นายสมชัย สัจจพงษ์ รักษาการที่ปรึกษาสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะทำงานติดตามผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ครั้งที่ 2 ว่า ได้มีการหารือถึงการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลประจำปีงบประมาณ 2551 โดยคาดว่าจะสามารถจัดเก็บได้มากกว่าปีงบประมาณ 2550 ที่ประมาณการไว้ที่ 1.42 ล้านล้านบาท เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ดีกว่าปีก่อนที่คาดว่าอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัวเฉลี่ย 4-5% เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองนิ่ง มีการเลือกตั้ง เศรษฐกิจจึงยังขยายตัวดี ทั้งนี้ ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ กระทรวงการคลังจะประชุมร่วมธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ เพื่อหารือถึงการประมาณการเศรษฐกิจและ การจัดทำงบประมาณประจำปี 2551
แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สศค. ต้องการให้การจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2551 ขยายตัว 6-7% จากรายได้ในปีงบประมาณ 2550 เนื่องจากได้มีการประมาณการว่าจีดีพีในปี 2551 จะขยายตัว 4.5% อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.5% ดังนั้น สศค. มองว่ากรมศุลกากรและ กรมสรรพากร จะจัดเก็บรายได้ได้มากขึ้น ส่วนกรมสรรพสามิต คาดว่าจะจัดเก็บได้มากขึ้น โดยเฉพาะภาษีเบียร์ อย่างไรก็ตาม 3 กรมจัดเก็บภาษียังมองว่าเป็นไปได้ยากที่จะเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นตามที่ สศค. คาดการณ์ไว้ โดยเชื่อว่าการจัดเก็บรายได้ในปี 2551 จะขยายตัวมากกว่าปีงบประมาณก่อนแค่เพียงเล็กน้อย หรืออาจจะจัดเก็บได้ต่ำกว่า เพราะในปีงบประมาณ 2551 จะมีมาตรการภาษี ตัวใหม่ของกรมสรรพากรออกมาหลายมาตรการ อาทิ มาตรการเพิ่มเพดานค่าหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากเดิม 40% แต่ไม่เกิน 6 หมื่นบาท เป็น 60% แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งจะทำให้รายได้ของกรมสรรพากรหายไปกว่า 1 หมื่นล้านบาท รวมถึงมาตรการที่ให้สามี-ภรรยา สามารถแยกการยื่นชำระภาษีได้ ซึ่งจะทำให้ผู้เสียภาษีสามารถหักลดหย่อนได้มากขึ้น นอกจากนี้ ผลกระทบจากการบันทึกตามมาตรฐานบัญชีใหม่ (IAS 39) ของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะส่งผลรายได้จากการจัดเก็บภาษีจากธนาคารพาณิชย์หายไปประมาณ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาทโพสต์ทูเดย์ 14 กุมภาพันธ์ 2550
ไม่มีความเห็น