"ชาวบ้านตำบลราไวย์ จังหวัดภูเก็ต ร้อง อำเภอ-อบต.ตรวจสอบสถานประกอบการสปาแห่งหนึ่งในพื้นที่ นำศิวลึงค์ขนาดใหญ่มาทำเป็นแนวกำแพงและตกแต่งสถานที่ เชื่อ คนผ่านไปผ่านมามองไม่เหมาะสมเหตุอยู่ติดถนนสาธารณะ ขณะที่นายก อบต.เตรียมประสานสำนักพุทธศาสนา-โรงแรมหารือ" (ข่าวจากผู้จัดการ)
เราเข้าใจความงาม ความเหมาะสม ความเข้าใจบนพื้นฐานของอะไร? และเอาอะไรมาวัดว่าสิ่งที่เขาแสดงออกมานี้เป็นความพิเรนของมนุษย์ยุคนี้
หากเราเข้าใจพื้นฐานของมนุษย์ยุคก่อนหน้านี้ในเรื่องความเชื่อ โดยเฉพาะที่นับถือศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู เราจะทราบว่าการบูชาหรือนับถือศิวลึงค์ (คงไม่ต้องแปลอีกนะครับว่าแปลว่าอะไร)เป็นเรื่องปกติ ศิวลึงค์ถูกสร้างสรรค์ให้เป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระศิวะที่คนนิยมสักการะบูชา มีการจัดพิธีกรรมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และปรากฏศิวลึงค์อยู่ในเทวสถานทุกแห่ง
ขณะเดียวกัน ในปัจจุบันเราเห็นการนำเอาเครื่องบูชา หรือองค์ประกอบในศาสนาพุทธไปใช้ในเชิงธุรกิจหลายประเภทอยู่มากมายเช่นกัน
เราเห็นการจำลองเลียนแบบวัดให้เป็นโรงแรม เห็นพญานาค ตัวสิงห์เฝ้าอยู่หน้าโรงแรม เห็นสัตภัณฑ์ใช้เป็นที่เขี่ยบุหรี่ของแขกที่พัก เห็นหลองข้าว(ยุ้งข้าว)ทำเป็นส้วมของร้านอาหาร เห็นหำยนต์อยู่ในห้องน้ำ เห็นหีบธรรมใช้เป็นเคาเตอร์ เห็นเครื่องดอกสักการะใช้ประดับทางเข้าร้านอาหาร เป็นต้น
หากเราใช้เหตุผลที่ผมเล่านี้ คงจะตอบได้ว่า ภาพที่ท่านเห็นนี้เป็นความงาม ความเหมาะสม ความเข้าใจหรือความพิเรน ยกเว้นว่าจะยกเหตุผลหรือมิติของอะไรมาเล่าให้กันฟัง