บทเรียนจากงานลอยกระทง
เมื่อวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายนศกนี้ พยาบาลศูนย์มะเร็งลำปางจัดงานลอยกระทง
ภายในงานมีการเตรียมกระทง ข้าวต้มปลากระพง ลูกชิ้นทอด ไส้กรอกทอด ส้มเขียวหวาน และน้ำเต้าหู้ไว้ให้คนไข้
พยาบาลที่นั่นนอกจากจะทำหน้าที่ดูแลคนไข้อย่างดี และพูดจาดีๆ กับคนไข้แล้ว ยังทำอะไรๆ อีกหลายอย่างที่ผู้เขียนรู้สึกชื่นชม
ตัวอย่าง เช่น ที่โรงพยาบาลไม่มีพระบิณฑบาตผ่านก็จัดหารถ นิมนต์พระมาให้คนไข้ และเจ้าหน้าที่ได้มีโอกาสใส่บาตร ซึ่งทำได้เพียงนานๆ ครั้ง เนื่องจากหาคนขับรถยาก และต้องหารถให้ได้คราวละหลายๆ คัน ทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่ใส่บาตรกันคราวละมากๆ ต้องหารถกระบะบรรทุกของใส่บาตรกลับไปต่างหาก ฯลฯ
ทีมพยาบาลจัดให้คนไข้ได้สวดมนต์เช้า-เย็น ต่อมาคนไข้บอกว่า เดินขึ้นบันไดไปสวดมนต์ไม่สะดวก
ทีมพยาบาลกับห้องประชาสัมพันธ์ก็คิดค้นวิธีใหม่ นำเทปอัดเสียงสวดมนต์ไปเปิดที่หอผู้ป่วย ให้คนไข้ได้พนมมือ หรือนอนฟังเช้า-เย็น
ปีใหม่ 2 ปีที่ผ่านมา...มีพยาบาลใจดีจัดงานปีใหม่ให้คนไข้ มีการละเล่น มีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ที่รับบริจาคจากคนในโรงพยาบาล มีอาหารและเครื่องดื่ม เลี้ยงทั้งคนไข้และพยาบาลบนหอผู้ป่วย
คนที่ไปร่วมงานเล่าถึงคนไข้ส่วนใหญ่บอกว่า สนุกมาก ปีหน้าน่าจะจัดอีก
ผู้เขียนได้ยินแล้วกลับรู้สึกว่า คนไข้(มะเร็ง)หลายคนในงานน่าจะไม่มีปีหน้า ถึงแม้จะมีเพียงปีนี้ พยาบาลที่นั่นก็ได้ทำหน้าที่ต่อคนไข้อย่างดีที่สุดแล้ว...สมกับที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้มีวิชาชีพอันเป็นที่ตั้งแห่งความกรุณาผู้เชี่ยวชาญกลุ่มหนึ่งกล่าวว่า การทำงานบริการมี 3 ระดับ
การแข่งขันในโลกยุคใหม่มีแนวโน้มจะต้องทำให้ถึงระดับที่สามจึงจะประสบความสำเร็จ
พยาบาลศูนย์มะเร็งลำปางน่าจะทำได้ถึงระดับที่สามคือ ทำอะไรที่เหนือกว่าพยาบาลทั่วๆ ไปทำ เช่น บางครั้งเวลาคนไข้ไม่มีค่ารถกลับบ้านก็รวมกันออกค่ารถให้ หาเสื้อผ้าใช้แล้วมาให้คนไข้หน้าหนาว บริจาคเลือดให้คนไข้ ฯลฯ
คนใจดีบางทีก็ถูกหลอก เช่น คนไข้บอกว่าไม่มีเงินกล้บบ้าน พอพยาบาลรวมกันหาค่ารถให้ คนไข้ก็เอาไปซื้อหวย ฯลฯ ดูเหมือนเขาจะเสียใจกันนิดหน่อย แต่ก็ไม่เลิกคิดดี และทำดีต่อไป
ถ้าท่านผู้อ่านมีโอกาสเป็นผู้พิจารณาเงินเดือน หรือค่าตอบแทนให้พยาบาล... ผู้เขียนขอเชียร์ให้เพิ่มเงินเดือนและค่าตอบแทนให้พยาบาลบ้าง โลกจะได้รู้ว่า คนดีควรจะ “ได้อะไรดีๆ” บ้าง...
แหล่งข้อมูล: