Hospital Management Program ให้ผู้รับทุนจากองค์การอนามัยโลก


Hospital Management Program ให้ผู้รับทุนจากองค์การอนามัยโลก

 ดิฉันได้รับการติดต่อจากคณะสาธารณสุขศาสตร์ให้ช่วยบรรยาย เรื่อง Hospital Management  ให้ผู้รับทุนจากองค์การอนามัยโลกทั้ง 3ประเทศได้แก่ เกาหลีเหนือ บังคลาเทศ และมัลดีฟส์       หัวข้อที่บรรยายคือ 

 1 การบริหารสถาบันบำราศนราดูร

  2 Management of SARS  and Avian Flu

 3 แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต

 4 ประสบการณ์ดีๆในประเทศไทย

 ในหลักสูตรนี้จะต้องไปเรียนเรื่อง Management of Emerging and Re-emerging Diseases ที่สำนักควบคุมโรคติดต่อทั่วไป ซึ่งทางสำนักก็มาฝากดิฉันให้จัดการให้เพราะไม่สะดวกที่จะดูแล พร้อมกับบ่นเล็กๆเพราะเตรียมตัวไม่ทัน       ดิฉันก็ใจอ่อนต้องมารบกวนให้คุณหมอศิริวรรณและหมอเอ๋ช่วยจัดหลักสูตรให้     เพราะต้องมาอยู่ที่ สบร. ทั้งสองวัน 

  ในวันแรกหมอเอ๋และคุณหมอศุภมิตร   ผู้ทรงกรมต้องรับดูแลไป   ในวันหลังดิฉันต้องดูแลร่วมกับกลุ่มการพยาบาล     ดิฉันเตรียมตัวไม่ดีนักเพราะไม่ค่อยได้สอนเรื่อง Management เป็นภาษาต่างประเทศ     และจะให้เราพูดเรื่องsustainability ซึ่งตำราที่เราเรียนส่วนใหญ่เป็นภาษาไทยและเวลาที่จะค้นคว้าน้อยมาก      ผลสุดท้ายเลยตัดสินใจพูดจากTacit Knowledge ที่เราคิดว่าใช่นะโดยไม่เปิดตำราค่ะ  สิ่งที่ดิฉันคิดว่า  แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคตค่ะ  

 1 ต้องวางบทบาทขององค์กรให้ชัดเจนว่าเราคืออะไร  ต้องมี Brand  เช่น  ผู้เชี่ยวชาญเอดส์ที่สามารถรักษาส่วนที่ผู้อื่นส่งมาให้เราดูแลได้   (  Organization Positioning ) และการดูแล Emerging Diseases

2 มีระบบ การเงินที่เลี้ยงตัวเองโดยไม่ต้องอาศัยงบประมาณจากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่     ซึ่งดิฉันคิดว่าน่าจะเป็นองค์ความรู้ขององค์กร และบุคลากร

3 ระบบการพัฒนาบุคลากรที่สอนให้คนรู้จักการเรียนรู้และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง     ซึ่งดิฉันว่าเป็นโจทย์ที่ยากมากที่สุดเพราะคนที่อยู่ในองค์มีมาก     แม้แต่แนวทางในการพัฒนาของผู้บริหารยังคิดต่างกัน

4 ระบบพัฒนาคุณภาพ ตั้งแต่การวางยุทธศาสตร์ซึ่งผู้บริหารที่จะใช้ยุทธศาสตร์ในการบริหารมีน้อย     การวางระบบ M&E, IM, การใช้ KM tool , การสื่อสาร

5 สิ่งสุดท้ายที่ดิฉันไม่ได้พูดไปในวันที่สอนแต่เพิ่งจะคิดได้ว่าน่าจะสำคัญคือ     เป็นการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้ มีการสื่อสารทางแนวราบมากขึ้น     ซึ่งดิฉันว่ายากแต่ต้องวางแผนให้เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญ    

การสอนครั้งนี้ดิฉันได้ความรู้เพิ่มขึ้นจากการสอนคือต้องย้าย slide และทำ slide เองบางส่วนจากการที่ดิฉันไม่ได้หาเช้ากินค่ำ     แต่ต้องหาเช้ากินเช้าเลยค่ะเพราะเตรียมไม่ทันค่ะเลยต้องมาทำslide ตั้งแต่ตีห้าจนเจ็ดโมงเช้า เพราะอยากให้ดูรูปมากๆจะได้พูดน้อยๆค่ะ  

คำสำคัญ (Tags): #การฝึกอบรม#management
หมายเลขบันทึก: 79215เขียนเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2007 18:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม 2012 12:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

อรุณสวัสดิ์ค่ะ Dr. อัจฉรา เชาวะวณิช  

  • ครูอ้อยอ่านบันทึกของท่านบ่อยมาก  แต่ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นค่ะ
  • แต่วันนี้รวบรวมความกล้า  เพราะถูกใจโดนใจคำพูดว่า  พูดออกมาจาก tacit knowledge
  • ทำให้นึกถึง  ตัวเองค่ะ  ครูอ้อยก็ถูกเชิญไปแบบไม่ได้ตั้งตัว  แลพูดแบบท่านนี้ค่ะ
  • ปรากฎว่า  ประสบความสำเร็จอย่างดี  เพราะสิ่งที่พูดออกมานั้น  ออกมาจากใจด้วยความจริงใจค่ะ
  • ท่านเก่งมากค่ะ  ท่านมีประสบการณ์มากด้วย  ครูอ้อยขอสมัครเป็นลูกศิษย์  ด้วยนะคะ

เสียดายที่ยังไม่ได้มีโอกาสฟังอาจารย์พูดในงานมหกรรมฯที่ผ่านมา แต่อ่านจากบันทึกนี้แล้วเชื่อว่า อาจารย์ต้องพูดได้น่าฟังแน่ๆค่ะ เพราะสื่อได้ว่าอาจารย์พูดสิ่งที่มาจากใจจริงๆ

แนวปฏิบัติที่อาจารย์ยกมาทั้ง 5 ข้อเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากและหากองค์กรไหนทำได้จริงแบบครบสมบูรณ์ละก้อ ยั่งยืนอย่างมีคุณภาพแน่นอนค่ะ

ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจชาวสถาบันตลอดมาค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท