ทฤษฎีที่มีพื้นฐานจากหลักปรัชญา ที่ควรรู้
1. มิติวิวัฒนาการ
Evolutionism Theory (Tylor: 1917)
- สังคมอาจเสื่อมสลายได้เช่นเดียวกับร่างกายของมนุษย์ (เด็ก หนุ่ม ชรา)
- ประดิษฐ์กรรมเครื่องปั้นดินเผา โลหะเหล็ก พลาสติก (เพื่อความทนทาน)
- ความสัมพันธ์ทางเพศ ครอบครัว
S ระยะแรก : สมสู่เยี่ยงสัตว์ทำเป็นฝูง (1)
: แยกกลุ่มตามเพศ (2)
: ใครเป็นพ่อ ใครเป็นพี่น้อง จัดระบบเครือญาติ ตัวอ่อนมีความหมาย (3)
B ระยะกลาง
: รู้จักจับคู่แต่งงานยังมีลักษณะมากผัวมากเมีย (1)
: ชายเป็นใหญ่ ฝ่ายสนอง (2) หญิงเป็นใหญ่ เป็นฝ่ายสนอง
C ระยะเจริญ
: มีกฎหมายควบคุม
: มีวิธีสืบทอดทายาทและสมบัติ
Charles Darwin (1927)
ความอยู่รอดของผู้ที่เหมาะสม (Survival for the fittest)
“ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายในโลกนี้ จะอยู่รอดได้ก็จะต้องเป็นผู้ที่ธรรมชาติเลือกแล้วว่าแข็งแรงที่สุด ผู้ที่แข็งแรงที่สุดจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับลักษณะของสิ่งแวดล้อมทุก ๆ ลักษณะได้” 2. มิติประวัติศาสตร์
Franz Boas (1942 : เยอรมนี)
“วิธีการวิเคราะห์โครงสร้างรวม (holistic) คือ การศึกษาวัฒนธรรมของสังคมใด ๆ โดยนำโครงสร้างทุกส่วนมาวิเคราะห์ร่วมกัน ในขณะเดียวกัน และเพื่อความเข้าใจวัฒนธรรมในภาพรวมของสังคมหนึ่ง ๆ”
“วิธีการทางประวัติศาสตร์เชิงเปรียบเทียบ (comparative method) ถือเป็นศาสตร์ทางด้านการปฏิบัติ โดย boas เชื่อว่า วัฒนธรรมถูกกำหนดให้มีรูปแบบต่าง ๆ กันโดยกลุ่มชาติพันธุ์ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และระบบการทำมาหากิน”
3. มิติการแพร่กระจาย
(Diffusionism Theorey : Alfred Kroeber (1963)
“ วัฒนธรรมแพร่กระจายจากจุดศูนย์กลาง (จุดกำเนิด) ไปตามพื้นที่เท่าที่มันจะไปได้ในเขตภูมิศาสตร์เดียวกันและยุคสมัยใกล้เคียงกัน”
ฉะนั้น การศึกษาการแพร่กระจายวัฒนธรรมจึงพิจารณาที่
1. การใช้หลักภูมิศาสตร์
2. การใช้ประวัติศาสตร์สืบย้อน
3. การขุดค้นทางโบราณคดี
4. ดูวิวัฒนาการทางวัฒนธร
4. มิติหน้าที่นิยม
(Functionalism Theorey : Bronislaw Malinowski (1942 : โปแลนด์)
“หน้าที่ของวัฒนธรรม คือความสามารถที่จะตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐาน ของบุคคลในสังคม ความต้องการอาหาร การขับถ่าย ทางเพศ ความสะดวกสบายทางกาย ความมั่นคงปลอดภัย นันทนาการ การติดต่อสื่อสาร การเจริญเติบโตทางร่างกาย” 5. มิติโครงสร้างนิยม
(Structuralism Theorey : Claude Levi Strauss (1966 : ฝรั่งเศส)
“วัฒนธรรมเกิดจากระบบความคิดอย่างมีเหตุผล บ่งชี้ได้จาก ระบบศิลปะ ความขลังความศักดิ์สิทธิ์ ระบบศาสนา ภาษาและระบบ สัญลักษณ์ทุกระบบ”
6. มิติสัญลักษณ์นิยม
(Symbolism Theorem : Clifford GeertZ (1973) เสนอไว้ว่า
