สมัครศึกษาต่อในต่างประเทศได้อย่างไร


หลายคนที่ใฝ่ฝันอยากไปเรียนต่อในสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ
สมัครศึกษาต่อในต่างประเทศได้อย่างไร
มีคนมากมายหลายคนที่ใฝ่ฝันอยากไปเรียนต่อในสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ แต่การได้รับการตอบรับนั้นไม่ง่ายนักโดยเฉพาะถ้า
ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ของคุณ 
application procedure
คือขั้นตอนการสมัครเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาหนึ่งๆ เริ่มด้วยการเขียนขอข้อมูลและแบบฟอร์มการสมัครไปจนถึงการได้รับจดหมาย
ตอบรับหรือปฏิเสธจากสถาบันนั้น รายละเอียดของขั้นตอนแตกต่างกันไปในแต่ละวิทยาลัย คณะ และประเภทของสถาบัน 
(เช่น law school, business school, medical school, graduate หรือ undergraduate school)
deadline
หมายถึงวันหมดเขตการรับใบสมัคร ในการส่งใบสมัครทัน deadline ที่กำหนดไว้นั้นสำคัญมาก ดังนั้นเช็คดูวันหมดเขตรับสมัครให้แน่ใจ
และส่งใบสมัครของคุณเสียแต่เนิ่นๆ ดีกว่า
Application Essay
หมายถึงผู้สมัครเขียนบรรยายเกี่ยวกับตัวเองในเรื่องแรงจูงใจ เป้าหมาย ความสำเร็จที่ผ่านมา ลักษณะนิสัย เป็นต้น บางทีก็รู้กัน
ในนามของ Personal Statementหรือ Autobiographical StatementหรือLetter of Intent แต่ไม่ว่าจะอยู่ในชื่ออะไร ถ้าคุณจำเป็น
ต้องเขียนควรจะตั้งใจเขียนให้ดีๆ เพราะมันสำคัญมาก !
Academic transcript
หมายถึงacademic record นั่นก็คือ ใบแสดงผลการศึกษาของคุณที่สถาบันการศึกษาเก่าออกให้ ในการสมัครศึกษาต่อที่ใดๆ ก็ตาม
คุณต้องมีเอกสารนี้ประกอบการสมัครของคุณ นักศึกษาจากต่างชาติต้องมีใบแปลของเอกสารนี้ที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ
Application Fee
เป็นค่าสมัครหรือ Application feesซึ่งอาจเริ่มต้นตั้งแต่ $30 ไปจนถึง $75 หรือมากกว่านั้นก็มี ปกติจะไม่มีการคืนให้ไม่ว่าคุณจะ
ได้รับการตอบรับหรือปฏิเสธก็ตาม
Test scoresคือผลการสอบวัดมาตรฐาน เช่น GRE (Graduate Record Examination) หรือ SAT (Scholastic Assessment Test) 
ปกตินักเรียนต่างชาติต้องแสดงผลการสอบ TOEFL(Test of English as a Foreign Language) ด้วย
Recommendation letter
นี่เป็นจดหมายแนะนำคุณให้กับสถาบันที่คุณสมัครที่เขียนขึ้นโดยคนที่รู้จักคุณ เช่น อาจารย์ที่เคยสอนคุณมาก่อน จดหมายนี้อาจ
มีผลอย่างมากในการที่คุณจะได้รับการตอบรับหรือตอบปฏิเสธจากสถาบันนั้น
Interviews
นี่เป็นโอกาสที่ผู้สมัครจะเข้าพบตัวแทนจากสถาบันที่สมัครไว้เพื่อแนะนำตัวเป็นการส่วนตัว คุณสามารถเพิ่มโอกาสที่จะสร้างความ
ประทับใจแก่ตัวแทนเหล่านั้นได้โดยการฝึกซ้อมสัมภาษณ์กับเพื่อนๆ ก่อนวันจริง
Paperwork
นักเรียนต่างชาติต้องส่งpaperwork (เอกสารประกอบการสมัคร) อื่นๆ ด้วยเมื่อสมัครเข้าเรียนในสหรัฐฯ เช่น หลักฐานการฉีดวัคซีน
ใบรับรองสุขภาพ หลักฐานทางการเงิน สำเนาพาสปอร์ต วีซ่านักเรียน เป็นต้น การสมัครอาจใช้เวลามากและจู้จี้จุกจิก แต่ก็คุ้มค่า
เพราะการเรียนจบจากต่างประเทศจะมีประโยชน์กับคุณมากในด้านการงานในอนาคต ! 
 
อมาวสี ดวงนิมิตร
 
หมายเลขบันทึก: 79653เขียนเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2007 13:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม 2012 21:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท