ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งถ้าหากท่านจะกรุณาให้ข้อเสนอแนะ และข้อคิดเห็นเพิ่มเติมอันจะเป็นประโยชน์ต่อการการศึกษา และการพัฒนาชุดความรู้สู่การพัฒนาอาชีพที่ยั่งยืน เป็นเนื้อหาที่ต่อจากเมื่อวานนะครับ
จากแนวทางการพัฒนาตลอดระยะเวลากว่า 45 ปี ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เดินตามเศรษฐกิจกระแสหลักในระบบทุนนิยมมาโดยตลอด จึงส่งผลให้ประเทศต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหา เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ต้องพบกับความล้มละลายทางเศรษฐกิจมาหลายครั้งหลายคราต้องเป็นหนี้เป็นสินทุกระดับ ตั้งแต่ระดับประเทศจนกระทั่งเกษตรกรในสังคมชนบท ประชาชนตกอยู่ในภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว รายจ่ายสูง รายรับต่ำ เงินออมไม่มี สุดท้ายเราต้องขายสิ่งแวดล้อมในรูปแบบต่างๆ เพื่อแปรเปลี่ยนเป็นเงิน จนมีสภาพดินเลว น้ำแล้ง ป่าหมด ก่อให้เกิดมลภาวะมากมาย ครอบครัว ชุมชน และสังคมอยู่ในสภาพครอบครัวแตกกระจาย ชุมชนล่มสลาย สังคมอ่อนแอ ภูมิปัญญาไทยที่เคยยึดหลักพึ่งตนเองและพึ่งพากันเองสามารถแก้ปัญหาความทุกข์ จนมีความสุขทั้งทางกาย ทางใจ ทางสังคม และทางปัญญา ถูกแทนที่ด้วยภูมิปัญญาตะวันตกที่พึ่งเงิน พึ่งตลาด พึ่งวัตถุ และพึ่งพิงคนอื่น มีชีวิตอยู่กับความสุขระยะสั้น ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสุขภาพ โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2543 ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกเป็นอย่างมากจึงได้เกิดการเดินขบวน (ม๊อบ) มากมาย เช่น ม๊อบข้าว มัน อ้อย ลำไย ยางพารา เป็นต้น สถาบันการเงินกว่า 60 สถาบันโดนยุบภาคอุตสาหกรรมและบริการล้มละลาย และปิดกิจการส่งผลให้แรงงานกว่าล้านคนต้องตกงาน และกลับคืนสู่ชนบทโดยไม่มีหลักประกันใดๆ ให้กับชีวิต
ภายใต้วิกฤติดังกล่าวได้มีเกษตรกรที่เป็นระดับปัจเจกบุคคล ที่มีความศรัทธาต่อแนวทาง“เศรษฐกิจพอเพียง” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รวมตัวกันเรียกว่า “ภูมิปัญญาพื้นบ้าน” ในครั้งแรก และต่อมาเปลี่ยนเป็น “ปราชญ์ชาวบ้าน” เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2538 มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ สำหรับในภาคอีสานนั้นประกอบด้วย พ่อมหาอยู่ สุนทรชัย และพ่อเชียง ไทยดี จากจังหวัดสุรินทร์ ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์, พ่อคำเดื่อง ภาษี, พ่อผาย สร้อยสระกลาง, และพ่อทองหล่อ เจนไธสง จากจังหวัดบุรีรัมย์ พ่อประคอง มนต์กระโทก, พ่อจันทร์ที ประทุมภา จากจังหวัดนครราชสีมา พ่อชาลี มาระแสง จากจังหวัดอำนาจเจริญ พ่อเสริม อุดมนา จากจังหวัดสกลนคร พ่อทัศน์ กระยอม, พ่อผอง เกตพิบูลย์ และพ่อบุญเต็ม ชัยลา จากจังหวัดขอนแก่น เป็นต้น โดย “ปราชญ์ชาวบ้าน” เหล่านี้ได้เปลี่ยนวิธีคิดคิดจากกระแสความคิดเดิมเรื่องการพึ่งเงิน พึ่งตลาด พึ่งวัตถุและพึ่งคนอื่นแต่เพียงอย่างเดียว มาเป็นพึ่งตนเองและพึ่งพากันเองอย่างสมดุลและมีความสุข โดยอาศัยการปรับตัวกับกระแสบริโภคนิยมที่เชี่ยวกรากด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น อาศัยกระบวนการเรียนรู้และการจัดการสู่การพึ่งตนเอง ทำให้ตนเองและครอบครัวมีสุขภาพ คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น กล่าวคือมีปัจจัย 4 ครบ มีหลักประกันในชีวิตทั้งต้นไม้ใหญ่และทรัพย์สิน มีร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง มีครอบครัวที่อบอุ่น มีชุมชนที่เข้มแข็ง มีสิ่งแวดล้อมดี มีอิสรภาพในการคิด พูดและทำโดยไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่น มีความภาคภูมิใจ รวมทั้งเข้าถึงธรรมะและหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าด้วยการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ทั้งระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ และมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม นับว่าเป็นการนำความคิดของบรรพบุรุษมาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม จึงไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจที่ผ่านมา สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข อีกทั้งได้เผยแพร่วิธีคิดต่างๆ ให้กับ ญาติพี่น้อง เพื่อนเกษตรกรด้วยกันเอง ตลอดทั้งลูกหลานของเกษตรกรที่สนใจเพื่อจะได้นำแนวคิดไปปฏิบัติอันจะนำมาซึ่งการพึ่งตนเองและพึ่งพาญาติพี่น้อง และชุมชนต่อไป นอกจากนั้น “ปราชญ์ชาวบ้าน” ยังได้ร่วมคิด ร่วมเรียนรู้ และร่วมทำ ในเรื่องต่างๆ เช่น การตั้งกองทุนภูมิปัญญาชาวบ้านภาคอีสานกระตุ้นให้เครือข่ายของแต่ละศูนย์เรียนรู้จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชนของตนเอง
ครับจากความเป็นมาดังกล่าวอันจะนำไปสู่การทำเกษตรกรรมแบบประณีต ซึ่งจะกล่าวในรายละเอียดตอนที่ 3 ขอความกรุณาช่วยตามไปให้กำลังใจด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
อุทัย อันพิมพ์
ขอบคุณมากครับอาจารย์ ที่แวะมาให้กำลังใจ
อย่างไรก็ตามการทำเกษตรกรรมแบบประณีต คงเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เราคงต้องช่วยกันขับเคลื่อนเพื่อให้ไปสู่ความสำเร็จ นั่นก็หมายความว่าพี่น้องเกษตรกรมีชุดความรู้ที่สามารถปรับวิถีการผลิตให้เข้ากับบริบทของตนเองได้ จนกระทั่งสามารถพึ่งพาตนเอง และเพื่อนบ้านได้
ขอบคุณครับ
อาจารย์อุทัยค่ะ
การวิจัยและพัฒนาเกษตรกรรมแบบประณีต ที่ผ่านมา นอกจากจะเน้นด้านปริมาณ แต่ขาดการจัดการและเชื่อมต่อของระบบการทำการเกษตรและเน้นเรื่องของการปลูกพืชผักเพียงอย่างเดียว ซึ่งคำว่าเกษตรกรประณีตน่าจะเป็นการเกษตรที่สร้างสมดุลให้กับธรรมชาติมากกว่า
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมากครับอาจารย์
อย่างไรก็ตามผมจะพยาสกัดให้ได้เนื้อหามากยิ่งขึ้นครับ
ด้วยความเคารพ
อุทัย