ภารกิจที่ท้าทายของกระทรวงศึกษาธิการ กรณี "ครูชำนาญการพิเศษ"


คุณครูอาวุโสที่ทำงานมาแล้วยาวนาน เกินครึ่งอายุเกือบเท่าคุณพ่อคุณแม่ผม ทุกท่านมี Tacit knowledge มากมาย รวมถึงศักยภาพที่ดีมากมาย เราทำอย่างไรเราถึงจะจัดการความรู้จากคุณครูออกมาเพื่อการพัฒนาการศึกษาของไทยในปัจจุบันให้มากที่สุด

การทำงานภายใต้แรงกดดัน ไม่ว่าจะเป็นความเครียด เวลา และความคาดหวังยังที่ไม่รู้อนาคต ของครูชำนาญการพิเศษ ทำให้บรรยากาศการอบรม วันที่๘ ของการอบรม ...ตึงเครียดมากขึ้น การอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพครูในครั้งนี้ เป็นการประเมินครูและชี้ขาดด้วยว่า จะสอบได้หรือผ่านการประเมิน ดังนั้นชิ้นงานในระหว่างการอบรมจึงต้องทำให้ดีที่สุดในรายบุคคล

การออกแบบการอบรมที่ผู้อบรมต้องทำงาน(เป็นใบงาน) ที่เค้นความคิด เค้น Competency ในตัวครูออกมาภายใต้บรรยากาศที่กล่าวมาข้างต้น จึงดูวิกฤติมากขึ้น มีคุณครูหลายท่านป่วย หลายท่านเครียดมากโดยการแสดงออกทางกาย ได้ข่าวว่า มีคุณครูท่านหนึ่งถึงกับเสียชีวิตระหว่างการอบรม (ไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม) ผมคิดว่า การอบรมครั้งนี้มีส่วนมากในการเสริมความเครียด

ผมไม่รู้ว่า และคิดไม่ออกว่าจะต้องมีการประเมินแบบไหน และจะต้องทำอย่างไร เพื่อคุณครูจะก้าวสู่ชำนาญการพิเศษได้อย่างภาคภูมิใจ ...

เพราะในส่วนตัวที่มีโอกาสเป็นวิทยากรผมไม่อยากเห็น ไม่อยากพบบรรยากาศแบบนี้ 

อยากจะสะท้อนภาพสู่ผู้บริหารของกระทรวงศึกษาธิการ ว่า น่าจะมีรูปแบบการประเมินบุคคลเพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นอย่างไร ที่ประเมินกันไปด้วยความสุข และเพื่อพัฒนาศักยภาพโดยแท้จริง

บอกตรงๆว่า คุณครูที่มารวมกันอบรมในครั้งนี้ที่ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ เกือบ ๖๐๐ ชีวิต เป็นคุณครูอาวุโสที่ทำงานมาแล้วยาวนาน เกินครึ่งอายุเกือบเท่าคุณพ่อคุณแม่ผม  ทุกท่านมี Tacit knowledge มากมาย รวมถึงศักยภาพที่ดีมากมาย  เราทำอย่างไรเราถึงจะจัดการความรู้จากคุณครูออกมาเพื่อการพัฒนาการศึกษาของไทยในปัจจุบันให้มากที่สุด

น่าจะเป็นภารกิจที่ท้าทายของกระทรวงศึกษาธิการมากกว่า การประเมินผลที่สร้างความเครียด และเหนื่อยมากขนาดนี้...สงสารคุณครูท่านครับ และสุดท้ายคิดว่า ผลการประเมินคงตอบอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่

คลายเครียดระหว่างอบรม

 

หมายเลขบันทึก: 84464เขียนเมื่อ 16 มีนาคม 2007 19:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)
  • ถูกต้องนะครับ
  • องค์ความรู้มากมาย หากใช้วิธีที่ผิดก็ไม่สามารถนำออกมาใช้ได้
  • เก่ง ดี มี สุข สิ่งนี้ซิคือสิ่งสำคัญ
  • ควรมีการประเมินจากสภาพจริง จากการแก้ปัญหาด้านการเรียนการสอนที่ประสบความสำเร็จ เห็นผลจริง
  • ขอเป็นกำลังใจกับทุกท่าน (ท่านพ่อ ท่านแม่ ฯลฯ)

อาจไม่ผิดก็ได้ครับที่ประเมินแบบนี้ แต่ด้วยระยะเวลาจำกัด ความฉุกละหุก ที่ผมคิดว่าทุกจุดอบรม คนสองหมื่นกว่าครั้งนี้ เหมือนกัน ...

