ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายและข้อเท็จจริง
ในทุกความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมาย หรือข้อเท็จจริงเทคโนโลยีในแต่ละเรื่องต่างก็มีความเป็นข้อดี และความเป็นข้อเสีย อย่างเช่น
โปรแกรม camfrog ซึ่งโดยจุดมุ่งหมายของเทคโนโลยีแล้วน่าจะเป็นเรื่องที่ดีเพราะสามารถนำมาใช้กับการประชุมของนักธุรกิจหรือคุยกันระหว่างเพื่อนที่สนใจในเรื่องเดียวกันได้ทีหลาย ๆ คนด้วยกันโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมากเหมือนกับ video conference แต่ก็มีคนนำมาใช้ในวิธีที่ผิดโดยการนำมา เผยแพร่การกระทำที่เป็นเรื่องลามกอนาจาร หรือเป็นแหล่งของอบายมุข
สิ่งที่สังคมไทยจะต้องตระหนักคือ
1. สิ่งที่ก่อให้เกิดผลร้ายต่อสังคมคืออะไร และเราจะจัดการอย่างไรอันนี้จะเป็นเรื่องการ identify facts ว่าเป็นอย่างไร
ปรับกับเรื่อง camfrog ข้างต้น อันนี้คือการที่เราดูว่า camfrog คืออะไร สิ่งที่ก่อให้เกิดผลร้ายต่อสังคมนั้นมีอะไรบ้าง และ เราสามารถจัดการผลร้ายที่มาจาก camfrog โดยอาศัยอะไร อาจจะเป็นการจัดการโดยอาศัยตัวเทคโนโลยีเอง หรืออาจจัดการโดยวิธีอื่น
2. หากตั้งการจัดการผลร้ายโดยกฎหมายก็จะต้องดูว่า ซึ่งจะเรียกว่าเป็นการสำรวจว่ากฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันมีอะไรบ้าง normative law สำรวจเพื่อที่จะหาว่า
2.1 กฎหมายที่มีอยู่แล้ว นั้นสามารถใช้จัดการข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคมได้หรือไม่
หากเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องซ่อมกฎหมาย จะต้องดูว่าควรจะซ่อมกฎหมายนั้นได้อย่างไร
2.2 กฎหมายไม่มีต้องสร้างกฎหมายใหม่เพื่อมาจัดการข้อเท็จจริงนั้นได้หรือไม่
3. หากเป็นการจัดการผลร้ายข้อเท็จจริงโดยศาล justify facts ก็จะต้องดูว่าศาลใดที่มีเขตอำนาจ และเราสามารถทำอะไรได้บ้าง
4. หากเป็นการจัดการข้อเท็จจริงโดยประชาคม ก็จะต้องดูว่าในแต่ละประชาคมนั้นเห็นอย่างไรกับผลร้ายนั้น
ไม่มีความเห็น