ป้าเจี๊ยบกับผ้าแพรเป็นคู่หูกันมา 10 ปีแล้วค่ะ ตั้งแต่น้องแพรอายุ 2 ขวบ ต่างคนต่างติดกัน พ่อจ้อยกับแม่แอนก็ตามใจลูกสาว ปล่อยให้ไปไหนต่อไหนกับป้าเจี๊ยบได้ตั้งแต่ตัวนิดเดียว ไม่งอแง ยิ้มลูกเดียว และอดทนเป็นยอด
ตอน 3 ขวบ น้องแพรนอนพังพาบดูมดเดินแถวหรือนั่งดูหนังทีวีชีวิตสัตว์ได้เป็นชั่วโมงอย่างมีสมาธิ เวลาน้องแพรนั่งเฉยๆ ใบหน้าคล้ายคิดอะไรอยู่ ทำให้ป้าเจี๊ยบมีคำถามติดปากว่า “ลูกคิดอะไรอยู่คะ” ซึ่งคำตอบทุกครั้งคือไม่ได้คิดอะไร พร้อมกับยิ้มตาหยี
ตอน 5 ขวบ น้องแพรขอเป็นตากล้อง หลังจากเห็นป้าเจี๊ยบพกกล้องติดตัวเวลาไปไหนมาไหน ป้าเจี๊ยบก็ไม่ได้ขัดใจเพราะเป็นกล้องดิจิตอล ถ่ายเสียก็ไม่เปลืองฟิล์ม เพียงแต่เตือนว่าให้เอาสายคล้องมือไว้ทุกครั้งที่จะถ่ายรูป และพบว่าภาพที่น้องแพรถ่ายไม่เคยหัวขาดเลยค่ะ อยู่ในเฟรมดีทุกรูป
ตอน 7 ขวบ ป้าเจี๊ยบพาน้องแพรไปขับรถเที่ยวกันที่ออสเตรเลีย 2 อาทิตย์ ไปถึงโน่นแล้วจึงเห็นว่าน้องแพรมีกล้องติดไปด้วย เป็นกล้องดิจิตอลราคาถูก ป้าเจี๊ยบเริ่มสังเกตว่าน้องแพรชอบการถ่ายภาพมาก โดยเฉพาะภาพสัตว์ เพราะเดินตามถ่ายรูปสัตว์ต่างๆ ได้ทั้งวัน ทั้งที่อยู่ในกรงและสัตว์ที่ปล่อยตามธรรมชาติ
ป้าเจี๊ยบมีคำถามเช่นเคย “น้องแพรจะถ่ายภาพอะไร” แต่ไม่ได้ถามออกไปดังๆ หรอกค่ะ และไม่ได้แนะนำให้ถ่ายอะไรด้วย ปล่อยให้น้องแพรทำตามใจ เพราะอยากรู้จริงๆ ว่าเด็กๆ คิดอย่างไร ภาพน่าจะสะท้อนความคิดได้ ป้าเจี๊ยบจะหาคำตอบจากกล้องของน้องแพรค่ะ
กล้องนั้นเต็มไปด้วยภาพสัตว์ ป้ายชื่อสัตว์ ป้ายชื่อสถานที่ และทิวทัศน์ที่แปลกตา ภาพส่วนใหญ่จะเบลอเพราะยังมือใหม่ แต่มุมกล้องน่าสนใจมากค่ะ และเมื่อถามเกี่ยวกับภาพน้องแพรจะมีคำอธิบายที่น่าสนใจอย่างยิ่ง อย่างเช่นป้าเจี๊ยบเห็นภาพถ่ายต้นไม้เฉพาะกลางลำต้นจึงถามว่า “รูปต้นไม้นี่ไม่เห็นมีอะไรเลย” น้องแพรบอกว่า “ต้นไม้นี้สูงมาก แพรเลยถ่ายข้างล่าง ตรงกลาง แล้วข้างบน ป้าเจี๊ยบต้องดูต่อกัน” ส่วนป้ายต่างๆ ถ่ายไว้เพื่อจะได้รู้ว่าไปที่ไหนบ้าง เวลากลับไปเล่าให้พ่อแม่และแพทริกฟังจะได้ไม่ลืม ....
