นายณัฐวัฒน์ สุทธิโยธิน ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2550 ว่าที่ประชุม ครม. ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ..... ในวาระจร หลังจากมีมติเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.49 อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ก่อนที่จะเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และส่งมายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ก.พ.50
นายณัฐฐวัฒน์กล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวขึ้นตรงกับกระทรวงมหาดไทย เป็นส่วนราชการเฉพาะกิจ และมีฐานะเช่นเดียวกับกลุ่มภารกิจตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อปฏิบัติภารกิจ ตามพระราชบัญญัตินี้ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มี ผอ.ศอ.บต. เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ พนักงานและลูกจ้าง ซึ่งปฏิบัติงานในหน่วยงานและรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงาน มีทั้งหมด 19 มาตรา โดยมาตราที่ 5 เป็นการมอบอำนาจหน้าที่ให้ คือ 1.กำกับติดตามและเร่งรัดการปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐฝ่ายพลเรือนให้เกิดสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งพัฒนาการศึกษาและเศรษฐกิจ เสริมสร้างความเป็นธรรม แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และสร้างความเข้าใจ เข้าถึง พัฒนาวิถีชีวิตประชาชน 2.ประสานงานและร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและแก้ไขความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3.เสนอแนะหรือสั่งการให้หน่วยงานของรัฐฝ่ายพลเรือนที่เกี่ยวข้องจัดทำ แก้ไขหรือปรับปรุงผลงาน โครงการและการขอจัดตั้งงบประมาณเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางและนโยบายที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตลอดจนประสานงาน ติดตามและประเมินผลให้การดำเนินงานตามแผนงานหรือโครงการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 4.คุ้มครองสิทธิเสรีภาพและอำนวยความเป็นธรรม โดยการรับเรื่องราวร้องทุกข์ให้ความช่วยเหลือ และประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตรวจสอบและแก้ไขปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 5.ดำเนินการให้มีการพัฒนาเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายพลเรือน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งบูรณาการการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานรัฐฝ่ายพลเรือน เพื่อให้ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับสภาพทางสังคม เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยปรึกษาหารือกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง 6.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 7.ปฏิบัติการอื่นตามที่คณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมอบหมาย ทั้งนี้ ศอ.บต. อาจวางระเบียบเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่าง ศอ.บต. กับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้ นอกจากนี้ ในมาตรา 6 เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ของ ศอ.บต. ให้ ผอ. โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษา ศอ.บต. ขึ้น ตามจำนวนที่เห็นสมควร โดยแต่งตั้งจากบุคคลภาครัฐ ภาคสังคม ภาคเอกชนและภาควิชาการ มีหน้าที่เสนอแนะให้คำปรึกษา และในมาตรา 7 ได้มอบอำนาจให้ ผอ.ศอ.บต. สามารถสั่งเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายพลเรือนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม จนเป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนหรือไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน หรือความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกจากพื้นที่ที่กำหนด พร้อมกับแจ้งเหตุผลให้ต้นสังกัด เพื่อให้ต้นสังกัดออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ผู้นั้นพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดภาคใต้โดยเร็วมาตรา 9 ให้อำนาจ ผอ.ศอ.บต. อนุมัติให้เลื่อนเงินเดือนประจำปีเป็นกรณีพิเศษสำหรับข้าราชการ พนักงานและลูกจ้างของส่วนราชการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกเหนือจากการอนุมัติของผู้บังคับบัญชาของพนักงานและลูกจ้างดังกล่าวตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด เสนอแนะมาตรการสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่รัฐในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อคณะรัฐมนตรี ในมาตรา 12 มอบอำนาจ ศอ.บต. ทำนิติกรรมฟ้องคดีและดำเนินการทั้งปวงเกี่ยวกับคดีอันเกี่ยวเนื่องกับภารกิจของ ศอ.บต. โดยกระทำในนามของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และในมาตรา 13 มอบอำนาจให้ ศอ.บต. ขอจัดตั้งงบประมาณรายจ่ายโดยตรงต่อสำนักงบตามความจำเป็น โดยให้ถือว่า ศอ.บต. มีฐานะเป็นส่วนราชการตามกฎหมาย มาตรา 14 มอบอำนาจ ผอ.ศอ.บต.จัดตั้งหน่วยงานภายในตามความเหมาะสมได้ และมาตรา 15 ผอ.ศอ.บต. มีอำนาจในการปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง ปลัดทบวง อธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งดำรงตำแหน่งเทียบเท่า
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้ ที่เคยระบุจะให้เวลาการทำงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.ร่ม) 3 เดือนว่า ได้ประเมินแล้วในส่วนที่เข้าไปทำงานกับพี่น้องประชาชนในระดับหมู่บ้าน-ตำบล ยังไม่ได้ผลตามที่ต้องการ ยังจำเป็นจะต้องเพิ่มการทำงานในส่วนนี้ ซึ่ง กอ.รมน. ร่วมกับ ศอ.บต. เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการประเมินที่ชัดเจน สิ่งที่เป็นห่วงคือ การทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในระดับหมู่บ้าน ตำบล ระดับผู้นำศาสนา โต๊ะอิหม่ามในหมู่บ้าน ส่วนนี้จะต้องมีการทำงานในลักษณะที่บูรณาการให้มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีนโยบายอะไรพิเศษหรือไม่ เพราะยังไม่สามารถป้องกันเหตุร้ายรายวันได้ พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ในส่วนของเหตุร้ายขึ้นอยู่กับการทำความเข้าใจมากกว่า รวมถึงความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน เป็นส่วนสำคัญ หากสามารถที่จะทำความเข้าใจและมีความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนแล้ว เราจึงจะสามารถดำเนินการในด้านอื่น ๆ ได้ต่อไป และเมื่อประชาชนให้ความร่วมมือเหตุร้ายก็จะลดลงเอง เมื่อถามว่าการที่รื้อฟื้น ศอ.บต. กลับมาพอจะประเมินได้หรือไม่ว่า เวลานี้เรามีมวลชนให้ความไว้วางใจภาครัฐกี่เปอร์เซ็นต์ พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ตัวเลขที่ชัดเจนนั้นยังไม่มี ได้มอบหมายให้มีการประเมินแบบที่เรียกว่าเป็นการทำงานวิจัยอย่างจริงจัง โดยให้หลาย ๆ ส่วนลงไปดำเนินงาน คงไม่พูดกันลอย ๆ แต่จากสิ่งที่ได้ประสบมาด้วยตนเอง คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะในส่วนของเยาวชน ผู้นำทางศาสนา มีความเข้าใจและ ให้ความร่วมมือมากขึ้น จากการที่ลงไปเองก็มีผู้ให้ข้อมูลข่าวสารในเรื่องของเหตุการณ์ในพื้นที่มากขึ้น
ไทยโพสต์ (บางส่วน) 14 กุมภาพันธ์ 2550
ไม่มีความเห็น