เมื่อวันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2550 ที่ผ่านมา จ๊ะจ๋าสมัครเข้าร่วมเวทีเสวนา
“ สุนทรียสนทนา...สู่ความเป็นองค์กรยุคใหม่” ณ ร้านสมุดไท ชั้น 4 สยามพารากอน โดยมีผู้ดําเนินรายการคือ คุณณัฐฬส วังวิญู รองผู้อำนวยการสถาบันขวัญเมือง และวิทยากรรับเชิญ 3 ท่านคือ
สาเหตุของการเข้าร่วมร่วมงานเสวนาครั้งนี้เกิดจาก คุณเก๋แห่ง สคส. ได้รับอีเมลเชิญชวนจากสถาบันขวัญเมือง ที่มีรายละเอียดที่มา ที่ไป และกำหนดการต่างๆ คุณเก๋ผู้น่ารักก็ทำหน้าที่ประสานงานดีเยี่ยมในการกระจายข่าวนี้ให้กับสมาชิกชาว สคส. ได้รับทราบทางอีเมล ....เมื่อจ๊ะจ๋าอ่านเมล...ก็เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่าสิ่งใดที่จุดความสนใจอยากจะเข้าร่วมเวทีนี้ คล้ายกับว่าเป็นการทบทวนก่อนปฏิบัติงาน หรือที่เข้าใจว่า BAR (Before Action Review) สิ่งที่จุดความสนใจคงมี 1-2 ข้อคือ 1. ตามที่สถาบันขวัญเมืองได้พัฒนาหลักสูตร “สุนทรียสนทนา” เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้มาผ่านการฝึกฝนนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างกับตัวบุคคลหรือองค์กร ? และ อย่างไร? 2. อยากฟังเรื่องเล่าจากการสั่งสมประสบการณ์ในกระบวนการเรียนรู้ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า สุนทรียสนทนา ผ่านวิทยากรรับเชิญทั้ง 3 รวมไปถึงผู้ดำเนินรายการด้วย โดยเฉพาะผู้ดำเนินรายการเพราะได้ยินชื่อเสียงมานานแล้วคะ (อยากเห็นตัวเป็นๆ ด้วยคะ)
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> และในเวทีครั้งนี้ สมาชิกชาว สคส. ก็พร้อมใจสมัครเพื่อเข้าร่วมเวทีนี้อย่างล้นหลาม เกือบหมดออฟฟิซ …แต่ก็ได้ผู้โชคดี 3 ท่านเข้าร่วมเวทีนี้คือ ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด พี่อุ (คุณอุไรวรรณ เทิดบารมี) และจ๊ะจ๋า เมื่อถึงสถานที่จัดงานเสวนา จ๊ะจ๋าและพี่อุเดินตามผู้ใหญ่คือ อาจารย์ประพนธ์ ก็มีคนเข้ามาทักทาย อ. ประพนธ์ เป็นระยะๆ (เข้าภาษิตทำนองว่า เดินตามผู้ใหญ่) เมื่อเข้าห้องเสวนาก็พบว่า</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> บรรยากาศแบบมิตรภาพ เพราะผู้คนที่เข้าร่วมวงเสวนานี้ ยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายกันตามประสาคนรู้จักกัน ส่งผลให้การพูดคุยกันในวงมีบรรยากาศแบบสบายๆ เป็นกันเอง และเนื่องจากสถานที่จัดเป็นโรงเรียนสอนศิลปะของเด็ก บริเวณโดยรอบก็สะอาดสะอ้าน และดูสบายตาด้วยการตกแต่งแบบเรียบง่าย ส่งผลให้ผู้มาเยือนรู้สึกถึงความสบาย และผ่อนคลาย ……..จ๊ะจ๋าเองก็รู้สึกเช่นนั้นจนทำให้คิดไปว่า นอกเหนือจากความสะดวกในการเดินทางแล้ว สถานที่ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้คนที่ร่วมวงเสวนารู้สึกผ่อนคลาย รวมทั้งการจัดโต๊ะลักษณะนั่งล้อมวงคุย ยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศการพูดคุยแบบพบหน้าจ้องตาอย่างดีเยี่ยม</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> และที่สำคัญคือทุกคนมีความตั้งใจจะเข้าร่วมเสวนานี้อย่างมาก (แอบสอบถามเจ้าหน้าที่จัดเวทีนี้ เค้าบอกว่า…..