เกริ่นนำ
เมื่อวานนี้ หลังจากบันทึกเรื่องราวประจำวันบางเรื่องลงไปในเวป Gotoknow จึงออกจากห้องทำงาน ไม่ลืมที่จะล็อกกุญแจ ด้วยเหตุที่ เดี๋ยวนี้โจรเยอะเหลือเกิน และโจรเดี๋ยวนี้ไม่ใช่โจรไกลตัว บางครั้งเราแหละเป็นโจรเสียเอง เช่นกระดาษอันเป็นของกลางส่วนรวม แม้เพียงแผ่นเดียวก็ตาม ก็นำไปใช้เป็นการส่วนตัว นี้คือโจรเล็กๆ ส่วนโจรใหญ่ๆ ก็ทำเรื่องใหญ่ๆ ไป เมื่อถึงห้องพัก รีบเปลี่ยนชุดทำงานเป็นชุดอิสระ ออกจากห้องปั่นจักรยานออกกำลังกายภายในมหาวิทยาลัย จวบจน ๑ ทุ่ม จึงเดินไปเยี่ยมเพื่อนอันเป็นที่รัก หลังจากไม่เคยไปเยี่ยมที่ห้องท่านมาหลายเดือน (น่าจะตั้งแต่ปีที่แล้ว) เคาะประตู ป๊อกๆ เพื่อนเปิดประตูออกมา ในมือถือมีดตัดเล็บ "โอ้ว... จะเสียบพุงผมเชียวหรือ แหมแค่มาเยี่ยมเยียนเท่านั้นเอง" ไม่มีเสียงพูดใด แม้แต่คำเชื้อเชิญก็ไม่ได้ยิน แต่ผมก็เข้าไปแหละ เพราะถือว่ามาแล้ว การเปิดประตูก็เหมือนกับการเชื้อเชิญ (คิดเอา) เข้าไปนั่งกลางห้อง สะอาดสะอ้านทีเดียว เหมาะสมกับผู้เป็นที่รัก ข้าพเจ้ามองไปรอบๆ ไปสะดุดกับเนื้อหาประโยคหนึ่ง บนกระดาน ที่แปะไว้บนบานประตูด้านใน "รังแกได้เฉพาะคนอ่อนแอเท่านั้นแหละ" ทำให้อดคิดเสียไม่ได้ กับปรากฎการณ์ที่เป็นไปอยู่บนโลกใบน้อย อย่างเช่น
๑. ชาวบ้าน มีที่ดินอยู่จำนวนหนึ่ง ก็ถูกกว้านซื้อจากนายทุนที่มีเงินหนา นำไปขายทอดตลาด หรือนำไปทำธุรกรรมในอัตรารายได้ที่มากกว่าการซื้อมา
๒. เด็กน้อยจำนวนหนึ่ง ถูกกดขี่จากผู้มีอำนาจกว่าอย่างเช่น ครูบาอาจารย์ โดยไร้เหตุผลที่ชอบธรรม (มนุษย์ทำทุกอย่าง อย่างมีเหตุผล แต่จะชอบธรรมหรือไม่นั้น ต้องมาพิจารณากันอีกทีหนึ่ง) บังคับให้เขาทำโน้นบ้าง นี้บ้าง
๓. ลูกจ้าง ถูกกดขี่ข่มเหง ด้วยกฎหมายบ้าง กติกาบ้าง จากนายจ้าง หรือจากผู้มีอำนาจในการออกกฎกติกา
๔. ลูกน้อง ถูกลูกพี่รังแก ให้ทำตามความพึงพอใจของลูกพี่ ทั้งที่สิ่งที่ถูกบังคับให้กระทำนั้น มิใช่สิ่งที่น่าพึงพอใจของผู้กระทำ
๕. รุ่นน้อง ถูกรุ่นพี่กระทำการอันไม่คู่ควรต่อสถานะความเป็นมนุษย์
และอีกมากมาย ที่มีอยู่บนโลกนี้ มันเป็นเรื่องจริง ว่าสัตว์ทุกตัว คนทุกคน รังแกได้เฉพาะคนที่อ่อนแอกว่าเท่านั้น หากเขามีอำนาจกว่า ความชาญฉลาด (ที่ไม่ซื่อตรงกับความรู้สึกตนเอง) ของมนุษย์คือ ยินยอมทำตาม ดีกว่าต้องเดือดร้อนเพราะการขัดขวาง แต่ก็มีมนุษย์จำนวนหนึ่ง ขัดขวางกระทำนั้น ทั้งที่รู้ว่า การต่อสู้ย่อมทำความเดือดร้อนให้ตนภายหลัง แต่ถ้าไม่มีการต่อสู้กับความไม่ชอบธรรม ไฉนเลยคนอื่นจะอยู่ได้อย่างมีความสุข
หวนย้อนไปถึงชาวบ้าน ก็เป็นกลุ่มบุคคลหนึ่งที่ถูกรังแก ข้าพเจ้าไม่แน่ใจนักกับนักวิชาการจำนวนหนึ่ง และนักศึกษาที่ลงไปในพื้นที่ "เราไปรบกวนชาวบ้านหรือเปล่า" การที่ชาวบ้านเขามองไม่เห็นว่าเขามีจุดด้อยอะไร เขามีชีวิตอยู่อย่างนั้นเป็นธรรมชาติของเขา เราซึ่งคิดว่าเราเป็นผู้รู้กว่า ก็อยากจะให้เขารู้อย่างที่เรารู้ และให้เขาเป็นอย่างที่เราอยากให้เขาเป็น เราเป็นผู้รู้จริงหรือ หรือว่าเราไม่รู้อะไรเลย เราเป็นรังแกสภาพชีวิตของเขาหรือเปล่า แต่นั่นแหละ ก่อนทำการวิจัย เราได้ถามเขาแล้วว่า "จะร่วมมือกับเราไหม" ดังนั้น ขอให้ข้าพเจ้าถอนความรู้สึกบกพร่องในใจเถิด "เราไม่ได้รังแกเขา" แม้การรับปากว่าจะร่วมมือด้วยจะเป็นการรับปากด้วยความเกรงใจก็ตาม
จากหัวข้อไม่ยาวนักของเพื่อน ทำให้ข้าพเจ้าคิดอะไรหลายๆ เรื่องยืดยาว นั่งอยู่ห้องเพื่อนไม่นาน จึงกลับไปห้องพัก อ่านหนังสือ ดูทีวี ดื่มนม อาบน้ำ แต่งชุดหล่อๆ เพื่อจะไปหานางฟ้ายามค่ำคืน สวดมนต์ไหว้พระ (ระหว่างสวดมนต์ไหว้พระ ได้ยินเสียงโทรศัพท์ แต่ไม่ได้รับ ไหว้พระเสร็จจึงเปิดโทรศัพท์ดู อ๋อ เบียร์จัง น่ะเอง นั่นนะสิถึงได้ยินเสียงรถข้างห้อง คงเพิ่งกลับจากพื้นที่ "กลับดึกจังนะเธอน่ะ" และไปหานางฟ้าอันเป็นสุดที่รักยามหน้าหนาว
เอาละ ถึงเวลาที่ข้าพเจ้าต้องไปบรรยายในชั้นเรียนอีกแล้ว ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้า
ขอบคุณครับ จะพยายามครับผม