ฉะนั้น นอกจากช่างคิดแล้ว ภาพสัตว์ต่างๆ ที่น้องแพรถ่ายบอกได้ว่า ช่างภาพคนนี้มีอารมณ์ขันค่ะ ดูตัวอย่างสิคะ
ป้าเจี๊ยบกับน้องแพรไปเที่ยวไกลๆ ด้วยกันทุกปี เวลาที่เราถ่ายรูปกัน ป้าเจี๊ยบไม่เคยอธิบายการจัดองค์ประกอบภาพ (Composition) หรือกฎสามส่วน (Rule of the Third)ในการถ่ายภาพให้น้องแพรฟังหรอกค่ะ แต่เราดูภาพที่ถ่ายด้วยกันและวิจารณ์ว่าสวยหรือไม่สวย
ปีนี้น้องแพร 12 ขวบค่ะ พ่อจ้อยและแม่แอนรู้ใจลูกสาว ให้ของขวัญวันเกิดเป็นกล้องถ่ายรูปคุณภาพดี ดังนั้นช่วงปีใหม่ที่เราไปเที่ยวกัน น้องแพรก็มีกล้องคู่ใจอันใหม่ ถ่ายรูปเสร็จก็จะนำมาอวด แถมเรื่องเล่าประกอบภาพ อย่างเช่น “ตั๊กแตนตัวนี้ แพรบอกให้อยู่นิ่งๆ ขอถ่ายรูปหน่อย ก็ยอม พอบอกว่าเสร็จแล้ว ไปได้ ก็กระโดดไปเลย” บางรูปทำให้ป้าเจี๊ยบต้องขอให้พาไปถ่ายเก็บเอาไว้บ้าง อย่างภาพยอดอ่อนของต้นเฟิร์น ป้าเจี๊ยบจึงนำภาพฝีมือสาวน้อยคนนี้บางส่วนมาให้ชม
โลกใบนี้เมื่อมองผ่านสายตาของเด็ก...งดงามจังเลยค่ะ
แวะมาอ่านเรื่องเล่าของป้าเจี๊ยบ
ขอต่ออีกหน่อยครับป้าเจี๊ยบ
ต่ออีกหน่อยลืมไป
สวัสดีค่ะ ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ
น้องแพรมีอารมณ์ศิลปินนะคะเนี่ย ถ่ายภาพสัตว์ ภาพธรรมชาติ มุมมองสวยงามผ่านสายตาของเด็กเนี่ย ทำเอาผู้ใหญ่ทึงเลยนะคะ เพราะเพื่อนบางคนไม่กล้าถ่ายกล้อง ชอบบอกว่าถ่ายไม่เป็น อย่างงี้อายเด็กนะคะเนี่ย
...
ทึงอีกทีกับอาจารย์ Beeman เชียวชาญเรื่องผึ้งถึงขนาดรู้ว่าอยู่ที่อำเภออะไร จังหวัดอะไร ไร่ใคร โอ้วววว ทำได้ยังไงคะเนี่ย ดีนะคะ (แอบแซว) แต่รู้อะไรรู้จริงเนี่ย ขอคำนับงามๆ เลยค่ะ
ใบอ่อนของต้นเฟิร์นค่ะอาจารย์ เพราะป้าเจี้ยบเฉลยไว้ในบันทึกแล้ว ฮิฮิ ใบมันขดเป็นวงกลมน่ารักดีนะคะ
^____^
ฝากไปถึงน้องแพรว่า ถ่ายรูปเก่งมากเลยค่ะ
ขอยืมพื้นที่ของป้าเจี๊ยบหน่อยครับ
จากที่ได้อ่านทำให้รู้ว่าป้าเจี๊ยบมีมุมมองในการสอนน้องแพรได้ดีที่เดียวค่ะ ขออนุญาตนำวิธีการเลี้ยงหลานของป้าเจี๊ยบ มาใช้เลี้ยงหลานของแป้นบ้างนะคะ
สวัสดีค่ะป้าเจี๊ยบ