ตรวจตัวเองก่อนให้หมอตรวจ (กรณีไม่ฉุกเฉิน)


เราสามารถเป็นผู้ช่วยหมอได้ โดยเตรียมตัวให้ดีก่อนไปหาหมอ ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน


ดิฉันเคยมีประสบการณ์  การทำงานร่วมกับหมอมาหลายปี และมีสามีเป็นหมอ เห็นความไม่เข้าใจระหว่างหมอกับคนไข้บ้าง การเสียเวลาของคนไข้เป็นวันกว่าจะได้ตรวจบ้าง    ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นเพราะหมอมีเวลาน้อยและคนไข้ก็เกรงใจหมอ   ดังนั้นจึงอยากจะขอแนะนำผู้ที่จะไปหาหมอ ในบางประเด็นที่พบเห็นมา เผื่อจะเป็นประโยชน์ค่ะ

  • เราต้องเตรียมพร้อมมาก่อน เช่นเรียงลำดับเหตุการณ์เกี่ยวกับอาการป่วยของเราตั้งแต่เริ่มต้น มาจนปัจจุบัน อย่าสับสนปนเป จดมาก็ได้   บางทีเรามาช่วงเวลาที่คนไข้มาก หมอไม่มีเวลาสำหรับเรามากนัก  ข้อมูลที่ให้ไปอาจไม่ครบถ้วน ทำให้การวินิจฉัยโรคอาจไม่ครอบคลุม   และการอธิบายอาจไม่ละเอียดพอ จนเรามานั่งงงที่บ้าน ว่า เอ๊! หมอสั่งมาว่าไงนะ ลืมเสียแล้ว     ขอแนะนำให้มาหาหมอเช้าๆ เพราะ คนไข้จะมากช่วงสาย หรือให้นัดกับเจ้าหน้าที่ไว้ล่วงหน้า จะได้ไม่เสียงาน แต่บางร.พก็ไม่ค่อยรับนัด ใครมาก่อนได้ก่อน
  • แจ้งหมอไปด้วย ว่าเราไปหาหมอจีน ฝังเข็ม หมอไทย กินยาหม้อไปเท่าไรแล้ว อย่าไปปิดบัง บางครั้งมีปัญหาครอบครัวก็ต้องบอก ไม่ต้องละเอียด เพราะหมอก็ไม่อยากทราบ   เช่น ทะเลาะกับแฟน เป็นประจำ เป็นต้น เพราะนั่นอาจเป็นสาเหตุ ของโรคบางอย่างเช่น เครียด, ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ  ก็ได้
  • แต่งตัวมาให้พร้อมสำหรับจะตรวจปกติและตรวจพิเศษได้สะดวกแต่ให้สะอาด  ไม่มีกลิ่นไม่สะอาด    ถ้าเป็นญาติ ก็ทำความสะอาดให้เขามาก่อน ยกเว้นฉุกเฉิน
  • อย่าใส่เครื่องประดับมาโรงพยาบาล จะหายเปล่าๆหรือเป็นภาระแก่ตัวเอง  และญาติ   โดยไม่จำเป็น
  • ถ้าเป็นหวัด เป็นฝี มีไข้เป็นพักๆ ก็ต้องบอก เพราะอาการมันอาจจะเกี่ยวกันไปหมด บางทีเป็นหลายโรค บอกหมอทุกโรคทีเดียว     จนหมองงก็มี ต้องพยายามแยกแยะด้วย บางคนเป็นทั้งความดัน เบาหวาน ไต หัวใจ คงต้องแยกอาการ เล่าให้หมอฟังดีๆช้าๆจะได้ไม่สับสน ขอแนะนำให้บอกหมอ เป็นเรื่องๆ ใจเย็นๆ ดังนี้::
  • 1.อาการสำคัญที่มาวันนี้   2.อาการป่วยปัจจุบัน  3.โรคประจำตัว   4.ประวัติที่เคยได้รับการรักษามาก่อนมาหาหมอ กรณี มาหาหมอที่นี่ เป็นครั้งแรก   ถ้าเคยรักษาที่เก่ามาก่อน ให้ขอเวชระเบียน มาด้วย จะได้ต่อเนื่อง   การตรวจบางอย่าง ไม่ต้องตรวจใหม่ ซึ่งแล้วแต่ดุลย์พินิจของหมอ
  • ป่วยอะไรนิดหน่อย เราอย่าไปตื่นเต้นมากจนเกินเหตุ จนกลายเป็นขี้อ้อน บางครั้งก็ไม่เป็นอะไรมากหรอก พึ่งตัวเองบ้าง เช่น เป็นหวัดคัดจมูก น้ำมูกไหล ท้องเสียเล็กน้อย เคล็ดขัดยอก เมื่อยตัว   โรคจากความเสื่อม เช่นขี้ลืม สายตายาว โรคขี้กังวล อุปาทานต่างๆ  อ่อนเพลีย พักผ่อนน้อย ปวดหัวเพราะเครียดเดี๋ยวก็หาย   นอนพักเสียหน่อย    เวียนหัวเพราะเมารถ เป็นต้น
  •           ยังไม่ต้องสันนิษฐานว่า ตัวเองป่วยเป็นอะไร เล่าอาการแล้ว        หมอจะวินิจฉัยเอง
  • เวลาไปหาหมอ ให้เข้าใจด้วยว่า เรามีสิทธิผู้ป่วย ที่จะรู้ว่า เราเป็นอะไร หนักหนาแค่ไหน หมอมีแผนจะรักษาเราอย่างไร ค่าใช้จ่ายเท่าใด เป็นต้น แต่เวลาถาม ขอให้สุภาพกับหมอด้วยนะคะ อย่าลืม

