บัว 4 เหล่า
บางพวกสอนได้ บางพวกสอนไม่ได้
บัวจำพวกแรกคือ ‘อุคฆฏิตัญญู’ พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้และเข้าใจได้รวดเร็ว เปรียบเสมือนบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานได้ในทันที
บัวจำพวกที่สอง ‘วิปจิตัญญู’ คือพวกที่มีสติปัญญาปานกลาง ฟังธรรมแล้วพิจารณา ตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบาน ในวันถัดไป
บัวจำพวกที่สาม ‘เนยยะ’ คือพวกที่มีสติปัญญาน้อย เมื่อได้ฟังธรรม แล้วพิจารณาตาม และได้รับการอบรมอยู่สม่ำเสมอ ต้องอาศัยความขยันหมั่นเพียร ก็จะสามารถเข้าใจได้ เปรียบเสมือนบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆโผล่ขึ้นมาเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง
บัวจำพวกที่สี่ ‘ปทปรมะ’ พวกที่ไร้สติปัญญา แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม จะต้อง ตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้น มาเบ่งบานเหนือน้ำ
การให้อภัย
การให้อภัยเป็นหนึ่งในการให้ ที่มีค่ายิ่ง คนเราเกิดมาบางคนรวยมากก็มีกำลังทรัพย์พอที่จะจุนเจือช่วยเหลือคนอื่น นั่นคือ การให้ทานด้วยสิ่งของ บางคนเกิดมาใฝ่ธรรม ชอบให้ข้อคิด นั่นก็เป็นทานอีกข้อหนึ่งที่ดีเลิศ ส่วนใครที่เกิดมาไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองออกมา ไม่ได้ร่ำรวย ก็อย่าไปน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะเราก็ให้ได้เหมือนกัน นั่นคือให้อภัย ซึ่งนับว่าเป็นทานข้อที่ไม่ต้องพึ่งพาเงินทอง ไม่ต้องพึ่งพาใครเลย แค่ใจเราไม่อาฆาตพยาบาท ไม่หมกมุ่นแก้แค้น ให้โอกาสใครสักคน ก็คือทานที่มีอานิสงส์มหาศาลแล้ว
(จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 75 ก.พ. 50 โดย ศุพัศจี)