เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2550 ดิฉันและทีมงานก็ได้ไปจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อร่วมงานสัมมนาฯ เรื่อง การขับเคลื่อนยุทธ์ศาสตร์อยู่ดีมีสุข เราก็ได้ไปทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากองค์กรกันเสร็จสิ้นแล้ว
ในช่วงเย็นของวันนั้นทางพี่ ๆ ทีมงานสำนักงานเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช ก็พาไปกินข้าวที่ "ครัวนายหนัง" พอประมาณ 2 ทุ่มก็มีการแสดงหนังตะลุง ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 20 ปี ที่ไม่ได้ดูหนังตะลุง ๆ เป็นศิลปพื้นเมืองของภาคใต้ที่มีมาช้านาน ดิฉันก็เลยถามเจ้าหน้าที่ว่า "มีร้านไหนบ้างของที่นี่ที่มี...การแสดงหนังตลุง" เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า "มีที่นี่ร้านเดียวเท่านั้น"
เกร็ดของเนื้อหาที่ดิฉันได้ฟังจากการเล่นหนังตลุงก็คือ นายหนัง...ได้นำเนื้อหาสาระของแผนชุมชน ความเป็นอยู่ที่พอเพียง และทุกข์สุขของประชาชน ฯลฯ ซึ่งทำให้เราคิดกันว่า "ถ้าเราเอาองค์ความรู้ที่มีอยู่ด้านการเกษตร มานำเสนอโดยใช้เทคนิคเช่นนี้ก็คงทำให้สนุกสนานและชวนฟังได้" และเราสามารถเดินเรื่องราวของเนื้อหาสาระได้เช่นกันแบบที่ "นายหนังตลุง" พากษ์เพื่อเชื่อมโยงประเด็นต่าง ๆ มาอยู่ในที่เดียวกันและให้เห็นเป็นเรื่องเดียวกันโดยใช้ "ภูมิปัญญาท้องถิ่น...และศิลปพื้นบ้าน" จึงทำให้นึกถึง "เพลงลำตัด มโนรา เพลงนา หมอลำ และอื่น ๆ" เพราะ "การจัดการความรู้...เราต้องสร้างบรรยากาศของการแลกเปลี่ยน...คนถึงจะมีอารมณ์ร่วมและเกิดความอยากที่จะเรียนรู้ได้อย่างสนุก และมีความสุขกับสิ่งที่ได้รับ"
ร้านครัวนายหนังที่คุณศิริรวรรณและทีมงานไปมาอยู่ใกล้กับบ้านผมไม่เกิน 1 กม. ครับ ไม่ยักรู้ว่าแสดงเกี่ยวกับเรื่องแผนชุมชนด้วย วันหลังต้องไปดูและเชื่อมต่องานซะแล้วหละ ขอบคุณคุณศิริวรรณมากนะครับ
ขออภัยในฐานะเจ้าบ้านที่ไม่ได้เทคแคร์อะไรเลย