             กรณี ลูกหลานไม่สบายก็เช่นกัน   โปรดเล่าอาการให้หมอฟังอย่างละเอียด    ให้ลูกกินยาที่หมอสั่งอย่างเดียว อย่าซื้อยากินเองเด็ดขาด

ดูอาการต่างๆที่ผิดปกติ เช่น มีไข้ ตัวเย็น หายใจถี่เร็วมาก หอบ หายใจช้า ไม่หายใจ ผิวหนังซีดมาก แดงมาก เขียวคล้ำ ไม่ดูดนม ไม่รับประทานอาหาร หิวบ่อยมาก ไม่นอน งอแง ร้องกวน นอนหลับปลุกไม่ตื่น คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายอุจจาระบ่อยมีกลิ่นผิดปกติ  มีมูก แม้ครั้งเดียวก็ไม่ปกติแล้ว   หรือถ่ายเหลว3-4 ครั้ง  ปัสสาวะบ่อย  ปัสสาวะสีแดง ปัสสาวะขัด เป็นต้น

 

สรุปว่า อาการต่าง ๆ ที่ผิดจากปกติของเด็กควรเฝ้าระวังสักพักหนึ่ง ถ้าไม่ดีขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์ด่วนค่ะ  และถ้าไม่จำเป็น ไม่ควรเปลี่ยนหมอเด็กบ่อยนะคะ เพราะเวลาลูกป่วยฉุกเฉิน โทรไปขอคำแนะนำ หมอประจำของลูก จะรู้ประวัติเด็ก และ สั่งการได้ทันที ว่าควรพยาบาลอย่างไรไปก่อนได้

หมายเลขบันทึก: 87808เขียนเมื่อ 31 มีนาคม 2007 23:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม 2012 22:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (33)
เป็นคำแนะนำที่ดีมากค่ะ คนไข้มาก หมอมีเวลาให้เราน้อย จะปรับทุกข์อะไร ก็หมดเวลาแล้ว
 ขอบคุณค่ะ ดีๆๆ ช่วยได้มาก
เป็นคำแนะนำสำหรับคนไข้ที่ดีมากๆค่ะ จะได้เตรียมตัวถูก...ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ

