สวัสดีครับอาจารย์
ธรรมะสวัสดีครับ
ขออนุโมทนาครับ
สิ่งที่เกิดกับอาจารย์เป็นสภาวธรรมที่พึงเกิดแก่ผู้ปฏิบัติที่เจริญสติอยู่เนืองๆ...
เรียกว่าแยกรูปแยกนาม
โดยมองเป็นส่วนๆรูปส่วนรูป...นามส่วนนาม มีอาการเป็นไปตามเหตุปัจจัยที่เข้ามากระทบ
หากเจริญสติต่อไป จะเห็นเหตุปัจจัยของรูปและนาม และเหตุของรูปและนามที่อิงกันและกันเกิดขึ้นครับ
ทั้งหมดเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน เพียงใช้สติเฝ้าดู
โดยเฉพาะยามป่วยไข้ ดูกาย เห็น เวทนา ดูเวทนาเห็นจิต ดูจิตเห็นธรรมครับ...จะไม่เกิดตัวตน เราเขาเลย
ตามมาเอาใจช่วยครับ
กราบนมัสการหลวงพี่ BM.chaiwut
ขอบพระคุณมากค่ะที่มาเยี่ยมทาง gotoknow รู้สึกดีขึ้นมากแล้วค่ะ แม้ว่าวันนี้เจอ Jackpot ต้องไปบรรยายทั้งวันที่พระจอมเกล้าธนบุรี เขานัดมานานแล้วเลื่อนไม่ได้ วันนี้ผู้ฟังเลยได้ฟังเสียงไอของผู้บรรยายไปด้วยในตัว
สำหรับคุณ ธรรมาวุธ
ดิฉันยังแยกร่างไม่เป็นแน่นอนค่ะ การแยกกายกับจิตที่ว่านี้ไม่เกิดตลอดเวลาค่ะ รับรองได้ยังไม่ได้แซงไปไหนไกลค่ะ เพราะวันนี้ตอนหลังบรรยายที่ มจธ. แล้วกลับไปบ้านเจอหลานรักทั้งสองอีกครั้ง คราวนี้ดิฉันปวดหัวหนักเลยค่ะ คงเป็นเพราะเจออากาศร้อนๆ เย็นๆ สลับกัน และใช้เสียงทั้งวัน ตอนปวดหัวหนักๆ ยอมรับว่าหาจิดไม่เจอเลยค่ะ เห็นปวดหัวชัดมากค่ะ เป็นตุ๊บๆ เหมือนโดนตีหัวเลยค่ะ สงสัยจะมีคนให้พรอยู่ ; )
ขอบคุณอาจารย์ พิชัย กรรณกุลสุนทร มากนะคะที่ได้ให้คำแนะนำ ตอนนี้พยายามเจริญสติตลอดเวลาเหมือนที่อาจารย์แนะนำค่ะ ดูกายตอนนี้ก็เห็นได้ชัดเจนว่ามันไม่เที่ยง การเกิดดับของอาการของกายแต่ละอย่างเห็นได้ชัดเจนถ้าเจริญสติอยู่ค่ะ เห็นเวทนา และแยกจิตได้พอสมควรค่ะ อย่างที่อาจารย์ว่าไว้ว่า "ดูกาย เห็น เวทนา ดูเวทนาเห็นจิต ดูจิตเห็นธรรม" นี้ดิฉันเห็นด้วยเลยค่ะ สุดท้ายแล้วตัวตนเราไม่มีค่ะ มีแต่ธรรมจริงๆ ขอบพระคุณอาจารย์และทุกท่านที่เอาใจช่วยมากๆ เลยค่ะ หายเกือบดีแล้ว แล้วก็จะปฏิบัติเรื่อยๆ ต่อไปค่ะ
สวัสดีครับอาจารย์
ธรรมะสวัสดีครับ
ขอบคุณในคำแนะนำนะคะ คุณธรรมาวุธ เห็นเวทนาเกิด-ดับชัดเจนเลยค่ะ
ขอบคุณคุณหมอ อนิศรา ค่ะ
ยินดีมากเลยค่ะ ที่ได้ผู้มาร่วมปฏิบัติมากขึ้น อนุโมทนากับคุณหมอเช่นกันค่ะ