1. ความคิดของมนุษย์เป็นกระบวนการทำงานโดยธรรมชาติและเป็นอิสระจากการทำงานของร่างกาย เช่น ความฝัน
2. ขบวนการทางระบบความคิดจะมีเหตุและผลในตัวเอง
3. ระบบความคิดจะบงการ การกระทำของตนโดยแสดงออกทางภาษา (Verbal action)
4. ผู้ต้องการสื่อความคิดให้ผู้อื่นรับรู้ต้องจงใจใส่ความหมาย (Encode)
5. ผู้ที่จะเข้าใจความคิดของคนอื่น ต้องสามารถตีความ หรือถอดความหมาย คำพูดหรือการกระทำของผู้นั้น (Decode)
6. ผู้สื่อความคิดกับผู้รับความคิดจะเข้าใจซึ่งกันและกันได้ต้องเป็นผู้รู้กฏวัฒนธรรมเดียวกัน เช่น การกวักมือ การไหว้
7. ระบบสัญลักษณ์ ต้องเป็นการตีความหมายหลายชั้น ตัวแทนความหมายหรือตัวที่ถูกแทนความหมายอาจไม่เกี่ยวกันแต่สามารถแทนกันโดยอิสระ เช่น แม่โขง-เหล้า
8. พฤติกรรมทุก ๆ ด้านของมนุษย์เป็นระบบสัญลักษณ์ที่ชัดเจน คือการฟ้อนรำ 7. มิติของวัฒนธรรมและบุคลิกภาพ
Culture and Personality Theorem : Ruth Benedict และ Margaret Mead (1946)
“ การแต่งงานและมีลูกหลานทำให้เกิดสถาบันครอบครัว เป็นหน่วยถ่ายทอด อบรมและปลูกฝัง โดยการเลี้ยงดูในวัยเด็ก มีผลต่อบุคลิกภาพในวัยผู้ใหญ่”
“แอ่งวัฒนธรรมสร้างบุคลิกภาพของบุคคล ในขณะเดียวกันบุคลิกของบุคคลก็ไปสร้างวัฒนธรรมอีกต่อหนึ่ง”8. มิตินิเวศวิทยา
Cultural EcoloGy : Julian Steward (1968)
“ สิ่งแวดล้อมมีผลต่อความแตกต่างในการปรับตัวของวัฒนธรรม วัฒนธรรมที่ต่างกันในสิ่งแวดล้อมที่เหมือนกัน จะแสดงรูปแบบของพัฒนาการที่เหมือนกัน”
ระบบนิเวศวิทยา ก่อให้เกิดการพัฒนาทางวัฒนธรรมหรือการพัฒนาในสังคมโดยตรง ดังนี้|
ระดับ 1 สิ่งแวดล้อมที่ไม่สามารถทางการเกษตรได้
ระดับ 2 สิ่งแวดล้อมที่สามารถทำเกษตรอย่างจำกัด
ระดับ 3 สิ่งแวดล้อมที่สามารถทำเกษตรได้อย่างไม่จำกัด
ระดับ 4 สิ่งแวดล้อมที่สามารถเพิ่มผลผลิตทางเกษตรได้
9. มิติพัฒนาการทางเศรษฐกิจ
Economic Development Theorem : Leslie white (1969)
“การพัฒนาเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับแรงงานจากพลังกายของมนุษย์แต่ละคนช่วยกันออกแรงทำงาน...เศรษฐกิจวัฒนธรรม”
Devid C. McClelland (1961)
“คนที่ทำอะไร ไม่ได้มุ่งเป้าหมายที่เงินทอง หน้าตา และศักดิ์ศรี แต่ทำเพื่อให้เกิดความภูมิใจในความสำเร็จของชีวิตเท่านั้น...จะเป็นคนที่ทำให้เกิดการพัฒนาขึ้นในสังคม...และความสำเร็จส่วนบุคคลก็จะเป็นความสำเร็จของสังคมในที่สุด”------------------------ แหล่งข้อมูล
อัจฉรา ภาณุรัตน์,ดร. ทฤษฎีความรู้โลกาภิวัตน์และภูมิปัญญาท้องถิ่น, มหาวิทยาลัย
ราชภัฎสุรินทร์, 2545 (อัดสำเนา)
อัจฉรา ภาณุรัตน์,ดร. เอกสารคำสอน รายวิชาท้องถิ่นศึกษา, มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์,
2549 (อัดสำเนา)
อัจฉรา ภาณุรัตน์,ดร. เอกสารประกอบการบรรยายการประชุม เรื่อง ยุทธศาสตร์
การพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์, 2549