(19)
ข้อสังเกตการฝึกทักษะการรู้เท่าทันการสื่อสาร : (เฉพาะบุคคล)
เฉพาะกรณีของดิฉัน ตั้งแต่เริ่มต้น (คิดเอาเองว่าเรากำลัง) สอนทักษะการรู้เท่าทันการสื่อสารนั้น ดิฉันมีแนวการฝึกการรู้เท่าทันการสื่อสาร และการฝึกนิสัยเด็กๆอย่างง่ายเท่าที่สังเกตตัวเองได้ดังต่อไปนี้ค่ะ
1. สำหรับ เนื้อหาวิชา ในรายวิชาต่างๆ ดิฉันสอนตามลำดับคาบเรียนตามแผนการสอนและแนวการสอนปกติ
2. สำหรับ การฝึกทักษะการรู้เท่าทันการสื่อสาร นั้น ดิฉันไม่สามารถกำหนดวิธีการสำเร็จรูปได้ ไม่สามารถกำหนดคาบเรียนที่แน่นอนได้ และไม่เคยกำหนดได้เลยจนทุกวันนี้ ............แต่จะสอดแทรกตามความเหมาะสม โดยดูสถานการณ์ในห้องเรียนเป็นหลัก
ก่อน(ลงมือ)ฝึก ดิฉันต้อง....
และกระบวนการทั้งหมดนี้...บางทีใช้เวลาไม่ถึง 5 วิ และในบางครั้ง ก็เกิดขึ้นในแว่บเดียวที่เห็น เพราะเรารู้จักเด็กที่สอนอยู่แล้วเป็นอย่างดี เหมือน.....คือคล้ายกับแม่ที่รู้ว่าลูกของเราเป็นอย่างไร
ดิฉันอยากเปรียบเทียบอย่างง่ายเช่นนี้นะคะ........
ขณะ(ลงมือ)ฝึก ดิฉันต้อง.....
เนื่องจากผู้เรียนแต่ละกลุ่ม แต่ละห้อง แต่ละเอก มีธรรมชาติไม่เหมือนกัน....บางทีเราไม่มีโอกาสรู้ล่วงหน้าเลยว่า ณ วันนั้น อารมณ์ผู้เรียนเป็นอย่างไร ต้องดูหน้าดูตาเธอก่อน หลายๆครั้งดิฉันใช้สัญชาตญาณล้วนๆ และบางทีก็อาศัยโชคเหมือนกัน.....
ดิฉันต้องประเมินสถานการณ์ในห้องเรียนอย่างรวดเร็วและระมัดระวังอย่างยิ่งก่อนลงมือ และดิฉันต้องเตรียมพร้อมมาก่อนทุกครั้งเสมอ
อาจเหมือนแสดงละครเวที ซึ่งเป็นเวทีแสดงสดกระมังคะ นักแสดงต้องซ้อมจนเข้ามือแล้วและต้องพร้อมตลอดเวลา ไม่ว่าจะเจอผู้ชมแบบใดก็ต้องพยายามรับมือให้ได้ ต้องด้นไปได้ ( improvise)
สำหรับนักแสดงที่ไม่เก่งอย่างดิฉัน ต้องฝึกสื่อสารทุกรูปแบบอยู่เป็นเดือน ถึงอย่างนั้นแล้วก็ยังล้มลุกคลุกคลานมานับครั้งไม่ถ้วน และยังคงกลิ้งขลุกๆๆมาจนบัดนี้ แต่ดิฉันก็ยังพยายามต่อไป เพราะรู้สึกว่าการสอนแบบนี้คือตัวตนของเรา
การสอนแบบให้เด็กๆฝึกทำอะไรสักอย่างแล้ว สรุปเป็นข้อคิด เป็นแนวทางที่ดิฉันถนัด และจะนำเสนออย่างสบายใจ ไม่อึดอัด
ดิฉันเคยสอนตามเนื้อหาวิชาการเป๊ะๆโดยไม่พูดอะไรอื่นครบหนึ่งสัปดาห์ (คือดิฉันท่องมาก่อนสอนอย่างตั้งใจอีกเหมือนกัน ) วันหนึ่งพวกเด็กๆรวมกลุ่มกันเข้ามาขอพบ แล้วถามว่า อาจารย์มีอะไรไม่สบายใจรึปล่าวคะ ทำไมอาจารย์ไม่สอนอย่างที่อาจารย์เคยสอนล่ะคะ หนูรู้สึกว่าอาจารย์สอนเหมือนไม่มีความสุขนะคะ
แมวเอ๊ยดิฉันเลยพูดไม่ออก อาทิตย์ถัดมาดิฉันกลับตัวกลับใจกลับมาป่วนวงการเหมือนเดิม โดยอ้างว่ากลัวพวกเธอต้มยาสูตรพิเศษมารักษา ตอนนี้หายป่วยแล้ว ยาต้มไม่ต้องเอามา... ขอบใจ... แล้วเธอก็ฮากันครืน!
หลังการฝึก ดิฉันต้อง.........
การออกแบบกิจกรรม การฝึกทักษะการรู้เท่าทันการสื่อสาร นั้น งานหนักของผู้สอน คือ ต้องฝึกให้เขาเห็นความเชื่อมโยงกับสถานการณ์ชีวิตจริงๆ และต้องพูดหรืออธิบายให้เขาเห็นจริง
เพราะจุดมุ่งหมายหลักคือฝึกให้เขาเข้าใจตนเองโดยพื้นฐาน เข้าใจความเป็นปุถุชนเป็นเบื้องต้น และเข้าใจชีวิตเป็นเบื้องปลาย ด้วยกิจกรรมอย่างง่าย ใช้อุปกรณ์ใกล้ตัวในชั้นเรียน เพื่อให้เขาเห็นว่าทุกคน ทุกเหตุการณ์ และ ทุกอย่างรอบตัวมีคุณค่า หากรู้จักนำมาเชื่อมโยงกันและทำให้เราเห็นคำตอบของชีวิตได้ได้ ถ้าเพียงแต่เรารู้จักคิด...
และแม้ว่าผู้สอนจะมิใช่ผู้รอบรู้หรือเป็นผู้เก่งกาจสามารถในการดำเนินชีวิต แต่มิได้หมายความว่าควรจะละเลยไม่สอนเรื่องนี้ไปเสีย
ขอเรียนเสนอว่าผู้สอนน่าจะจะพยายามปรับวิธีสอน...ให้เหมาะแก่ประสบการณ์เท่าที่ตนมี (เพื่อนดิฉันอ่านมาถึงตรงนี้ก็ล้อว่า...รู้ตัวซะด้วย... แต่ดิฉันก็มิได้ต่อล้อต่อเถียงกับเธอ กะว่าเดี๋ยวพิมพ์เสร็จครบหมดแล้วก็จะไปรับประทานส้มตำเพียงคนเดียวโดยไม่ง้อพวกเธออีกต่อไป)
ดิฉันตั้งเป้าหมายการฝึกว่า จะฝึกนิสัยเด็กๆให้เรียนรู้ที่จะเข้าใจคน ด้วยความเชื่อว่า เมื่อเขาหัดเข้าใจคน ก็อาจส่งผลให้ค่อยๆเข้าใจชีวิตด้วย
เมื่อเด็กต้องมีปฏิสัมพันธ์กับใคร ก็อยากให้เขาพยายามเรียนรู้ที่จะเข้าใจ ไม่ด่วนตัดสินคน ไม่โกรธง่าย ไม่เกลียดง่าย และมีใจมั่นคงดี
ส่วนวิธีการฝึกที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็เป็นวิธีพื้นๆที่เป็นกิจกรรมธรรมดาในห้องเรียนหรือในชีวิตประจำวัน เป็นการฝึกวิธีคิดพื้นฐาน มิใช่ทักษะวิชาการขั้นสูงแต่อย่างใด
ขอเรียนคุณครูอาจารย์ว่าเหล่านี้เป็นวิธีสอนที่ท่านทราบดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะท่านที่เรียนสายครู ก็จะเข้าใจตลอดทั้งกระบวนการ แต่ดิฉันไม่เคยเรียนครูและเพิ่งรู้จักวิธีการเหล่านี้ และเพิ่งฝึกใช้ และจากนั้นก็ได้เห็นข้อจำกัดของตนเองเมื่อพยายามสอนวิธีคิด ได้พบปัญหาจริงๆในการสอน
แต่นับเป็นโชคดีที่มีลูกศิษย์ที่เข้าใจธรรมชาติการสอนของดิฉัน และได้ให้โอกาสดิฉันสอนรวมถึงให้ข้อสังเกตติชมและช่วยกันปรับแก้ จนพอจะมองเห็นเป็นรูปเป็นร่างว่ามีลำดับขั้นตอนอย่างไร
ดิฉันจึงขอโอกาสนำเสนอในที่นี้ ให้ท่านผู้รู้ช่วยกรุณาวิจารณ์และแนะนำ ทั้งนี้เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์แก่นักศึกษาและผู้สนใจที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ
อนึ่ง ...ทั้งหมดที่นำเสนอนี้ เป็นการพยายามคิดเองเขียนเองตามที่ได้ปฏิบัติจริง โดยไม่ได้เปิดหนังสือวิชาการเพื่ออ้างอิงในเบื้องต้น จึงยังมีอะไรที่ตกหล่นบกพร่องอยู่มากและยังไม่ใช่แนวการสอนที่ถูกต้องเต็มรูป นะคะ หากนักศึกษาเข้ามาอ่าน ขอให้อ่านเป็นกรณีศึกษา และหากสนใจวิธีสอนการเช่นนี้ ....ได้โปรดเรียนถามท่านผู้รู้ในสายครูก่อน เพื่อปรับแก้ให้ถูกต้องเหมาะสมก่อนนำไปใช้นะคะ
..........................................................
ปรับเพิ่มเติมจาก เว็บไซต์ วิชาการด็อตคอม กระทู้ การรู้เท่าทันการสื่อสาร (Communication Literacy) ความเห็นเพิ่มเติมที่ 25 ( 22 ต.ค. 2549) และ ความเห็นเพิ่มเติมที่ 26 ( 22 ต.ค. 2549)
ไม่มีความเห็น