ดงหลวงคือแหล่งผักหวานป่า (ที่กำลังเกิดวิกฤติ)
เมื่อเราพูดถึงการตอนผักหวานป่าที่ดงหลวง ก็ต้องพูดถึง เซียน ที่ชื่อ หมอธีระ เพราะตั้งอกตั้งใจเอาผักหวานป่ามาทดลองในสวน
มาวันนี้ หมอธีระ เป็นนักประดิษฐ์ คิดค้นเตาเผาถ่านประสิทธิภาพสูงแบบประหยัดขึ้นมาอีกแล้ว
หมอธีระ ชื่อจริงนายบัวไล เชื้อคำฮด เป็นสหายที่อดีตเป็นหมอป่าคู่กับนายแพทย์แหวง โตจิราการ ผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาตลอดในศูนย์กลางอำนาจรัฐ แต่สหายธีระ คือชาวบ้านธรรมดา ที่มีร้านขายของเล็กๆน้อยๆให้ภรรยารับผิดชอบ ส่วนตัวเองก็ขลุกอยู่กับสวนผสมผสานใกล้ๆบ้าน ด้วยมีแรงงาน เพียงคนเดียวจึงทำแต่พอกำลัง วันละเล็กละน้อย สวนเล็กๆปลูกหลายอย่างที่สำคัญคือ ผักหวานป่าที่ สวนแห่งนี้คือห้องทดลองมานานหลายสิบปี จนพบข้อเท็จจริงในเรื่องการตอนและการดูแลต้นผักหวานป่า
มาวันนี้สหายธีระแอบซุ่มเงียบทำเตาเผาถ่านประสิทธิภาพสูงด้วยวัสดุที่มีในท้องถิ่นโดยไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว ด้วยเคยไปศึกษาดูงานที่มูลนิธิพัฒนาอีสานจังหวัดสุรินทร์ เมื่อหลายเดือนก่อน หมอธีระก็เก็บความคิดเงียบไว้เพียงคนเดียวว่าจะทำอย่างไรจึงลดต้นทุนการทำเตาลงได้
เพราะจากแบบที่ศึกษามานั้นต้องซื้อถังขนาด 200 ลิตร 1 ใบราคาประมาณ 200-300 บาท หรือมากกว่านั้น ต้องซื้อท่อใยหินข้องอ และท่อตรงอีกไม่น้อยกว่า 100-200 บาท อิฐบล็อกอีก 5 ก้อน แม้ว่าจะเป็นเงินไม่กี่บาทสำหรับคนในเมืองที่รวมค่าต้นทุนนี้แล้วยังน้อยกว่าค่าเหล้าฝรั่ง 1 ขวดเลย มาวันนี้สหายธีระติดสินใจทำเตาเผาถ่านด้วยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ด้วยเศษไม้ไผ่ กิ่งไม้ที่มีอยู่ในสวน เศษลวดที่ เก็บสะสมเอาไว้ และสังกะสีเก่าๆที่พอหาเอาได้ในบ้านของตนเอง ดินเหนียวที่มีมากมายจะเอาสักเท่าไหร่ สหายธีระเอาประสบการณ์ที่ไปศึกษาดูงานที่สุรินทร์เป็นตัวตั้ง และคิดดัดแปลงเอาตามสภาพท้องถิ่นและกรอบคิดของตนเองว่า อยากจะ "ทดลอง" เป็นเตาแรกว่า
โครงสร้างภายในเตาเผาถ่านนี้ใช้ลวดเก่าๆมาผูกโยงยึดเข้าด้วยกัน ขอบด้านนอกและในเป็นเศษไม้ที่มีอยู่ เอามาวางเรียงกันแล้วใช้ลวดผูกเข้าด้วยกันพออยู่
ไม่มีใครคิดในสิ่งนี้มาก่อน ไม่ว่านักพัฒนา หรือนักวิชาการ หรือผู้นำต่างๆ แต่ชาวบ้านธรรมดาคนนี้ หรือสหายคนนี้ คิดออกมาได้ ถ้าจะกล่าวว่าสหายธีระเป็นนักคิดค้นพื้นบ้าน สิ่งที่ทำนี้ก็เป็นตัวอย่างยืนยันที่สำคัญ ที่ท่านครูบาตั้งประเด็นว่า "ถ้าขาดแคลนความรู้ ก็ยากที่จะอยู่อย่างพอเพียง"
อยู่ชนบท โดยเฉพาะดงหลวง ไม้ ไร่เยอะแยะ ก็ประหยัดได้โดยไม่ต้องไปเสียเงินซื้อหาถัง 200 ลิตรให้สิ้นเปลือง ในทางปฏิบัติไม่ใช่เฉพาะราคาค่าถัง ค่าท่อเท่านั้นนะครับ หากจะซื้อต้องออกมาในเมือง เสียค่ารถอีกไม่น้อย
หากการทดลองนี้ใช้ได้ดี คำถามตามมาว่า
สวัสดีค่ะคุณบางทราย
นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของกระบวนการคิดที่ทุกคนพูดถึงกันอึงมี่..แต่หาตัวอย่างแบบรูปธรรมมาสนับสนุนได้ยากเต็มที นอกจากตัวอย่างพื้นๆทั่วๆไป..
ทักษะการคิดมี 2 ประเภท ประเภทแรก..ทักษะการคิดขั้นพื้นฐาน และทักษะการคิดระดับสูง..ตัวอย่างนี้ถึงพร้อมทั้ง 2 ทักษะเลยค่ะ..
อยากให้มีคนอย่างนี้เยอะๆจัง..
สวัสดีค่ะคุณบางทราย
เห็นแล้วทึ่งมากเลยค่ะ ไม่นึกว่าจะเป็นเตาเผาถ้าเห็นรูปแรก นี่คือบทบาทงานพัฒนาชุมชนของภาค "เอกชน" ยกนิ้วโป้งให้เลยค่ะ นี่คือนักพัฒนาตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงจริง ๆ ค่ะ
ยอดมากครับสำหรับการคิดต่อยอด การนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับศักยภาพของตนเองและท้องถิ่นนับว่าคุณธีระทำได้ดีมาก ๆ น่านับถือ แล้วผลการทดสอบหรือการใช้งานจริงเป็นอย่างไรบ้างครับ ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับเตาที่ใช้ถังเหล็ก 200 ลิตรหรือไม่ครับ รบกวนให้คุณบางทรายนำเสนอเรื่องราวต่อพร้มทั้งรายละเอียดด้านอื่น ๆ เช่น ผลผลิตถ่านที่ได้ น้ำส้มควันไม้ อายุการใช้งานของเตา ถ้าเป็นไปได้น่าจะนำเสนอวิธีการก่อสร้างด้วยจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะมากครับ
สวัสดีครับ สุพรชัย มั่งมีสิทธิ์