ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๖ มีนาคม ๒๕๕๐ ศูนย์การศึกษาต่อเนื่องทางการพยาบาลรามาธิบดี ภาควิชาพยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีได้จัดการประชุมวิชาการเรื่อง “การส่งเสริมความเป็นเลิศในการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง” ณ ห้องประชุมเจ้าพระยาบอลรูม โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพ มีพยาบาลจากโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศเข้าประชุมจำนวนเต็มห้องพอดี น่าจะมีจำนวนไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ คน
เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๐ เวลา ๑๑.๐๐-๑๒.๐๐ น. ดิฉันไปเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อเรื่อง “นวัตกรรมการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน” ต่อจากหัวข้อเรื่องนวัตกรรมในการดูแลผู้ป่วยเด็กเรื้อรัง : Respiratory Care ซึ่งบรรยายโดยอาจารย์ธิติดา ชัยศุภมงคลลาภ
ดิฉันเดินทางไปถึงโรงแรมก่อนเวลาประมาณ ๓๐ นาทีกว่า จึงได้มีโอกาสฟังการบรรยายเรื่องดังกล่าวด้วย ได้เห็นภาพเครื่องมือต่างๆ เช่น SMI, PEP mask, etc. แล้วบอกกับตัวเองได้เลยว่าเนื้อหาที่ดิฉันเตรียมมาพูดนั้นเป็น “นวัตกรรมแบบลูกทุ่ง”
ดิฉันนำเสนอเรื่องของการใช้ KM เป็นเครื่องมือในการสร้างเครือข่ายและพัฒนาการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ทำให้บุคลากรสหสาขาวิชาชีพทำงานร่วมกันเป็นทีมที่มีเป้าหมายเดียวกัน ตัวอย่างสมาชิกเครือข่ายที่ได้เรียนรู้วิธี KM แล้วนำไปประยุกต์ใช้กับผู้ป่วยและชุมชน เช่น “KM เบาหวานต่างตำบล” ของทีมเวชศาสตร์ครอบครัว รพ.พุทธชินราช การดูแลเท้าเชิงรุกในชุมชนของ รพร.ธาตุพนม การใช้บล็อก GotoKnow.org ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็นพื้นที่ให้คนทำงานได้เจอกันแบบ "B2B"
การจัดทำอุปกรณ์เครื่องใช้เพื่อให้ความรู้และสนับสนุนการดูแลตนเองของผู้ป่วย
รวมทั้งการบริการที่ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีขึ้น เช่น
- ซองยาที่มีสัญลักษณ์บอกเวลารับประทานยาของ รพ.ตาคลี จ.นครสวรรค์
(เช้า-ไก่ขัน กลางวัน-พระอาทิตย์เต็มดวง เย็น-พระอาทิตย์ตกน้ำ
ก่อนนอน-เตียง)
- การใช้สัญลักษณ์บอกขนาดและจำนวนมื้อของการรับประทานยาของ รพ.ยะรัง
จ.ปัตตานี
- กระติ๊บข้าวเหนียวในโครงการอิ่มด้วย ๑ ก่องข้าว ของ รพ.เกาะคา
จ.ลำปาง
- Monofilament ที่ทำเองจากไม้ตะขบและเอ็นตกปลาเบอร์ ๔๐ ของ
อสม.และชาว สอ.บ้านกุดจาน อ.คำตากล้า จ.สกลนคร
- เครื่อง podoscope ทำเองในราคา ๒,๐๐๐ บาท ของ รพร.ธาตุพนม
- กองทุนรองเท้าของ รพ.ครบุรี
ที่ช่วยให้ผู้ป่วยได้สวมรองเท้าที่สามารถปกป้องเท้าได้มากขึ้น
โดยผ่อนชำระค่ารองเท้าได้ตามกำลังที่มีของตน เป็นต้น
ดิฉันเสนอแนะว่าในอนาคต ควรคิดนวัตกรรมการจัดบริการเพื่อการดูแลที่ดีกว่าและสามารถเข้าถึงคนจำนวนมากกว่า เพราะผู้ป่วยเบาหวานมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เวลาที่ใช้ต่อผู้ป่วยแต่ละรายจะยิ่งน้อยลง และควรนึกถึงการเอื้ออำนาจให้ผู้ป่วยสามารถทำได้ “มากกว่าการดูแลตนเอง” ให้ผู้ป่วยเบาหวานและครอบครัวมีปากมีเสียงไม่ใช่เพียงเพื่อสุขภาพของตนเอง แต่เพื่อสุขภาพของชุมชนของเขาด้วย
วัลลา ตันตโยทัย วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๐
เจออาจารย์เล่าตอนเจอกันที่ HA national forum ว่านวัตกรรมที่เอาไปเล่าในที่ประชุม ลูกทุ่งมาก แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ถามว่าลูกทุ่งอย่างไร พอเห็นอาจารย์ยกตัวอย่างแล้ว ก็เลยคิดตามว่าจะเพิ่มคุณค่า ของคำว่า "ลูกทุ่ง" ได้อย่างไรบ้าง ครับ (หาข้อดีให้ ในความเป็นลูกทุ่ง)
- สังเกตว่า นวัตกรรมที่ได้มักมาจากคนต่างจังหวัด อันนี้น่าจะตรงกับคำว่าลูกทุ่งมากที่สุด ...อิๆๆ...
- มันเป็นอะไรที่ใกล้ตัว ทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถเลียนแบบกันได้ ทั้งวัสดุ อุปกรณ์ และรูปแบบบริหารจัดการ (ไม่น่ามีใครจดสิทธิบัตรนะ)
- มักจะมาจากข้อจำกัด ทั้งเงิน คน จึงต้องสร้างเองด้วยมือ ทำให้มีคุณค่าทางจิตใจ(กำลังใจ) สูงมั่กๆ....
คิดเล่นๆนะครับ...ไม่คิดมาก.....เผื่อมีใครหาคุณค่าให้ เพิ่มเติม.....
" ควรคิดนวัตกรรมการ จัดบริการเพื่อการดูแลที่ดีกว่าและ สามารถเข้าถึงคนจำนวนมากกว่า เพราะผู้ป่วยเบาหวานมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เวลาที่ใช้ต่อผู้ป่วยแต่ละรายจะยิ่งน้อยลง
และควรนึกถึงการเอื้ออำนาจให้ผู้ป่วยสามารถทำได้ “มากกว่าการดูแลตนเอง” ให้ผู้ป่วยเบาหวานและครอบครัวมีปากมีเสียงไม่ใช่เพียงเพื่อสุขภาพของตนเอง แต่ เพื่อสุขภาพของชุมชนของเขาด้วย"
ถูกใจมากเลยครับอาจารย์ ขอยืมเอาไปใช้ด้วยนะครับ เมื่อเราทำงานถึงจุดหนึ่ง เราก็รู้ว่ายังมีงานที่ต้อง เดินต่อไปอีก ยังมีสิ่งที่ดีกว่ารออยู่ กำลังทำงาน เรียนรู้ และขบคิดเรื่องที่อาจารย์ เสนอแนะอยู่พอดีเลยครับ