เนื่องจากมีคนสนใจเข้าร่วมเวทีนี้มาก จึงมีการเพิ่มรอบช่วงเช้าอีกรอบ สรุปคือ วันนั้นมีรอบเช้าและบ่าย ) จากความสนใจและตั้งใจนี้เองทำให้ทุกคนเปิดใจที่พร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันและกัน พร้อมกันนั้นบางคนยังคุ้นเคยกับ สคส. เป็นอย่างดี เช่น คุณทวีสิน ฉัตรเฉลิมวิทย์ จากบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (แก่งคอย) จำกัด และ ครูใหม่ (คุณวิมลศรี ศุษิลวรณ์) จากโรงเรียนเพลินพัฒนา</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> ก่อนเริ่มเสวนา ผู้ดำเนินรายการได้ให้ทุกคนหลับตา และทำสมาธิ พร้อมกันนั้นคุณณัฐฬส ได้เคาะระฆัง….. จ๊ะจ๋าจึงตีความว่า เสียงของระฆังที่ได้ยิน เป็นการบอกกล่าวให้ทุกคนในวงเสวนาเตรียมตัวให้พร้อม ตั้งใจฟังอย่างลึกซึ้ง รวมถึงการตั้งสติ และสมาธิต่อสิ่งที่จะได้รับฟัง…..ระฆังเปรียบเสมือนสัญญาณแห่งการบ่งบอกจุดเริ่มของการกระทำ และเมื่อจ๊ะจ๋าได้ยินเสียงของระฆัง ทำให้ตัวเองมีความรู้สึกว่า สงบและมีสมาธิมากขึ้น ใจจดจ่อกับสิ่งที่กระทำมากขึ้น ยิ่งหลับตา ก็รู้สึกอยู่กับตัวเองมากขึ้น……เพียงแค่ 5 นาที หลับตาและทำจิตใจให้นิ่งซักพัก…มีความสงบจริงๆ คะ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> หลังจากนั้นก็เริ่มเสวนาประสบการณ์ของวิทยากรรับเชิญทั้ง 3 ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับสถาบันขวัญเมือง เริ่มด้วยคุณสมพล ชัยสิริโรจน ดร.สรยุทธ รัตนพจนารถ และคุณสุริยน เภกะสุต สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนั้นพบว่า <ul> <li class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt; color: blue; tab-stops: list 36.0pt"> เรื่องเล่าจากคุณสมพลสะท้อนให้จ๊ะจ๋าเห็นว่า ด้วยกระบวนการสุนทรียสนทนา ทำให้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชนใหญ่ เริ่มให้ความสำคัญกับคนทำงานระดับพนักงานมากขึ้น ส่งผลให้สัมพันธ์ภาพระหว่างเจ้านายและลูกน้องดีขึ้น และคุณสมพลได้บอกอีกว่า หลังจากที่ตนได้นำพนักงานจำนวนเกือบ 30 คนทำกิจกรรม 3 วัน ด้วยการพูดคุยแบบผ่อนคลาย และฟังอย่างตั้งใจ พบว่า “เกิดการเปลี่ยนแปลงกับตนเอง กระบวนการนี้ทำให้ตนได้ย้อนกลับมาดูแลตัวเอง และที่สำคัญทำให้ตนได้รู้จักคนอื่นๆ อย่างลึกซึ้งมากกว่าเดิม…จากเดิมที่สัมผัสแบบผิวเผิน..ไม่รู้ว่าพนักงานบางคนมีความสามารถ มีศักยภาพที่น่าทึ่ง และที่สำคัญทำให้บางคนได้ค้นพบว่าตนเองก็มีคุณค่า มีศักยภาพเหมือนกัน……แต่สุนทรียสนทนาไม่ใช้คำตอบสุดท้าย แต่ต้องปรับใช้ตามบริบทของตน สิ่งสำคัญคือ ต้องนำไปปฏิบัติ…..ต้องสัมผัสด้วยตัวเอง” </li> <li class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt; tab-stops: list 36.0pt"> ดร.สรยุทธ รัตนพจนารถ กล่าวคำพูดที่ยังตรึงในใจคือ “ยกคำพูดของท่านมหาตมะคานธีกล่าวว่า ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงโลกต้องเริ่มจากตัวเอง” และสิ่งที่น่าสนใจคือ dialogue เป็นการฝึกความสามารถในการฟัง และ ทำให้ค้นพบตัวตนมากขึ้น มีทางเลือกมากขึ้นจากการใช้สุนทรียสนทนา ช่วยให้แก้ปัญหาบางเรื่องได้อย่างง่ายดาย…น่าสนใจจริงๆคะ </li>
</ul></span></span></span></span>
ยินดีเป็นอย่างยิ่งคะคุณเกด และขอเป็นกำลังใจในการฝึกสุนทรียสนทนา....ได้เรื่องอย่างไร อย่าลืมนำมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