริ่มต้นที่ การเรียนรู้ ถ้าได้เรียนรู้ก็จะมีการพัฒนา เมื่อมีการพัฒนาการทำงานก็จะก้าวหน้า แถมยังช่วยผู้บริหารบางส่วน แม้จะเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเล็กๆ สำหรับ นวก.สาสุขฯ เล็กๆ แต่อย่างน้อย ก็ได้เริ่ม เช่นนั้น โอกาสและ กำลังใจ ความไว้เนื้อเชื่อใจ มั่นใจในศักยภาพ จะเป็นพลังให้แก่คนทำงานรุ่นใหม่ต่อไปคะ
ไม่อยากให้เพื่อนเปิ้ล หวั่นไหว กับความคิดเห็นเล็กๆ น้อยๆ เพราะเพื่อนเปิ้ลสำคัญกว่า เข้มแข็งเกินกว่าจะเขวกับเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ แต่ก็ขอให้เรื่องเช่นนี้เป็นบทเรียนเมื่อเพื่อนเปิ้ลเติบโตในหน้าที่การงาน ก็ขอให้ย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง และให้กำลังใจและโอกาสกับคนรุ่นใหม่ที่เดินตามทางเดียวกับเพื่อนเปิ้ล ต่อไป ชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำพูดไม่กี่คำคะ