ช่วงต้นปีเช่นนี้ งานหนึ่งที่พูนพลังต้องปฎิบัติทุกปี คือการยื่นงบมูลนิธิให้ผู้สอบบัญชีช่วยตรวจความถูกต้องให้
-----
ก่อนตั้งมูลนิธิพูนพลัง เลขาฯทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ให้องค์กร C.A.N. H.E.L.P. Thailand ประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นองค์กรอาสาสมัคร (ไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำ) ทุกคนมาร่วมกันทำงานเพื่อช่วยสนับสนุนการศึกษาให้เด็กไทยกันด้วยใจจริงๆ ไม่มีใครรับเงินเดือนสักคน
C.A.N. H.E.L.P. Thailand เติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีเงินบริจาคไหลเข้าออกมากพอสมควร ในที่ประชุมกรรมการมีการปรึกษากันหลายครั้ง ว่าถ้าจดทะเบียนเป็นหน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไรได้ น่าจะทำให้ผู้สนับสนุนเกิดความเชื่อมั่น ยินดีบริจาคให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
แต่เรื่องนี้มาติดตรงวิธีการทำบัญชี เพราะที่ญี่ปุ่นเขามีมาตรฐานทางการบัญชีที่เข้มมาก มีอาสาสมัครพยายามเอาบัญชีเข้าระบบมาตรฐาน แต่ก็ต้องยอมแพ้ เพราะขั้นตอนมากเหลือเกิน และยากแก่การเข้าใจของคนที่ไม่ได้เรียนบัญชีมาโดยตรง จนถึงบัดนี้ C.A.N. H.E.L.P. Thailand ก็ยังไม่ได้จดทะเบียนอยู่ดี
-----
ช่วงตั้งมูลนิธิพูนพลังใหม่ๆ เลขาฯเห็นว่าการเงินของมูลนิธิไม่ยุ่งยากมากนัก เลยทดลองทำบัญชีเอง ได้อาศัย น้องแมว (น.ส. เสาวภา ไหว้สิงห์) น้องนักเรียนทุนชาวชัยภูมิที่กำลังเรียนบัญชีในมหาวิทยาลัย เอาบัญชีที่เลขาฯลงไว้ตามวิธีการของเด็กประถม ไปปิดบัญชีมาให้ดูเป็นตัวอย่าง บวกกับคำแนะนำของเพื่อนๆผู้รู้ด้านบัญชีหลายๆท่าน จนทำให้สามารถลงบัญชี และปิดบัญชีเองได้คล่องแคล่วขึ้นมาก ถึงอย่างไรก็ตาม ทุกๆปีก็ได้มีเรื่องใหม่ๆให้ได้เรียนรู้จากผู้กรุณาสอบบัญชีให้มูลนิธิอยู่เสมอ
ขอขอบคุณอาสาสมัครสอนบัญชีของมูลนิธิทุกท่านค่ะ
อยากสอบถามว่าที่นีเปิดสอนบัญชีใช่ไหมคะเพราะอยากเรียนปิดบัญชีที่เป็นโปรแกรมสำเร็จรูป สอบถามที่อื่นค่าเรียนแพงยังไงช่วยตอบกลับด้วยนะคะ
เอ ... เลขาฯเขียนอะไรให้เข้าใจผิดหรือเปล่าคะ
ช่วงนี้มีคนถามเรื่องเรียนบัญชีมาที่มูลนิธิหลายราย
บันทึกนี้เพียงแต่บอกว่า คนสอบบัญชีช่วยสอนวิธีทำบัญชีให้ค่ะ
มูลนิธิไม่ได้เปิดสอนบัญชีนะคะ
สอนบัญชี ทำบัญชี
อ่านรายงานประจำปีของมูลนิธิพูนพลังแล้วตามมาเจอบันทึกนี้ด้วยความสนใจองค์กร C.A.N. H.E.L.P ครับ
ปล. ชื่อองค์กรพิมพ์ยากมากครับ