  • เป็นคำแนะนำที่เยี่ยมมากครับ
  • ขอบคุณแทนหมอๆครับ
  ขอบคุณทั้งสองท่านค่ะ ที่ชม เป็นการนำประสบการณ์จริง มาเล่าสู่กันฟัง
แม่บ้านที่บ้าน เป็นอะไรไม่ทราบค่ะ ชอบให้หมอฉีดยา มีความรู้สึกว่า จะหายเร็ว
คุณแม่ดิฉัน เป็นหลายโรค ไทรอยด์ไม่เป็นพิษ ความดันสูง เบาหวาน ข้ออักเสบ.... แต่เวลาไปหาหมอ จะบอกพันกันไปหมด เลยได้ยามาเยอะมาก ห็นด้วย ว่าควรจดไปก่อน เอาที่เป็นจริงๆตอนนั้น

เป็นหัวข้อที่ หมอก็ต้องอ่านด้วยนะครับ น่าจะเอาไปไว้แนะนำ คนไข้ได้ทุกคน เพราะเป็นมุมแนะนำของ ผู้รับบริการ ไม่ใช่คำแนะนำของผู้ให้บริการ 

คำแนะนำของผู้รับบริการกันเองนี่ ย่อมดีกว่ามากนะครับ ( เรียบเรียงหัวข้อได้ดีด้วยครับ  สงสัยพี่จะชอบสีเขียว อ่านสบายตาดีครับ )

 ขอบคุณค่ะ คุณหมอจิ้น ดิฉันฟังมามากค่ะ คนไข้พูดลับหลังหมอว่า ไม่เห็นค่อยอธิบายอะไร พูดแล้ว ไม่เข้าใจ แต่เขาก็พยักหน้า มองหมอตาแป๋ว ไปอย่างนั้นเอง ไม่ใช่แต่คนไทย แต่ทั่วโลกเลย ที่อเมริกา 50%ของคนไข้ ไม่ค่อยเข้าใจที่หมออธิบายค่ะ  แต่คนไข้ไม่รู้ตัวว่า เขาไม่ได้เตรียมตัวมาให้พร้อมด้วย

หนูเป็นฝ่ายบุคคล มีพนักงานไปหาหมอแล้ว ได้ใบรับรองแพทย์ให้หยุดงาน 1 วันมา ทั้งที่ไม่เป็นอะไร ทำไม เป็นอย่างนั้นคะ

 บางคนไม่ได้เป็นอะไร แต่แกล้งทำอาการป่วย เช่นปวดศรีษะมาก หรือเป็นลม ทำงานไม่ไหว บางทีเหมือนจริงมาก เพราะจิตใต้สำนึกสั่งให้ร่างกายเกิดอาการบางอย่างชั่วคราว  ส่วนใหญ่หลอกหมอไม่ค่อยได้ จะมีได้บ้าง ตอนที่หมอยุ่งมาก ไม่มีเวลาเช็คละเอียด  คุณต้องสอนพนักงานคนนั้น อย่าได้มีนิสัยแย่ๆแบบนี้ จะเป็นผลร้ายแก่ตังเองต่อไปค่ะ

 

ขอบคุณค่ะที่ตอบ ต้องเรียกมาเตือนและขึ้นบัญชีไว้

นอกจากนี้ มีบางคน ไม่ได้ขอใบแพทย์หยุด แต่ไปหาหมอบ่อยมาก ทำไงดีคะ

  • ตามมาขอบคุณครับ
  • คุณหมอเด็กส่วนมากใจดีมากเลยครับ
  • แต่ถ้าคนไข้เตรียมตัวไปก่อนพบหมอก็ดีครับ
  • ขอบคุณมากครับผม

อันนี้ ตั้งใจเขียน ให้ คนไข้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ค่ะ เพราะเห็น ความไม่เข้าใจ และการเตรียมตัว ไม่ค่อยพ้อมของคนไข้และญาติ  ตามประสบการณ์ อาจมีประโยชน์บ้าง

เข้ามาเขียนอีกค่ะ ติดใจ

พาคุณแม่ไปหาหมอ ได้เตรียมข้อมูลอย่างที่แนะนำ หมอชมค่ะ ว่าให้ความร่วมมือดี ขอบคุณค่ะ สำหรับบันทึกนี้ มีประโยชน์มาก

