วิถีชีวิตธรรมดาของคนอีสานในอดีตมีความทั้งพอและเพียง เดินลงทุ่งนากลับมาก็ได้อาหารเป็นหม้อ มีทั้งไข่มดแดง ผักติ้ว ผักขี้เหล็ก ใบยานาง หน่อไม้จากชายทุ่ง พร้อมหอยขม เดินกลับมาเก็บผักชะอมริมรั้ว วันนี้ก็ได้อาหารอันโอชา คือแกงขี้เหล็กไข่มดแดงใส่หอยขม ยิ่งถ้าใด้เขียดตัวเล็กๆ มาใส่ลงไปอีก จะทำให้รสชาติอาหารวันนี้วิเศษมากๆเลย มั่นใจที่จะตักแบ่งใส่ถ้วย หลายๆใบเดินแบ่งปันบ้านใกล้เรือนเคียง ให้อร่อยกันทั้งคุ้มไปเลย
แต่ปัจจุบันต้นทุนทางธรรมชาติ ต้นทุนทางสังคม ของคนอีสานใด้ถูกทำลายจนแทบไม่เหลืออีกแล้ว คงเหลือไว้เพียงวิกฤติในสังคมอีสาน ที่คนอีสานเองไม่สามารถที่จะอยู่ในท้องถิ่นของตัวเองใด้ คนอีสานเดือดร้อนอดอยาก ทั้งๆที่คนอีสานเป็นคนมีความเรียบง่าย อยู่ง่าย กินง่าย เก็บผักตามริมรั้ว จับกบ จับเขียด จับกิ่งก่า แหย่ไข่มดแดง มาแกงไส่ใบขี้เหล็ก ก็อยู่ใด้แล้ว
แล้วเราจะตอบปัญหาของคนอีสานใด้อย่างไร จะใช้หลักการและกระบวนการของการจัดการความรู้ โดยการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์เพื่อชดเชยทรัพยากรเก่าที่หายไปใด้อย่างไร
แต่ทั้งความรู้และการจัดการความรู้ ของแต่ละพื้นที่ ก็มีความแตกต่างกัน ความคิด วิธีคิดก็แตกต่างกัน แต่ละคน แต่ละพื้นที่ แต่ละชุมชน(อบต.) ก็ต้องเรียนรู้ และลงมือทำด้วยตัวเองเหมือนกับคำของคนเถ้าคนแก่ที่ว่า"สุกอยู่ต้น บ่คือฝานมาบ่ม เพิ่นบ่มให่บ่คือเจ้าบ่มเอง" ปัญหาของคนอีสาน วิกฤติของคนอีสาน คนอีสานต้องทำเอง เราคงไม่ต้องให้คนอื่น จากพื้นที่อื่นที่แตกต่างจากเรา มาแก้ปัญหาให้เรา
เราต้องพัฒนาทั้งทุนธรรมชาติและทุนทางสังคม ที่อ่อนแอทั้งคู่ เห็นด้วยครับ
แต่เราจะเริ่มตรงไหน แล้วทุนทางสังคมที่เป็นความรู้ในองค์กรชุมชนเป็นอย่างไร ทำไมไม่เขียนมาครับ
หรือว่าลืมหัวข้อของตัวเอง
เวลาแทบไม่เหลือแล้วครับ
แม้เอาจริงก็ไม่แน่ใจว่าเวลาจะพอ
ไม่เอาจริงนั้นเลิกคิดเลยครับ อย่างไรก็ไม่มีทางถึงเป้าหมายครับ
การพัฒนาต้องเริ่มจากตัวเอง จากทุนที่มีอยู่ มองให้เห็นสิ่งที่มีอยู่แม้เป็นเรื่องดีหรือความสำเร็จที่ไม่ได้ยื่งใหญ่(ทุนทางสังคมที่ดร.แสวงกล่าวถึงนั้นใช่เลยค่ะ)
อย่ามัวไปวิตกกับปัญหา กับวิกฤตที่เกิดมาแล้ว มองปัญหาอย่างหาข้อเสนอการแก้ปัญหามาด้วย นี่เป็นวิธีคิดแบบการจัดการความรู้เพื่อสังคม
หากเราคิดว่าทุกสิ่งเลวร้ายเสียเหลือเกินเราจะเอาพลังจากที่ไหนมาแก้ปัญหา ให้คิดทางบวก คิดแบบคนมีความหวัง ตัวอย่างดีๆในสังคมมีเยอะที่จะเป็นพลังให้ฝ่าฟันเพื่อหลุดพ้นจากปัญหาได้
หวังว่าป่านนี้อาจารย์คงก้าวหน้าไปได้มากแล้วนะคะ เอาใจช่วยค่ะ