สร้างความสับสน เครียดให้แก่คุณครูมากพอสมควร

แต่ได้เห็นถึงความพยายามของคุณครู ที่ตั้งใจมากกับการอบรม ที่ยาวนาน ผมไม่ค่อยเห็นใครไปไหนเลย มาอบรมแต่เช้า ๐๗.๓๐ นี่เต็มห้องประชุมแล้ว เลิกพักเที่ยงก็แปบเดียวรีบมาทำงานทันที บางวันพักเบรคแทบไม่แตะ

มันหมายถึงอนาคตของครูด้วย ครับ

สำหรับครูเสือ ผมขอให้กำลังใจครูเสือนะครับ ผมเขียน Blog เกี่ยวกับธรรมะอยู่ด้วย เยี่ยมผมได้ที่ http://gotoknow.org/blog/delight แต่เป็นธรรมะแบบติดปีกนะครับ สไตล์คนหนุ่มที่ไม่ประสาเท่าไหร่ ก็ถอดบทเรียนตัวเองเขียนแบบตัวเอง

ยินดีที่ได้รู้จักครับ

P
ผมสงสารครูที่มาอบรมครับ เป้าหมายเพื่อให้ท่านผ่านเป็นครูชำนาญการพิเศษ  จริงหรือ ผมดูว่าเป็นการสร้างหรือทำลายก็ไม่ทราบ หรือว่าจะหาความเก่งหรือเพิ่มความบ้า จากครูก็ไม่ทราบ ผมรู้แค่ว่าผู้ที่มาเป็นครูต้องผ่านกระบวนการครูฝึกหัด 1 ภาคเรียน มีวิชาครู เรียนจิตวิทยาการสอนก่อนมาเป็นครู เมื่อท่านเป็นครูมีประสบการณ์ การสอนคนมันหลากหลาย จะมายึดตายเพียงแนวคิดของคนใดคนหนึ่ง ไม่น่าจะถูกต้อง เห็นวิทยากรพากลุ่มครูทำก็น่าจะเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่จะนำมาประเมินเพื่อผ่านเป็นครูชำนาญการพิเศษนั้นไม่น่าจะถูกต้อง หลานผมกำลังเรียนกับครูครับ กลัวเขาจะบ้าตามครูครับ ถ้าเปรียนเป็นกรรมการไปดูงานเหมือน สมส.ดูโรงเรียนน่าจะส่งเสริมครูมากกว่าทำรายครูนะครับ

ผมว่าทุกวันนี้ครูมีภาระหน้าที่มาก มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ครูจะต้องทำ การเรียนการสอน ดูแลนักเรียนนักศึกษาไม่พอ ต้องทำงานธุรการอีกมากมาย แทนที่จะเป็นครูเต็มตัว มีการเตรียมการสอนศึกษาวิชาความรู้ให้ชำนาญการ แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ ครูทำเพื่อที่จะให้ตัวเองได้ผลงานเท่านั้น เด็กหามีคุณภาพไม่ อยากให้มองให้ลึกซึ้งก่อนที่จะเอาอะไรจากครู

กรุณาเห็นใจครูบ้างเถอะ

ไม่มีรูป
คูจ่อย
ไม่มีรูป
ครูทด

ครูทั้งสองท่านมาต่างกรรมต่างวาระ

ต่างก็สะท้อนให้เห็นการพัฒนาครูภายใต้โครงสร้างและวิธีคิดแบบเดิม การประเมินผลที่ค่อนข้างหนัก แต่ผลได้ได้กลับไม่ได้ชี้วัด competency เท่าไหร่เลย

อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่ากระทรวงศึกษา คงจะมีกำลังใจดีๆตอบแทนคุณครูในไม่ช้าครับ

ขอให้กำลังใจพ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ทุกท่านด้วยใจจริงครับ

ครูทำงานมามากกว่า25ปี อะไรๆก็มีหมด ยกเว้นความภาคภูมิใจที่ลูกศิษย์ลูกหามองข้ามหัวไป จะมองกลับมามองเห็นความดีของครูสักนิดบ้างไหม  ให้ไปเถอะ ประเมินไปเถอะ เพราะผลงานของครูทั้งหลายก็อยู่เต็มบ้านเต็มเมือง หากสอนไม่ดีสอนไม่ได้ คงอยู่ได้ไม่นานถึงขนาดนี้หรอก

ในฐานะที่เป็นศิษย์มีครู รักเคารพ เทิดทูนพระคุณครูเสมอมาครับ

ขอให้กำลังใจคุณครูครับ

ไม่มีรูป
ครูแผน

ผมว่ากระทรวงศึกษาธิการควรทำโครงการวิจัยผลสัมฤทธ์ทางการสอนของครูคศ3ที่ได้วิทยฐานะชำนาญการพิเศษไปแล้วก่อนไม่ดีกว่าหรือว่าผลการสอนที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนดีกว่าก่อนหรือแย่กว่าก่อนส่วนครูที่กำลังทำวิทยฐานะก็เอาแต่เวลาทำผลงานจนลืมการสอนสร้างแต่หลักฐานผมอยากให้วัดผลงานงานครูจากการวัดผลที่เด็กไม่ดีกว่าหรือเพราะวิทยฐานะของครูใครเป็นคนประกันว่าครูเก่งแต่ถ้าเด็กเก่งต่างหากละที่บอกได้ว่าครูเก่งจริงไหมครับจะได้หาวิธีการส่งเสริมความก้าวหน้าของครูให้ถูกทางเสียทีครับ

ต้องช่วยกันส่งเสียงดังๆไปที่กระทรวงศึกษาธิการครับผม

  • เห็นใจครูที่ต้องบากบั่นทำงานและนำเสนอผลงาน เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงินทอง เพื่อให้ได้มาซึ่งวิทยฐานะ ให้เหมือนคนอื่นๆเขา
  • สงสารนักเรียนที่ถูกครูสั่งการบ้านแล้วปล่อยให้ไปหาเวลาเรียนพิเศษ  พ่อแม่เสียเงิน เสียเวลารับ-ส่ง แล้วเด็กที่ไม่ได้เรียนพิเศษละ  ทำอย่างไรดี?
  • น่าอนาถแท้วงการศึกษาไทย  เปรียบเสมือนคนเมาสุรา เดินหน้าหนึ่งก้าว ถอยหลัง...ก้าว 

 

 

P

ผมคิดว่า พี่ สะ-มะ-นึ-กะ  เข้าใจคุณครูดี เพราะใกล้ชิดแนบชิดเป็นคู่ชีวิต

พี่คงเห็น "ลีลาชีวิต" ครูอ้อยในช่วงทำประเมินผลงานแล้วนะครับ ว่ามันยาก ลำบากขนาดไหน

เอาใจช่วยคุณครูทั่วประเทศครับ

คุณเอกครับ

  • สำหรับคุณครูท่านอื่นๆ เท่าที่ได้สัมผัสมา รู้สึกว่าจะวิตกกังวลกันเป็นส่วนใหญ่ครับ
  • แต่ที่คนที่บ้านก็มีอาการเหมือนกัน  แต่ความยากลำบากนั้นจะน้อยกว่าท่านอื่น  เพราะว่าเราได้ปฏิบัติจริง  และลงมือทำมานานแล้ว  เพียงแต่รวบรวมส่งตามข้อกำหนดเท่านั้น 
  • มีความกังวลใจบ้างเกรงว่าจะไม่ถูกต้อง  เนื่องจากไม่มีตัวอย่างหรือที่ปรึกษาเลย  ทำตามความเข้าใจของตนเอง 
  • แต่ก็บรรลุจุดหมายสมความตั้งใจครับ

สงสารครู  สงสารเด็ก ที่ต้องถูกทิ้งให้หาความรู้ด้วยตนเองและสงสารตัวเองด้วย  ที่ต้องครำเครียดเอาวิทยฐานะตามกฎเกณฑ์ ทั้งๆที่ครึ่งชีวิตของการเป็นครูทำทุกอย่างมาเพื่อเด็ก แต่ต้องมาละทิ้งเด็กเพื่อตัวเอง(วิทยฐานะ)ในอันที่จะเอาเวลามารวบรวมทุกอย่างให้เข้ากฎเกณฑ์  แรงกดดันมันมีมากนะ และทำงานอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ด้วย  อย่าเอาเหตุแห่งสถานการณ์มาอ้างในการทำการใดๆ แต่ถ้าใครมาอยู่ ณ จุดนี้คงจะเข้าใจความรู้สึกต่างๆได้ดี   เห็นด้วยที่ว่า การศึกษาไทยเดินเหมือนคนเมา

กล่าวในฐานะผู้อ่านผลงานหรือผู้ประเมินฯ นะครับ

          1.  สพฐ.ออกแบบระบบนี้มา ผมว่าอยากให้ผ่าน

ครับ เพราะให้รู้จักคนอ่านคนประเมิน ได้พบหน้ากัน ได้พูดคุยกัน ซึ่งผิดกับทุกครั้งที่ผ่านมา

        2.   ถ้าทำผลงานสะสมมาสม่ำเสมอ ถึงวันนี้เขาก็สบายปรับอีกเล็กน้อย แต่เอ.....เวลา มีไหมที่จะสะสม ระบบเก่าชวนให้สะสมไหม ต้องดูละครับ

          3. มีการให้เข้ารับการอบรม มีพี่เลี้ยง มีการทำ 10 % เอามาถามก่อนว่า ใช้ได้ไหม ?  ถ้าไม่ แนะให้ที

         4. นำกลับไปทำ ร้อยเปอร์เซนต์  มาให้คนเดิมตรวจ

         5.  แต่ที่พบ  บางท่านนะครับ เขาไม่สนใจงานที่ส่ง ขาดการตรวจสอบ ขาดความสอดคล้อง ผิดที่ไม่น่าผิด เทคโนโลยีดีเกินบ้าง ลอกแปะ แล้วปรับแก้ไม่หมดบ้าง สะแปะสะปะ  เฮ้อ......ก็มีที่ดีก็มีนะครับ

                            ขอให้ตั้งใจทำครับ  อยากให้ผ่าน

                                                 ผศ. เกษม อุตรดิตถ์

ผมไม่เห็นด้วยกับการประเมินแบบนี้ เพราะครูไม่ได้นำไปใช้จริง ทำเพื่อประเมิน มีทีม อ.มหาลัย รับทำให้เสร็จ นวัตรกรรมที่คิดขึ้นมาไม่ได้เผยแพร่ให้คนอื่นได้ใช้  เด็กถูกทิ้งเพราะครูมัวแต่ทำผลงาน ไปอบรม  ครูสั่งงานนักเรียนมากเดือดร้อนผู้ปกครอง ทุกวิชาที่ครูจะประเมินนักเรียนต้องทำโครงงานซึ่งค่าใช้จ่ายสูง เป็นการหาเงินให้ทีมจัดอบรมมากกว่า สังเกตจะจัดอบรมที่โรงแรมอย่างดี ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง ครูต้องกู้เงินเป็นหนี้ต่อไปอีก...ฝากรมต.ศธ พิจารณา ความเดือนร้อนของครูด้วยครับ

 

เป็นครูรัฐบาลมา 11 ปีย้าย 4 โรงประสบการณืการสอนในโรงเรียนเอกชนร่วม 10 ปีเห็นอะไรมากมายแต่พูดไม่ได้สงสารตัวเองสงสารเด็ก สงสารชาติ ขอเทอดทูนครูดีที่ทำงานด้วยใจและมีสามัญสำนึกทุกท่านมา ณ ที่นี้ ถ้าปฏิรูปจริงต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนทำผลงานได้เลยแล้วมาดูจริงที่ตัวผู้เรียน คนที่จะทำชำนาญการพิเศษควรมีประสบการณ์การสอนในรายวิชานั้นๆไม่น้อยกว่า 5 ปี
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท