งานฝึกอบรม;รับวิทยากร(2)


เอ๊ะ!..แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าใครเป็นใคร รับถูกได้อย่างไร ....จะออกปากถาม...อย่างไร...กรณีไม่มั่นใจว่าใช่หรือเปล่า

ในชีวิตการทำงานงานหนึ่งที่พบเจอจนเป็นปกติ(เกือบทุกวัน)คืองานรับวิทยากรที่สนามบิน....แน่หล่ะวิทยากรที่เราติดต่อทาบทามมีทั้งเคยเห็นหน้าและไม่เคยเห็นกันมีทั้งชาวไทยชาวต่างชาติ เอ๊ะ!..แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าใครเป็นใคร รับถูกคนได้อย่างไร ....จะออกปากถาม...อย่างไร...กรณีไม่มั่นใจว่าใช่หรือเปล่า
          ดิฉันทำงานฝึกอบรมมากว่าสิบปี รับวิทยากรเกือบจะทุกสัปดาห์ เคยรับวิทยากรแล้วไม่เจอกัน 3 ครั้ง ดิฉั้นยังอยู่ที่สนามบินวิทยากรโทรมาว่าเช็คอินเข้าที่พักแล้ว  ผมตกเครื่องบินครับต้องขอโทษแล้วผมจะไปเองพรุ่งนี้ไม่ต้องมารับ...ขอบคุณครับ...และพรุ่งนี้ผมจะสายไปหนึ่งชั่วโมงจึงแจ้งมาให้ทราบครับ  สารพันปัญหาเฉพาะหน้าที่มีมาให้แก้ไขไม่นานนัก "งานฟอร์มนิสัยใจคอของเรา"..พูดจาได้คล่องขึ้น คุยกับคนแปลกหน้าได้ทุกรูปแบบ  คุยกับคนได้อย่างออกรสชาด แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี

ง่ายที่สุด....เรียนแบบ บริษัททัวร์หรือโรงแรม ที่มักใช้ป้ายยกให้แขกรู้ว่า....คนมารับอยู่ตรงนี้ แต่มันเขินนะคนลงเครื่องมามองเราแทบทุกคนอ่านชื่อนั่นแหล่ะงงงก็มันอยู่ตรงจุดที่สายตาเห็นพอดี..ทำหน้าไม่ถูกเลยค่ะ......แล้วเราไม่มีป้ายสวยขนาดนั้นเอาหล่ะกระดาษ A4 นี่หล่ะ print ให้ตัวอักษรชัดเจนหน่อย เขียนให้แขกเห็นนะคะไม่ใช่ให้ตัวเองรู้ว่า ตัวเองมารับใคร 
           อ้าว!ดิฉั้นพูดอย่างนี้อย่าหาว่ากวนโอ๊ย กวนใจนะคะ อย่าคิดว่าไม่มีนะคะเวลาที่ยืนรอรับอยู่เฉยๆหรือเวลาเดินออกมาจากห้องผู้โดยสารขาเข้าดิฉั้นจะซุกซนสังเกตไปเรื่อย...บางคนเขียนตัวเล็กนิดเดียวเขียนให้พอรู้ว่าฉั้นเขียนแล้วนะ...แกไม่เห็นชื่อตัวเองก็แล้วไปฉันทำหน้าที่ของฉันแล้ว....แบบว่าบริการแบบขอไปที...ก็มี
           แรกๆ ดิฉั้นเคยเกี่ยงกับคนขับรถ....ช่วยถือให้หน่อยซิ...หลายครั้งที่แกก็ไม่เอานะคะจะอายหรือไงก็ไม่ทราบ...แถมมีเหตผลมาสยบเราได้ชงัด...ก็มันเป็นงานของคุณ.....คุณต้องหาให้เจอซิ...แล้วพาไปขึ้นรถผมมีหน้าที่ขับรถ...เอาหล่ะหว่า!...ย้อนสอนเราอีกให้รู้จักแยกงานใครเป็นงานใคร
              กรณีที่กล่าวข้างบนคือ...เราไม่รู้จัก...ใครๆในแวดวงก็ไม่รู้จัก...หรือถามใครไม่ทันพึ่งป้ายนี่หล่ะ...ไม่ต้องอาย...แต่มีนะคะ...วิทยากรบางท่านก็ไม่ชอบให้ชื่อสกุลของท่านไปประกาศหราว่าท่านมาที่นี่ในวันนี้....ดิฉั้นเคยได้รับการบอกกล่าวตรงๆจากท่านทางโทรศัพท์ว่าหนูอย่าขึ้นป้ายรับที่สนามบินนะ...แล้วดิฉั้นก็พาซื่อถามไปตรงๆ...แล้วจะรู้ได้ยังไงคะว่าเป็นท่าน....มันมีวิธีอื่นที่ไม่ต้องยกป้ายก็ได้อีกตั้งเยอะ......อ่านต่อบันทึกหน้านะคะ...วันนี้หมดเวลา..



