มาสร้างวิทยากรภายในกันเถอะ
การเป็นวิทยากร หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Train the Trainer ด้วยเหตุผลที่มักจะคล้ายๆกัน คือ ที่บริษัทมีพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญในงานจำนวนมาก ที่สำคัญพนักงานเหล่านี้มีประสบการณ์ในการทำงานกับบริษัทมาหลายปี จึงอยากให้มีการถ่ายทอดความรู้และทักษะให้กับพนักงานรุ่นใหม่ๆบ้างบางบริษัทก็โทรเข้ามาปรึกษาว่า เคยจัดหลักสูตรการเป็นวิทยากรให้กับพนักงานไปแล้ว แต่ทำไมเราถึงยังไม่มีวิทยากรภายในเสียดี จะทำอย่างไรดีทั้งหมดจึงเป็นที่มาของบทความนี้ อยากให้ผู้อ่านได้ทราบถึงความสำคัญของการสร้างวิทยากรภายในและวิธีการสร้างว่าจะต้องมีกระบวนการอย่างไรเรามาดูกันก่อนว่าการมีวิทยากรภายในมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
ประโยชน์ของการมีวิทยากรภายใน
หลายๆท่านคงเคยได้ยินเกี่ยวกับ การจัดการความรู้ หรือ Knowledge Management การสร้างวิทยากรภายในก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการความรู้เช่นกัน ตามแนวคิดของ Michael Polanyi และ Ikujiro Nonaka
ได้จำแนกความรู้ออกเป็น 2 ประเภท คือ Explicit Knowledge และ Tacit Knowledge
Explicit Knowledge คือ ความรู้ที่ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบต่างๆ เช่น เอกสาร หนังสือ ฯลฯ ถ้าเป็น Explicit Knowledge ในองค์กรก็เช่น ISO9000 Procedure, Work Instruction, คู่มือการปฏิบัติงานต่างๆ เป็นต้น ส่วน Tacit Knowledge คือความรู้ที่อยู่ในตัวพนักงานแต่ละคน เกิดจากการเรียนรู้และการสั่งสมประสบการณ์ เช่น การเจียรไนเพชร เป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนกว่า 20 – 30 ปีกว่าจะเป็นช่างฝีมือที่เก่งและมีความสามารถสูง ถ้าเราพิจารณาสัดส่วนของความรู้ทั้ง 2 ประเภท จะพบว่าความรู้ที่ใช้อยู่ในองค์กรส่วนใหญ่เป็นความรู้ประเภท Tacit มากกว่าความรู้ประเภท Explicit ในอัตราส่วนถึง 80: 20
อย่างไรก็ตาม ความรู้ก็มีลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งคือ สามารถเคลื่อนย้ายได้ และ หายไปได้ ในกรณีที่พนักงานลาออก หรือ ถูกซื้อตัวไป ความรู้ก็จะหายไป (แถมไปอยู่กับบริษัทคู่แข่งได้เสียด้วย)
วันนี้ไปสอบเข้าทำงาน มีข้อสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย โดยให้อธิบายความหมายของExplicit Knowledge และ Tacit Knowledge พร้อมทั้งให้เปรียบเทียบ แต่เสียดายที่ไม่ได้เรียนมาทางนี้ก็เลยตอบไม่ได้ จึงรีบกลับมาค้นคว้า ขอบคุณที่ให้ความรู้ค่ะ