เช้าวันนี้ขณะขับรถเดินทางไปที่สถานีอนามัย(เอารถไปเองครับวันนี้) ได้มีเพื่อร่วมทางตัวน้อย 2 คนไปด้วย คือน้องๆ นศพ. จาก PSU ปี 5 ครับ ขณะเดินทางที่ใช้เวลาเกือบชั่วโมงก็คุยกัยเรื่อยๆหลายเรื่อง แต่มีเรื่องหนึ่งที่ผมได้เล่าให้น้องฟังคือ เรื่องราวของชีวิตก่อนที่จะมาเป็นหมอครับ....
เริ่มต้นด้วยการเกิดมาในครอบครัวชาวนาบ้านนอกที่ยากจน มีชีวิตในวัยเด็กแบบเด็กบ้านนอกทั่วไปครับ คือ การฝึกทำนา การเลี้ยงควาย การหาอาหารตามทุ่งนา ป่าละเมาะ ทั้งกลางวันและกลางคืน มันเป็นทักษะชีวิตที่มีครบถ้วนสมบูร์ คือแค่เพียง10 ขวบ ก็จบหลักสูตรชาวนาแล้วครับ คือทำเป็นทุกอย่างทั้ง ไถ ดำ หวาน ขุดดิน ปั้นคันนา เกี่ยว มัดและตี่ข้าว และเด็กชายคนหนึ่งก็เรียนหนังสือในหลุกสูตรภาคบังคับด้วย ก็จบป. 6 ที่ โรงเรียนประจำหมู่บ้านครับ
หลังจบป.6 แม่ก็ติดต่อให้ไปทำงานรับจ้างแถวกรุงเทพกับอาแล้วละนะ แต่ว่าตอนนั้นเพื่อนๆที่จบ ป.6 ด้วยกัน เขาไปสมัครเรียนต่อที่ โรงเรียนขยายโอกาส ซึ่งมาเปิดไกล้ๆบ้าน ( 8 กม.) ไม่เสียค่าเรียนมาก ไปกลับได้ครับ จึงตัดสินใจคิดขบถต่อการตัดสินใจของแม่ ขอหยิบตางในกระเป้าผ้าซิ่นโดยที่ไม่บอก และขี่จักกระยานไปสมัครเรียนกับเขา และก็มาขอแม่ทีหลังครับ
การเรียนที่ รร ขยายโอกาสนั้นในปีแรกโชคดีที่ได้อาจารย์จากโรงเรียนประจำอำเภอมาสอนก่อน ทำให้เราได้เรียนรู้หลายๆอย่างเท่าเทียมนักเรียนประจำอำเภอ แต่หลังจากที่ได้ย้ายไปเรียนที่อาคารเรียนชั่วคราวที่พวกเราเหล่านักเรียนรุ่นแรกของโรงเรียน(รุ่นบุกเบิก) ร่วมกันไปตัดไม้ไฝ่เพื่อมาช่วยกันสร้าง ส่วนมากเราก็ไม่ค่อยได้เรียน ได้แต่ช่วยกันขุดดิน ปลูกต้นไม้ รดน้ำต้นไม้ จนถึงม.3 เราถึงได้อาคารถาวร จึงได้เรียนบ้าง ตอนที่เรียนก็ได้รับค่าอาหารกลางวัน 1-3 บาทต่อวันครับ(ปี36) ก็จะห่อข้าวกับไข่เป็ดต้มที่ๆบ้านเลี้ยงไว้ แล้วมาซื้อส้มตำมะละกอถุงละ 1 บาท ตอนนั้นอร่อยมากครับ สรุปแล้วตอนมอต้น ก็เรียนบ้าง เล่นบ้างช่วยพ่อแม่ทำนาตลอดอยู่ถ้ามีเวลา มีเรื่องราวอีกมากมายแต่ที่ประทับใจก็คือเป็นคนที่เรียนได้เกรดดีติด1ใน3ของสายชั้น และทำกิจกรรมนักเรียนมาก ทำให้ได้รู้จักคุณครูและเรียนรู้อะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะการเข้าค่ายต่างๆ
เป็นเรื่องเล่าบางส่วนที่เล่าให้มิตรต่างวัยฟังครับ
Kmsabai**
ไม่มีความเห็น