ตอบคุณจันทกานต์ พนักงานไปหาหมอบ่อยมาก

  ร่างกายคนเราสลับซับซ้อน บางที มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเล็กๆน้อยๆ ถ้าไม่ใช่โรคและไม่มีอาการมาก ก็มองข้ามไป อาจหายได้เอง ใช้วิธีธรรมชาติรักษา เช่นเปลี่ยนท่าการทำงาน เปลี่ยนวิถีชีวิตบางอย่าง ก็ดีขึ้นได้

    สมัยดิฉันทำอุตสาหกรรมอาหาร ผู้จัดการฝ่ายผลิตมาแจ้งว่า มีคนงานอยู่2-3คน ชอบเป็นลม ระหว่างทำงาน จะย้ายไปหน่วยอื่นเช่นคลังสินค้า เขาก็ไม่รับ คนเต็ม จะไปQ.Cก็ไม่ได้ ไม่มีความรู้พื้นฐาน คงต้องให้ออก

    ดิฉันไปดู เห็นว่า เขาต้องยืนก้มอยู่ตลอดเวลาทำงานบนสายพานลำเลียง บางคนมีความรู้สึกไวต่อการเคลื่อนไหวตรงหน้า เลยลองปรับสายพานให้ช้าลงอีกหน่อย อาการก็หายไป หรือบางคนไม่ได้ทานข้าวเช้ามา ต้องบังคับให้ทานมาก่อน อาการก็หายไป

     คงจะให้เขาไปหาหมอบ่อยเกินไปไม่ได้ แต่เราก็ต้องดูที่สาเหตุด้วยค่ะ

  • ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเคยเป็นไข้หนักครับ นอนอยู่บ้านหลายวันเลย search net ไปเรื่อย ๆ จนไปเจอเวปที่เค้าบอกว่าอาจจะเป็นไข้เลือดออก พอตอนกลางคืนก็ผื่นขึ้นที่แขนขาเลยครับ ปรากฏสุดท้ายไม่ได้เป็น
  • ความคิดที่ว่า โอ้ย เป็นไข้เลือดออกแน่ จนมันสั่งร่างกายให้ออกผื่นได้ สมแล้วที่เค้าบอกว่า ใจเป็นนายของกายครับ
  • ขอบคุณสำหรับคำแนะนำในการไปหาหมอครับ :>

เขาเรียกว่าอุปทานค่ะ ใจคิดไปเรื่อย  ที่เป็นผื่น อาจจะเป็นผลจากเป็นไข้ก็ได้ ไม่ได้เป็นอะไรเพิ่มเติม

ร่างกายเราซับซ้อนค่ะ พอเราเป็นโรคนี้อยู่ ก็ทำให้ระบบต่างรวน เลยพลอยผสมโรงเป็นโน่นนี่ ยุ่งเหยิงไปหมด แต่ถ้าโรคหลักๆหาย อาการอื่นก็จะพลอยหายไปด้วย ต้องพยายามทำใจนิ่งๆหน่อย

ดิฉันเพิ่งแนะนำญาติให้ไปหาหมอหัวใจที่ร.พ.ใหญ่แห่งหนึ่ง ก่อนไปกลัวมาก เพราะเจ็บหน้าอกด้านซ้ายจี๊ดๆบ่อย พอไปหมอให้ฉีดสี ดูกันแน่ๆว่า เส้นเลือดอุดตันตรงไหน ปรากฏว่า อุดตัน 30% แต่ยังไม่ต้องทำอะไร ดูแลอาหารให้ดี และกินยา แต่ที่เจ็บจี๊ดๆคือ ปลายประสาทที่หน้าอกอาจอักเสบนิดหน่อย พักก็หาย ตอนนี้ดีขึ้นมาก ไม่เจ็บแล้ว

ถูกของอ.จ.ค่ะ บางทีใจเราคิดกลัวไปเองจริงๆ

ไม่มีรูป
กฤษณา
แม่บ้านที่บ้าน เป็นอะไรไม่ทราบค่ะ ชอบให้หมอฉีดยา มีความรู้สึกว่า จะหายเร็ว
  ขอโทษค่ะ ตอบช้าไป
  เป็นเพราะ เขาฝังใจว่า การฉีดยา เจ็บหน่อย แต่หายเร็ว เขาไม่ยอมเข้าใจว่า อาการบางโรคกินยาก็หาย ไม่จำเป็นต้องฉีดยา น่าจะไปอยู่ที่การให้ความรู้กับผู้ป่วยนะคะ  เห็นตอนนี้ ทางราชการก็พยายามรณรงค์กันอยู่ค่ะ

ไม่มีรูป
กฤษณา
ขอโทษ ตอบช้าค่ะ ต่อคำปรารภของคุณว่า

เป็นคำแนะนำที่ดีมากค่ะ คนไข้มาก หมอมีเวลาให้เราน้อย จะปรับทุกข์อะไร ก็หมดเวลาแล้ว
คำถามคือ ทำไมหมอมีเวลาให้กับเราน้อย?
คำตอบ--มีผู้ป่วยมากว่าหมอมากๆ  บางทีหมอมีเวลาตรวจคนไข้คนละไม่ถึง 5 นาที เนื่องจาก บางที คนไข้ที่มาไม่ได้เป็นอะไรมาก  แต่ถ้าคนที่เป็นมาก แค่ 5 นาที ตรวจไม่ได้ละเอียดเท่าใด
 ดังนั้น ถ้าเราไม่เป็นอะไรมาก ก็ต้องรู้จักป้องกัน และรักษาตัวเองบ้าง ถ้าไม่หายภายใน 3 วัน หรืออาการมากผิดปกติจึงควรมาหาแพทย์ และเตรียมข้อมูลมาให้พร้อม คุณก็จะมีเวลาปรับทุกข์กับหมอมากขึ้นค่ะ
เป็นคำแนะนำที่ดีค่ะ  เพราะส่วนใหญ่ไปพบแพทย์ก็ไม่ได้เตรียมตัวไปก่อน ถ้าเราเตรียมคำถามที่ถามจะได้ไม่ช้า แพทย์ต้องตรวจคนไข้มากในแต่ละวัน จะได้ไม่เสียเวลา  คุณ sasinanda  เคยผ่านประสบการณ์มารู้สึกเป็นอย่างไรบ้างค่ะ   ลำบากใจไหมค่ะเวลามีคนไข้ร้องเรียน หรือไม่พอใจแพทย์ ค่ะ
ไม่มีรูป
ดาวเรือง

     ขอบคุณที่สนใจค่ะ

   ดิฉันอยู่ตรงกลางระหว่างหมอกับคนไข้

  1. ลำบากใจค่ะ เวลาคนไข้ร้องเรียน ไม่พอใจหมอ แต่ก็พิจารณาที่มาที่ไปให้ถ่องแท้ก่อน จึงจะรู้ว่า ต้องทำอย่างไรต่อไป
  2. ลงเอยว่า ส่วนใหญ่  เป็นความเข้าใจผิดของคนไข้หรือญาติ  ที่อาจไม่เข้าใจในวิธีการรักษาของแพทย์ และเมื่อสงสัยแล้ว ก็ไม่ถามให้เข้าใจก่อน
ไม่มีรูป
Kmsabai
  • เป็นคำแนะนำที่เยี่ยมมากครับ
  • ขอบคุณแทนหมอๆครับ

 ขอบคุณค่ะที่ชม เพราะอยู่กับหมอและคนไข้มาหลายปี เข้าใจทั้งสองข้างค่ะ

แต่คนไข้ มักน้อยใจ ว่าหมออธิบายไม่ละเอียด จำไม่ได้ และไม่ค่อยเข้าใจ

เรื่องนี้ พยาบาลก็ช่วยได้ โดยไปอธิบายเพิ่มเติมหน้าห้องภายหลังก็ได้  คนไข้อายุมาก เวลามาหาหมอ ควรมีญาติมาด้วยค่ะ

เป็นคำแนะนำที่ยอดเยี่ยมจริงๆ

ขอบคุณอาจารย์มากแทนผู้ป่วยทั้งหลาย ว่าจะขออนุญาติ นำไปติดที่ OPD อีก หลายๆ ห้อง จะได้เพิ่มประโยชน์มากขึ้นค่ะ

