ระหว่างทางเข้าบ้านโต๊ะ (ปู่) มี "ป่ายาง" (พารา) เล็กๆ ผมแปลกใจมากว่าป่ายางตรงนี้ยังมีถึงทุกวันนี้ ที่อื่นเขากลายเป็นสวนยางกันหมดแล้ว แล้ว "ป่ายาง" กับ "สวนยาง" ต่างกันอย่างไร?
ป่ายาง คือ มีต้นยางพาราอยู่ปะปนกับพืชนานาชนิด ที่เป็นพืชประจำถิ่น แต่ต้นยางนั้นเป็นไม้ที่เข้ามาเมืองไทยทีหลัง ป่ายางจึงมีทั้งต้นไม้ที่กินได้หลายชนิด เอาเป็นว่าเวลาเดินเข้าไปกรีดยางในป่ายาง (คนใต้แหลงว่าตัดยาง) ก็สามารถเก็บผัก เก็บหญ้าที่กินได้กลับมาบ้านด้วย
แต่สวนยาง นั้น มีต้นยางพารายืนแถวอย่างเป็นระเบียบ เป็นต้นยางที่เขาว่าเป็นพันธุ์ดีม๊าก...มาก ต้องซื้อจากคนอื่นเอามาปลูก ต้นเดียวกับที่นักการเมืองชอบนั่นแหละครับ สวนยางนั้น เขาไม่ยอมให้ไม้อื่นขึ้น เขาเลยต้องเอายาฆ่าหญ้าไปฉีดคุมเอาไว้ เพราะกลัวว่าต้นอื่นขึ้นแล้วจะไปแย่งอาหารการกินของมัน ดังนั้น ในสวนยางจะหาต้นไม้กินได้ยาก หรือพบก็ไม่น่ากินเพราะเกรงว่าสารตกค้างเยอะ คนที่กลับจากสวนยางก็จะมีน้ำยางอย่างเดียว อาหารการกินก็ต้องขายยาง แล้วค่อยไปซื้อมา
แต่สำหรับต้นยางที่เห็นนั้นเขาหยุดกรีดแล้วครับ แต่ยังไม่โค่นมันทิ้ง เลยมีสภาพอย่างที่เห็นนี่แหละครับ
ผ่านข้างทางเห็นต้นไม้ชนิดหนึ่งในป่ายาง ที่นิยมเอามาทานเป็นกับข้าว ผมเหลือบไปเห็น แต่จำชื่อไม่ได้ว่าเขาเรียกว่าต้นอะไร เลยหันไปถามปะ (พ่อ) ปะบอกว่า "ต้นลำเพ็ง"
ต้นลำเพ็งชอบอยู่บริเวณที่ชุ่มน้ำ ใบมีลักษณะคล้ายๆเฟิร์น ชอบอยู่ตามที่รกทึบ ขึ้นปะปนด้วยไม้ชนิดอื่นด้วย
การเก็บเอามากิน ก็เก็บยอดอ่อนเอามาลวกกระทิ จิ้มน้ำพริกอร่อยนักแล