เมื่อสองวันที่ผ่านมานี้พอดีได้ดูข่าวรถโดยสารประจำทางระเบิดแถว ๆ โคราช-สระบุรี ดูแล้วก็สลดใจนะครับ คนอยู่ดี ๆ ก็ต้องมาประสบอุบัติเหตุแบบไม่คาดคิด... ทั้ง ๆ ที่ผู้โดยสารพยายามหนีเอาตัวรอดแล้วก็เหอะ... เหตุการณ์นี้ทำให้รู้ว่าเหตุการอันตรายที่เราคาดไม่ถึงมันเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ไม่เลือกสถานที่ ไม่เลือกเวลาด้วยสิ...
พอดี... ได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ในเล่มเขาได้เขียนเนื้อหาเกี่ยวกับการเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่าง ๆ เอาไว้ เลยคิดว่ามันดีนะ เรารู้ไว้ คนอื่นรู้ไว้ จะทำตามหรือไม่ทำตามก็ไม่เสียหายอะไร ก็เลยเอามาฝากกัน... เผื่อสิ่งที่คาดไม่ถึงมันมาหาเรา เราจะได้แก้สถานการณ์ได้ทัน อย่างน้อยก็ได้ทำหละนะ....
เขาเขียนไว้ว่า....
สถานการณ์เสี่ยงจากรถจมน้ำ... เขาว่าไว้ว่า เมื่อรถตกน้ำเราจะจมอย่างรวดเร็ว คุณควรรีบเปิดหน้าต่างรถทันที และหนีออกมาให้เร็วที่สุดขณะที่รถยังลอยน้ำอยู่ แต่ถ้าเปิดทั้งประตูและกระจกไม่ออก คุณควรสูดอากาศให้เต็มปอดแล้วกลั้นหายใจรอไว้ จนน้ำท่วมเข้าในรถถึงระดับศีรษะ พอความดันน้ำด้านนอกกับด้านในรถมีปริมาณเท่ากันคุณก็จะสามารถเปิดประตูรถออกได้...
สถานการณ์เสี่ยงจากไฟไหม้... เขาว่าไว้ว่า ก่อนอื่นให้หาผ้าชุบน้ำมาปิดปากปิดจมูกไว้เพื่อป้องกันการสำลักควัน จากนั้นให้ก้มตัวต่ำ ๆ หรือคลานไปที่ทางหนีไฟแล้วรีบออกจากอาคารให้เร็วที่สุด และก่อนจะเปิดประตูทุกบานควรลองแตะเบา ๆ ที่ลูกบิดดูก่อนว่าร้อนหรือเปล่า เพราะด้านหลังประตูไฟอาจจะกำลังไหม้แรง ถ้ารีบเปิดทันทีไฟจะพุ่งเข้ามาหาคุณ...
สถานการณ์เสี่ยงจากการกระโดดจากที่สูงลงสู่พื้นน้ำ... เขาว่าไว้ว่า ที่ที่จะกระโดดควรจะห่างจากริมฝั่ง เพื่อให้น้ำลึกพอที่จะไม่ทำให้เกิดอันตราย เวลาโดดต้องเอาเท้าลง จัดลำตัวให้อยู่ในแนวดิ่ง บีบขาให้ชิดกัน ปล่อยให้เท้าสัมผัสน้ำก่อน ในขณะเดียวกันต้องเกร็งก้นและเกร็งแผ่นหลังเอาไว้ พอลงน้ำแล้วให้กางแขนขาให้กว้างที่สุด พยายามสะบัดขึ้นลงเพื่อพยุงตัวเองขึ้นสู่ผิวน้ำ และเพื่อป้องกันการกระแทกกับพื้นด้านล่าง หรือป้องกันไว้หากแถวนั้นมีน้ำลึกไม่พอ
สถานการณ์เสี่ยงจากการหลงป่า... เขาว่าไว้ว่า คุณควรพยายามเดินย้อนกลับไปทางเดิมโดยเดินตามลำน้ำหรือสันเขาไป เพราะคนที่จะมาช่วยคุณก็จะต้องลัดเลาะมาทางนี้เหมือนกัน และควรสังเกตรอยเท้าตัวเองไปด้วย แต่ถ้าหากไม่รู้จากไปทางไหนให้ปีนขึ้นไปบนที่สุงก่อนเพื่อมองสภาพพื้นที่รอบ ๆ ในขณะที่เดินควรขยันส่งสัญญาณให้คนที่มาช่วยได้ยินหรือได้เห็นตลอด เช่น การใช้มีดหรือนาฬิกาส่องกับแสงอาทิตย์ เป่านกหวีด เป็นต้น นอกจากนี้ควรหยุดพักบ่อย ๆ เพื่อป้องกันร่างกายสูญเสียความร้อน แต่ถ้าหิวน้ำอาจดื่มได้จากต้นกระบองเพชร เป็นต้น
สถานการณ์เสี่ยงจากแผ่นดินไหว... เขาว่าไว้ว่า ถ้าคุณอยู่ในตัวอาคาร ครัวจะเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุด เพราะมีของมีคมมากมาย ดังนั้น ควรอยู่ห่างจากครัวและหน้าต่างเข้าไว้ และที่สำคัญควรหาสิ่งที่จะทำให้เกิด “ช่องว่าง” พอที่จะกำบังตัวคุณได้ เช่น ไปหลบอยู่ข้าง ๆ โซฟา ตู้ เตียง เพราะว่าถ้าผนังพังลงมา จะทับของพวกนี้กับพื้นก่อน ทำให้บริเวณข้าง ๆ เป็นช่องว่างเล็ก ๆ ทำให้คุณปลอดภัยในระดับหนึ่ง
สถานการณ์เสี่ยงจากหัวใจวาย... เขาว่าไว้ว่า คนหัวใจวายกะทันหันถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจะหมดสติไปในเวลา 10 วินาที เท่านั้น ซึ่งอาจจะตายได้ ตัวผู้ป่วยเองสามารถที่จะชลออาการได้ด้วยตัวเอง ด้วยการไอแรง ๆ ซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่อง ก่อนไอทุกครั้งควรสูดอากาศลึก ๆ และไอมายาว ๆ และจะต้องไอต่อเนื่องกันทุก ๆ 2 วินาที อย่าหยุดจนกว่าจะมีคนมาช่วยหรือรู้สึกว่าหัวใจเต้นเป็นปกติแล้ว
สถานการณ์เสี่ยงจากสุนัข... เขาว่าไว้ว่า ถ้าบังเอิญสุนัขมันลุกขึ้นมาแยกเขี้ยวใส่คุณ ให้จำไว้เลยว่า “ห้ามจ้องตามัน” ให้ยืนนิ่ง ๆ แล้วค่อย ๆ ถอยหลังช้า ๆ และถ้าคุณเจอสุนัขแม่ลูกอ่อน ให้คุณเดินผ่านไปให้เร็วที่สุด และต้องทำเป็นไม่มอง ไม่เห็นมันเด็ดขาด...
* ของอย่างนี้... รู้ไว้ใช่เสียเปล่าใช่มั้ยล่ะครับ...
ไม่มีความเห็น