 

หมายเลขบันทึก: 87285เขียนเมื่อ 29 มีนาคม 2007 11:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:58 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)
  • ตามมาเรียนรู้ครับ
  • นอกจากป้ายแล้วจะมีอะไรอีกหนอ....จะตามอ่านตอนต่อไปนะครับ

ถึงพี่เมตตา

  • ผมไม่เคยไปรับวิทยากรเลยครับ แต่หลายครั้งที่คนในหน่วยงานผม จะต้องไปรับ โดยไม่รู้จักหน้าตา ก็จะมาหาผมให้ช่วย search หาในอินเทอร์เน็ตให้ ก่อนที่จะไปรับ
  • สำหรับวิทยากรในระดับประเทศ ระดับนานาชาติแล้ว หาได้ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นวิทยากรที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักนัก ก็จะหารูปลำบาก บางที่มีคุณชื่อเหมือนกัน นามสกุล เหมือนกันก็มี
  • แต่ที่ขาดไม่ได้คือป้ายไปรับที่สนามบินครับ
  • ไม่ได้เข้ามาทักทายพี่เมตตานานแล้วครับ

ขอบคุณมากสำหรับเทคนิคกระดาษ A

กัมปนาท

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

กะปุ๋มไม่เคยไปรับวิทยากรหรอกค่ะ....แต่เคยถูกรับ...ส่วนใหญ่ก็จะติดต่อประสานทางโทรศัพท์ก่อนค่ะ...และก่อนลงหรือกำลังเดินลงจากเครื่องก็โทรประสานกันอีกครั้งค่ะ และพอเดินออกไปก็พยายามสอดส่ายสายตาและสบตาค่ะ....ก็จะรู้เอง...

เท่าที่ผ่านมายังไม่เคยพลาดเลยค่ะ...อิอิ..ดีมากเลยค่ะที่ได้อ่านบันทึกทำนองนี้อย่างน้อยก็ได้ทราบอารมณ์ ความคิด ความรู้สึกของผู้ไปรับค่ะ

(^______^)

  • เอาอย่างพวก โรงแรมก็ไม่เลวนะครับ....ผมคิดเอาง่าย ๆ ยืนชูป้ายแสดงตัวเองแทน
  • เตรียมป้าย......เมตตา...มอ....สวย ๆ...555

ใช่เลยค่ะ..ท่าน อ.Panda ไอเดียนี้ใช้ได้เลยค่ะ...สุดยอดค่ะ เพราะ...อย่างน้อยคนไปรับก็ต้องแจ้งวิทยากรว่าคือใคร ... ประมาณว่าวิทยากรเดินมาหาป้าย...สาวสวย...ที่มีนามว่า "เมตตา"...ก่อนเลยค่ะ....อิอิ

(^_____^)

ขอเพิ่มเทคนิคอีกนิดค่ะ

ใช้กระดาษ A4 นั่นแหละคะ  แต่ติดทับบนแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด ขนาดเท่ากับกระดาษ A4 จะทำให้ดูแข็งแรงขึ้นค่ะ

ขอบคุณค่ะคุณสิงห์ป่าสัก...มีอีกหลายอย่างค่ะจะทยอยเขียนมาออกมาค่ะ
คุณแจ๊คคะรูปที่หาได้ในอินเตอร์เน็ตกับตัวจริง...ต่างกันเป็นส่วนใหญ่ค่ะ...แต่ก็ใช้ได้ค่ะ ต้องสังเกตเก่งๆ มีเค้าลางดีกว่าไม่มีอะไรเลย ขอบคุณค่ะพักนี้พี่หายๆไป ติดภารกิจบางอย่างตอนนี้คลายแล้วค่ะ..จะเขียนเรื่อยๆ
กะปุ๋มคะ....วิทยากรที่ยุ่งมากๆ เราไม่เคยได้คุยกับท่าน ผ่านเลขาฯ บ้างผ่านผู้ใหญ่ของเราบ้าง ไม่ได้มีจังหวะถามเกี่ยวกับรูปพรรณสัญฐานกันก็มีมาก...ใช้สบตากันก็บ่อย ...ส่วนใหญ่จะถูก...รับถูกคนบ่อยๆ กลายเป็นดูภาษากายเก่ง...เลยมีหน้าที่รับตลอดเพราะทีมงาน...เขายกให้เป็นยอดของการสรุปสัมผัสแบบไม่เห็นตัว

อ.แพนดา สวัสดีค่ะ...ดีจังไอเดียนี้..แต่ทว่าหาเมตตา คนสวย วิทยากรคงสับสน...หากันนานค่ะ อิ...อิ..

คุณรัตติยาคะ ทำมาหลายปีตอนนี้ไม่ต้องใช้ป้ายแล้วค่ะ...(ใช้คนอื่นไปรับแทน...ฮา...ฮา...)

สวัสดีคะพี่เมตตา
คิดถึงพี่เมตตาคะ น้องเมก็ได้มีโอกาสรับวิทยากรและขอบคุณสำหรับวิธีการรับวิทยากรจากพี่เมตตา...แต่น้องเมรู้สึกเขินไม่กล้าถือป้ายคะ แต่ใช้วิธีการก็คือ ถ้าท่านวิทยากรที่เราไม่รู้จักหน้าค่าตามาก่อนและท่านมีเลขาก็รบกวนเลขาช่วยส่งรูปท่านวิทยากรมาให้ดู และสอบถามเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนของท่านวิทยากรและจะติดต่อท่านก่อนที่ท่านจะเดินทางมา บอกสัญลักษณ์ที่ท่านจะสังเกตเราได้และสอบถามว่างเราจะสังเกตท่านได้อย่างไรคะ และสื่อสารเพิ่มเติมถึงการดูแลต้อนรับท่านตลอดการเดินทางคะ
...แต่ช่วงที่น่าตื่นเต้นสุดก็คือ ช่วงที่เครื่องบินลงจอดและเดินออกมา ต้องใช้การสังเกตอย่างใจจดใจจ่อคะ...ถ้าสัญญาณผ่านทางสายตาจูนตรงกับท่านใดและลักษณะตรงกับที่ท่านบอกก็จะเข้าไปสอบถามและแนะนำตัวคะ...แรกๆ ช่วงเรียนรู้วิธีการตื่นเต้นทำให้ผิดบ้าง แต่หลังๆ ไม่พลาดคะ (สนุกและตื่นเต้นดีคะ)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท