มนุษย์เรา ๆ ทั้งหลาย ในหนึ่งวัน ตื่นเช้ามาต้องกิน กินอะไรก็ได้ให้อิ่มท้อง มีประโยชน์มากน้อยแล้วแต่ชอบ
บางวันขณะกำลังกินมื้อเช้า ยังคิดต่อว่าจะมื้อเที่ยงจะกินอะไร ประมาณว่าท้องอิ่ม สมองก็เลยฟุ้ง คิดออกแบบเมนูอาหารได้หลากหลายชนิด อยากทานอะไรก็ลงมือทำได้เลยแทบไม่ง้อใคร
พฤติกรรมนี้คงทำให้บรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลายอิจฉามนุษย์เราไปตาม ๆ กัน
โดยเฉพาะโค ที่เรา ๆ ท่านกำลังเลี้ยงกันอยู่
ถ้าโคทั้งหลายพูดคงด่าเราขรมแล้ว หรือไม่คงเรียกร้องหาอาหารอร่อยกินไม่เว้นวัน
แต่ความจริงก็คือความจริง โคกินหญ้าเป็นอาหารหลัก แถมเรียกร้องไม่ได้ว่าชอบหรือไม่ชอบ อย่างมากก็แค่ทำท่าเมย ถ้าหากินเองก็หาได้แต่สภาพแวดล้อมต้องเอื้ออำนวย พืชพรรณธัญญาหารสมบูรณ์
แต่เราเอาแน่กับธรรมชาติไม่ได้ อาหารสำหรับให้โคกินจึงไม่แน่นอน มากบ้าง น้อยบ้าง อิ่มบ้าง อดบ้าง ตามความใส่ใจของคนเลี้ยง
ดังนั้น เรื่องอาหารสำหรับเลี้ยงโคนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้คนเลี้ยงโคน้ำตาตกมาแล้วหลายราย
เพราะแหล่งอาหารของโคที่มีต้องหวังพึ่งธรรมชาติหลัก ก่อนจะเลี้ยงโคต้องคิดก่อนว่าจะเอาอาหารเลี้ยงโคมาจากไหน ผลิตเองหรือซื้อเพราะสิ่งเหล่านี้หมายถึงต้นทุนการผลิตถ้าคิดจะเลี้ยงโคหรือกำลังเลี้ยงอยู่ต้องคำนึงถึงต้นทุน สภาพแวดล้อม และแหล่งอาหารของโคด้วย
กล่าวคือ ถ้ามีต้นทุน เราสามารถสร้างแหล่งอาหารภายใต้สภาพแวดล้อมที่เรามีได้ด้วยการทำแปลงปลูกหญ้า ปลูกพืชอาหารสัตว์ โดยพิจารณาว่าหญ้าหรือพืชอาหารสัตว์ชนิดใดที่เหมาะสมกับพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่เรามีอยู่
เราจะต้องวางแผนทั้งในเรื่องพันธุ์โคที่เหมาะสมและ อาหารที่จะเลี้ยงโคด้วยถ้าเตรียมการไม่ดีอาจจะมีปัญหาได้
ขั้นแรก ต้องดูว่าพื้นที่ที่เรามีเหมาะที่ปลูกพืชอาหารสัตว์ชนิดอะไร หรืออะไรในพื้นที่ที่จะนำมาเป็นอาหารได้
ขั้นสอง ต้องคิดว่าเราจะปลูกเอง หาเอง หรือให้คนอื่นหาให้ด้วยการซื้อ ถ้าจะซื้อคิดว่าคุ้มทุนหรือไม่
ขั้นสาม ถ้าปลูกเองได้หาได้คล่อง จะพัฒนาเป็นอาชีพอะไรต่อเกี่ยวกับเรื่องอาหาร
ถ้าคิดสามขั้นเบื้องต้น แล้วปฏิบัติได้รับรองโคไทยไม่อด คนเลี้ยงจะไม่เจอทางตันและน้ำตาตก
ครอบครัวเลี้ยงกระบือ หรือ ควาย ค่ะ
ไม่รู้ว่าพ่อมีปัญหาอะไรรึเปล่า
แต่พ่อไม่เคยบ่นเลยค่ะ
เห็นพ่อเกี่ยวออกไปเกี่ยวหญ้าที่ทุ่งมาให้มัน
แล้วก็ปล่อยมันไปตามทุ่งบ้างตอนไม่ได้ทำนา
เอ....ไม่รู้ว่าเลี้ยงยากเหมือนวัวรึเปล่า
ไม่รู้จริงๆนะคะ น่าอายจัง