ความรู้ที่ฝังอยู่ในหัวของคนที่เขารู้โดยมีที่มาจากหลากหลายซึ่งอาจจะมาจากประสบการณ์หรือมาจากการได้พูดคุยกับผู้ที่รู้มากกว่าหรือจากการอ่านหนังสือเพิ่มเติมแต่ไม่เขาไม่รู้จะอธิบายออกมาได้อย่างไรให้ผู้อื่นรับทราบก็คือ Tacit knowledge หรือเรียกว่า ความรู้ภายในบุคคล ซึ่งถ้าเราสามารที่จะดึงหรือถอดออกมาได้จาก Tacit ไป explicit คืออ่านได้ ฟังได้ และให้ผู้อื่นเข้าใจได้ง่าย ซึ่งอาจจะใช้เทคนิค ฝึกการพูด เขียน ถ่ายภาพ ทำภาพยนต์ให้กับผู้รู้ทั้งหลายแล้วให้เลือกวิธีการที่ถนัดถ่ายทอดออกมาซึ่งในองค์กรของผมที่ทำงานอยู่ก็จะมีหลากหลายวิธีแต่มีอยู่วิธีหนึ่งของฝ่ายวิศวกรรมที่สามารถทำให้ผู้รู้สามารรถถ่ายทอดออกมาได้โดยที่ไม่ต้องเขียนคือผมมีการรับช่างเข้ามาทำงานใหม่กับหัวหน้างานที่มีความชำนาญมากในเครื่องจักรประเภทหนึ่งแต่เขาไม่ถนัดที่จะเขียนออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรได้ผมจึงให้จัดให้ยกเครื่องหนึ่งเครื่องออกจากไลน์ผลิตแล้วให้ผู้รู้ผู้นี้สอนการปฏิบัติจริงโดยถอดแยกถอดชิ้นส่วนออกทีละชิ้นและประกอบเข้ากลับเหมือนให้สามารถใช้งานได้ซึ่งเป็นการสอนจากประสบการณ์ล้วนๆและได้ความกระจ่างชัดกับผู้ที่เรียนเพราะมีโอกาสได้สอบถามและอธิบายอีกสาเหตุหนึ่งที่ผู้รู้ไม่สามารถพูดหรือเขียนได้คือการใช้ภาษาราชการซึ่งจะสร้างความยากในการสื่อของตัวผู้รู้กับผู้ฟังทำให้ไม่กล้าที่จะแสดงออกในการเขียนออกมาและเวลาที่สอนงานจะถนัดสอนภาษาท้องถิ่น ดังนั้นการที่จะให้ได้มาซึ่งความรู้จากผู้รู้บางครั้งจำเป็นต้องลงทุนแต่ไม่ได้ทุกกรณี ซึ่งคนเก่งหรือผู้รู้ในองค์กรบางทีเป็นคนเก่าคนแก่ คนหนุ่มที่พูดไม่รู้เรื่องกลัวดอกพิกุลจะร่วง หรือชั่วร้ายไม่ยอมบอก หวงวิชาก็มี ดังนั้นคนถาม คนดึงความรู้ต้องมีไหวพริบปฏิภาน จิตวิทยา ลูกเล่น หรือลูกออ้นบ้าง