เปิดบันทึกเล่มใหม่…


...บอกเล่าเรื่องราว เหตุการณ์ที่ประทับใจ แรงบันดาลใจ และสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่นี้ ให้มีคุณค่าแก่ตัวเองและคนรอบข้าง..

หน้าแรกของบันทึกเล่มใหม่ 

ได้แรงบันดาลใจจาก Forward mail ฉบับหนึ่งที่เพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง ส่งมาให้ 


"วันแรกของวันที่เหลืออยู่"

ปรัชญาเต๋าบอกว่า"คนเราไม่เคยนึกถึงตีนเมื่อรองเท้าไม่กัด"  

คนเรามักมองไม่เห็นของดีที่ตนมีอยู่จนเมื่อสูญเสียมันไปแล้ว

ไม่เห็นคุณค่าของสองแขน จนกระทั่งมันอยู่ในเฝือก

ไม่เห็นคุณค่าของงาน(ที่เราว่าแย่ๆ) จนกระทั่งตกงาน

ไม่เห็นคุณค่าคนรัก (ที่เราว่าไม่เพอร์เฟ็กท์) จนกระทั่งเธอหรือเขาไปแต่งงานกับคนอื่น

ไม่เห็นคุณค่าของพ่อแม่ (ที่เราว่าขี้บ่น) จนกระทั่งไปงานศพของท่าน 

สิ่งที่คนจำนวนมากเลือกทำ คือพร่ำบ่นว่าตนเองไม่มีความสุข ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่รวย ไม่ได้เป็นเจ้าของสิ่งนั้นสิ่งนี้

และเอ่ยประโยคยอดฮิตว่า"มันไม่แฟร์เลย"

บางที ทุกครั้งที่เรารู้สึกว่าโลกไม่มีความยุติธรรม

ก่อนที่เราจะบ่น ลองมองตัวเราเองดูดี ๆ เราจะพบว่า เรามีอะไรดีๆ หลายอย่างที่คนอื่นไม่มี

เราสามารถทำ"หนึ่งวันเดียวกันของเราให้มีความหมายได้

ก็ต่อเมื่อเราเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามี และใช้วันนี้ วันแรกของวันที่เหลืออย่างคุ้มค่าที่สุด

เพราะวันแรกของชีวิตที่เหลือนี้ช่างสั้นเหลือเกิน

และเพราะเราไม่มีทางรู้ว่าเรามี "วันแรกของวันที่เหลือ" ..อยู่อีกสักกี่วัน 


เริ่มมองเห็นว่า….ชีวิตของเรา เป็นชีวิตที่ออกแบบได้ 

เคยเห็นหลายคน ผูกใจเื่ชื่อในโชคชะตา ฟ้่าลิขิต  พร่ำบ่นโทษสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตนเองว่า ชะตาชีวิต คือสิ่งที่ถูกกำหนดมาแล้วตั้งแต่เกิด ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

โดยไม่หาเหตุและปัจจัยว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนแล้วแต่มีเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดแทบทั้งสิ้น

จริงอยู่ที่เราเลือกเิกิดไม่ได้ แต่หลังจากเิกิดมาแล้ว เราน่าจะออกแบบชีวิตเราได้ว่าจะเป็นคนแบบไหน

ถ้าเราไม่ตั้งโจทย์ชีวิตยากเกินไป คำตอบของชีวิตน่าจะหาได้ไม่ยาก 

เริ่มคิดได้ว่า…. ที่เราเป็นทุกข์อยู่ทุกวัน เพราะเรามักตั้งโจทย์ชีวิตยากเกินกว่าจะทำได้หรือเปล่า.. 

...อยากใช้พื้นที่ในบันทึกใหม่นี้  เขียนสิ่งละอันพันน้อย.. ที่บอกเล่าเรื่องราว.. เหตุการณ์ที่ประทับใจ.. แรงบันดาลใจ.. และสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่นี้ ให้มีคุณค่าแก่ตัวเองและคนรอบข้าง

คำสำคัญ (Tags): #diary#แรงบันดาลใจ
หมายเลขบันทึก: 84844เขียนเมื่อ 18 มีนาคม 2007 12:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

นึกว่ามีมุมสบายๆ  ภาษาฝรั่งกับเพลงเพราะๆฟัง  เที่ยวนี้ของจริงเลย  หลากหลายดีมาก  ขอสมัครเป็นแฟนประจำคนแรกเลย

ขอบคุณค่ะ คุณหมอ ที่เป็นแฟนประจำอย่างเหนียวแน่น

ก็คิดว่า จะพยายามหาเวลามาเขียน...เริ่มรู้สึกละอายแก่ใจด้วย ที่ไม่ค่อยได้ ลปรร กับใคร ฉกฉวยความรู้ใน G2K ฝ่ายเดียว แถมไม่ค่อยมีเวลาไป comment ใครอีกต่างหาก ...

รู้สึกผิดน่ะค่ะ.. เลยจะพยายามทำตัวให้ดีขึ้น

สวีดัด(สวัสดี)ค่ะพี่

  •  เปิดบันทึกก็ขึ้นรูปซะสวยเลยค่ะชอบมาก นึกถึงวันสบาย  ๆ ค่ะ ถ้านั่งจิบน้ำชาในสวนที่มีอากาศดี ๆ จะดีสุด ๆค่ะ( ฝันกลางวันแล้วเรา ตื่นๆๆๆๆ)
  • ชอบมากค่ะที่เปรียบเทียบซะเห็นภาพของสัจธรรมความเป็นจริงของมนุษย์เลย
  • บ่อยครั้งที่คนเราชอบบ่นว่าฟ้าไม่ยุติธรรม  แต่เราไม่หันมามองตัวเองเลยว่ายุติธรรมกับฟ้าหรือไม่  เห็นด้วยค่ะว่าชีวิตเรา เราออกแบบได้ อยู่ที่เราจะทำให้มันดีขึ้นหรือแย่ลง
  • ขอบคุณนะค่ะที่นำสิ่งดี ๆ มาบอกกล่าว
อ้อลืมบอกไปค่ะพี่ว่ารูปใหม่จ๊าบสุด ๆๆๆๆค่ะ เท่ห์ มั่กๆๆ

Hi Ranee...

ดีใจจังที่แวะมาเจิมบันทึกใหม่ ใช่เลยๆ.. จิบน้ำชา ฉลองห้องนั่งเล่นใหม่ไงคะ

นั่นแน่ ว่าแล้ว เมื่อวานก่อนโทรคุยกะลูกหว้า ยังบอกเลยว่า ราณีเป็นสาวช่างฝัน ช่างจินตนาการ เชื่อแล้วล่ะค่ะ ...ยังไม่ทันไร แค่เห็นถ้วยน้ำชาก็เพ้อแล้ว

อ้อ  เดี๋ยวเราไปหาที่นั่งคุยกัน จิบน้ำชากันจริงๆ มั่งดีกว่า ลูกหว้าบอกว่าที่ Rattana Park ก็ดีนะ พี่เคยไปที่นั่นบ่อยเหมือนกันเมื่อปีก่อน

ขอบคุณค่ะที่แวะมาทักทาย

อ้อ  รูปถ่ายนี่นะเหรอ ใช้มือถือถ่ายน่ะ ไปยืนหน้ากระจกเงา แล้วถ่ายตัวเอง (น่าสงสารเน๊อะ หาคนถ่ายให้ไม่ได้ ทำไงได้ล่ะ  ก็อยากได้รูปใหม่ติดบล็อกนี่)

  • อิอิอิ...พี่สุ...ขำ ขำ เบื้องหลังการถ่ายรูป
  • ว่างๆหว้าถ่ายให้ก็ได้ค่ะพี่...
  • แวะมารับนัดค่ะ  แต่ต้องจัดคิวก่อน  ตารางงานหว้ารัดตัวจ้า...
  • วันเสาร์-อาิทิตย์ โอเคสุดแล้วค่ะ  เพราะปกติเราสองคนกลับเย็นอยู่แล้ว
  • นั่งเขียนบล็อกที่ทำงานกัน 2 คน....
  • สวัสดีครับพี่ lioness
  • เข้ามาทักทายครับ ตกแต่งบล็อกสวยเลยครับผม เขียนได้น่าอ่านมากครับผม ผ่อนคลายครับ
  • ที่เราเป็นทุกข์อยู่ทุกวัน เพราะเรามักตั้งโจทย์ชีวิตยากเกินกว่าจะทำได้หรือเปล่า.. 
  • คิดว่ามีส่วนมากๆ เลยครับ ชีวิตคนประกอบด้วย ธาตุสี่ และจิต สื่อกันผ่านทางลมหายใจ หากเราไม่คิดกันไกลมาก โดยอยู่บนพื้นฐานสิ่งที่ว่านั่น ก็คงดีครับ
  • โจทย์ซับซ้อนก็เปลืองกระดาษมากครับ ใช้กระดาษมากก็ทำลายป่ามากขึ้น ก็ส่งผลไปยังสิ่งแวดล้อมที่เป็นทุกข์นี่หล่ะครับ
  • มีอะไรแวะเข้ามาทักกันที่ msn ก็ดีนะครับ ขอบคุณมากครับ

โอเคจ๊ะลูกหว้า  รอให้ราณี กลับมาจากกรุงเทพก่อน แล้วค่อยเจอกันนะ

ขอบคุณค่ะ คุณเม้ง ที่ชมว่าบล็อกสวย  แต่เอ ...มันเรียบๆ ไปหน่อยมั๊ยนี่ เทียบกับบล็อกลูกหว้าแล้ว พี่ดูจืดไปเลย ...อิอิ

ชอบสีโทนฟ้า มันดูไม่ล้าสมัย ใช้ได้เรื่อยๆ เย็นตาดี

พี่เกิดวันศุกร์ เลยใช้สีตามวันน่ะ ^___^

ก็จริงๆนี่ คุณเม้ง พอวันเวลามันล่วงเลยไป (แก่ขึ้นว่างั้นเหอะ) ก็เริ่มมองเห็นสัจธรรม ว่าคนเราจะเอาอะไรกันนักหนา  ไม่รู้ว่าเวลาที่เหลืออยู่ มีกี่วัน 

พอมาถึงวันนี้ ไม่อยากได้ ไม่อยากมีอะไรแล้ว ขอแค่มีความสุข ไม่เจ็บป่วยก็พอเน๊อะ

มาเป็นส่วนหนึ่งของบันทึกหน้าแรกครับ...

ขอให้เป็นบันทึกที่มีแต่ความสุขทั้งผู้เขียนและผู้อ่านครับ...

เป็นกำลังใจให้กับวันที่เหลืออยู่ด้วยครับ...

 

P

ขอบคุณ คุณดิเรกมากค่ะ ที่มาช่วยเจิมบันทึกหน้าแรกให้อีกคน แหม ปลิ้มซะ.... ^__^

  • สวัสดีครับ
  • ไม่ใช่เพราะแก่ขึ้นหรอกครับ หรือว่าแก่ก็ได้ครับ แต่สมองแก่ประสบการณ์ไงครับ
  • อิๆ ว่าจะปรึกษาไรหน่อย พี่หายไปแล้ว

มาแล้วๆจ้า น้องเม้ง

เมื่อคืน msn หลุดไปน่ะ แล้วก็เข้าไม่ได้อีกเลย เลยหนีไปนอนซะ ง่วงด้วย..แหะๆ

วันนี้ประชุมยุ่งทั้งวัน เพิ่งกลับถึงบ้าน

จะปรึกษาเรื่องอารายน้อ....รึว่า..ปัญหาหัวจายย....อิอิ

โอเค เดี๋ยวเจอกันจ๊ะ ขอทานข้าวเย็นแป๊บนะ 

  • สวัสดีครับ พี่
  • ท่านให้อร่อยครับผม
  • แล้วเจอกันยามว่างครับ

เจ้าของบล๊อคน่ารักจังหลงเข้ามาเจอเลยเข้ามาอ่านและฟังเพลง

 

ดีใจจังที่คุณรันหลงเข้ามา ทำให้เจ้าของบล็อกได้เพื่อนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนค่ะ

ขอบคุณค่ะที่ชม คนแวะมาเยี่ยมก็น่ารักไม่แพ้กัน  ^__^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท