ผมเคยมีสัมผัสโดยตรงกับสภาวิชาการในมหาวิทยาลัย ๓ แห่ง คือ มหิดล, มวล., และ มอ.
ผมคิดว่ามอ. ใช้สภาวิชาการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางวิชาการ โดยเฉพาะการเรียนการสอนได้เก่งที่สุด
ใช้เป็นกลไกสร้างเงื่อนไข/มาตรฐานวิชาการ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกเป็นแรงหนุน หรือแรงค้ำ การขับเคลื่อนคุณภาพวิชาการบางด้านทำได้ไม่ง่าย เพราะอาจารย์มหาวิทยาลัยมีความเป็นตัวของตัวเอง (individualism) สูง การจัดการคุณภาพวิชาการจึงไม่ใช่ของง่าย มีบ่อยมากที่คุณภาพวิชาการมีอยู่เพียงในกระดาษ
สภาวิชาการของ มอ. มีอธิการบดีเป็นประธาน รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษาเป็นรองประธาน รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการเป็นกรรมการและเลขานุการ มีผู้แทนสภาอาจารย์เป็นกรรมการ ผู้บริหารระดับรองอธิการบดีและคณบดีจำนวนหนึ่ง เป็นกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก ๑๐ คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากผู้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ภายในมหาวิทยาลัย ๓ คน
ผมมองว่า สภาวิชาการ มอ. "ชง" เรื่องเข้าสู่ที่ประชุมเก่ง อธิการบดีทำ PowerPoint ใส่ Notebook มานำเสนอภาพใหญ่ในแต่ละประเด็น อย่างน่าประทับใจมาก
ผมชื่นชมว่า ผู้บริหารของ มอ. มีความตั้งใจในการใช้สภาวิชาการเป็นเครื่องมือในการบริหารวิชาการของมหาวิทยาลัยอย่างแท้จริงและแข็งขัน
ผมขอแสดงความชื่นชมท่านอธิการบดี รศ.ดร.บุญสม ศิริบำรุงสุข
วิจารณ์ พานิช
๗ ม.ค. ๕๐
ไม่มีความเห็น