ขอ  เติม นิดเดียว

ถ้าเอายาเก่า(ทั้งซองยา และเม็ดยา)มาให้หมอดู ก็จะช่วยให้ การวินิจฉัย และรักษาง่ายขึ้นด้วยค่ะ 

P

สวัสดีค่ะ ดีใจจังที่คุณหมอมาเยี่ยม

เชิญนำไปได้เลยค่ะ ถ้าเป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆ ยินดีมากค่ะ เข่าไปอ่านบล็อกของคุณหมอบ่อยๆนะคะ ได้ความรู้มากค่ะ ขอบคุณค่ะ

ดิฉันไม่สบายไปหาแพทย์ ครั้งแรกไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย  จะถามอะไรคุณหมอก้นึกไม่ออก  พอกลับมาบ้านเพิ่งนึกออก แย่มากเลย  แต่พอได้มาอ่านบันทึกแล้วรู้สึกเป็นคำแนะนำที่ดีค่ะ และนำไปใช้แล้วดีมากค่ะ เพราะการเตรียมตัวก่อนค่ะช่วยให้เราเร็วขึ้นไม่เสียเวลา มีประโยชน์มากเลย  ขอบคุณน่ะค่ะ 

  • สวัสดีครับ
  • เป็นปัญหาประวัติศาสตร์ติดตัวของกระผมเองที่ไม่ใคร่ได้เตรียมตัวไว้เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้
  • แต่ที่สำคัญคือกลับไม่ชอบที่จะไปหาหมอเอาเสียเลย
  • โดยล่าสุดนั่งรถบัสชนกับสิบล้อ  นึกว่าไม่เป็นอะไรมาก  หมอให้บำบัด  แต่ก็บ้างานไม่ยอมเข้าบำบัดร่างกายซะที 
  • ตอนนี้อาการปวดขาด้านซ้ายมีมากขึ้น  ซ้ำปวดหลังอยู่ตลอดเวลา   ยิ่งเดินทางบ่อยยิ่งประสบปัญหาอย่างมาก
  • แต่บันทึกนี้ช่วยย้ำให้เตรียมตัวอีกครั้ง  เพราะยังไงก็คงไม่รอดมือหมอแล้วละครับ...
  • ขอบคุณสาระประโยชน์ของคนอย่างผมที่กำลังจะไปหาหมอในเร็ววันนี้
  • ขอบพระคุณครับ
ไม่มีรูป
สุภาวดี

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณค่ะ ที่ได้ประโยชน์ จากบันทึกนี้ค่ะ

P

สวัสดีค่ะ

คุณแผ่นดินต้องรีบไปหาหมอเถอะค่ะ เรื่องนี้ ไม่ควรเก็บไว้นานค่ะ อาจมีอะไรที่ต้องดุแลร่างกายเป็นพิเศษ เพราะ เกิดจากอุบัติเหตุ

 สวัสดีค่ะคุณดารา
มีคนจำนวนมากที่เป็นหลายโรคในคราวเดียวกัน จริงๆแล้ว ควรแจ้งคุณหมอไปให้หมดนะคะ แต่ สำหรับอาการนำ ที่ต้องไปหาหมอในวันนั้น ก็ต้องเน้น เล่าให้คุณหมอฟังเป็นพิเศษค่ะ
เช่น เป็นเบาหวานอยู่ แต่วันนั้น หกล้มเข่าแตก ...ก็เน้นที่การหกล้มให้มากหน่อยค่ะ

คุณอารดาคะ
ขอบคุณที่เห็นว่า เป็นประโยชน์ ไปแนะนำคนอื่นๆได้อีกต่อไปนะคะ 

ขอบคุณนะคะ ที่มาแลกเปลี่ยนเป็นประโยชน์มากค่ะขออนุญาตบอกต่อนะคะ

สวัสดีค่ะคุณจิณห์นิภา32

ขอบคุณค่ะ ที่มาเยี่ยมที่บันทึก ถ้าเห็นเป็นประโยชน์ ก็เชิญค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท