คำพุดที่เอ่ยจากปากนั้น ใครจะพูดอย่างไรมากน้อยแค่ไหนก็ได้
แต่เมื่อเวลาผ่านไป คำพูดที่เอ่ยออกมานั้น หายไปกับสายลม หรือยังอยู่ในความทรงจำของคนอื่นหรือเปล่า
คำพูดที่ไม่ไร้ค่าตามกาลเวลานั้น มีคนนิยามไว้ว่า
1. สามารถเขียนได้
2. สามารถบันทึกเก็บไว้ได้
3. สามารถส่งต่อ สื่อสารต่อไปยังบุคคลอื่นๆได้
4. สามารถจรรโลงใจ จรรโลงสังคม เติมเต็มสมอง
ทั้ง 4 ข้อนี้ เป็นอย่างไร
1. คำพูดที่สามารถเขียนได้ ความจริงแล้ว ถ้าเอากระดาษมาจดทุกคำพูดที่กล่าวออกมา ก็เขียนออกมาได้ทั้งนั้น
.... แต่คุณจะเขียนทุกคำพูดที่กล่าวออกมาหรือไม่
..ตั้งแต่ตื่นนอน จนถึงเข้านอนในแต่ละวัน คุณพูดทั้งหมดกี่ประโยค
...แล้วมีกี่ประโยคที่ถูกเขียนไว้
ถ้ามันไม่มีคุณค่า ไม่สำคัญจริงๆ คงไม่มีใครหยิบกระดาษมาเขียนคำพูดนั้นเอาไว้
เพราะตลอดทั้งวัน คุณพูดหลายอย่างออกจากปาก
2. คำพูดที่สามารถบันทึกเก็บไว้ได้ ... บันทึก ต่างจากเขียน เพราะเขียนเป็นการใช้มือจับปากกา ดินสอจดข้อความนั้น
แต่บันทึก ทำได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่การใช้เครื่องบันทึกเสียง การพิมพ์ข้อความในคอมพิวเตอร์ และการเขียน ก็เป็นส่วนหนึ่งของการบันทึก
เทคโนโลยียุคใหม่ ทำให้สะดวกในการบันทึกเสียง คำพูดต่างๆ
คุณจะอัดเสียงใคร ตอนไหนได้ทุกเวลาที่ต้องการ...
.... แต่คุณจะเก็บเสียงนั้นไว้นานแค่ไหน เก็บไว้แล้ว จะนำมาเปิดฟังอีกครั้งหรือไม่
เพราะข้อมูลสารสนเทศมีมากมาย หลายท่านบันทึกเก็บไว้เต็มไปหมด
แต่ก็ไม่เคยนำกลับมาเปิดฟังอีกครั้ง หรือนึกไม่ออกแล้วว่า เสียงที่บันทึกนั้น เก็บไว้ที่ไหน
3. สามารถส่งต่อ สื่อสารต่อไปยังบุคคลอื่นๆได้..มีคำพูดมากมาย ที่ถูกเขียน ถูกบันทึกไว้
สิ่งนั้นอาจจะมีค่าสำหรับคุณ...
....แต่สำหรับคนอื่น ไม่ใช่
แม้จะบันทึกคำพูดนั้นไว้ และส่งต่อให้คนอื่นรับรู้
หากข้อมูลนั้น ไม่มีคุณค่า ย่อมไม่มีใครทนนั่งฟัง หรืออ่านจนจบ4. สามารถจรรโลงใจ จรรโลงสังคม เติมเต็มสมองเนื่องมาจากข้อที่ 3
... หากคนอื่นรับรู้ข้อมูลที่เขียนหรือบันทึกนั้นไว้แล้ว ประทับใจ ชื่นชอบ ตอบสนอง
.... ย่อมแสดงว่า ข้อมูลนั้น มีคุณค่า ให้ความรู้ เติมเต็มสมอง จรรโลงใจ จรรโลงสังคม
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
คำพูดนั้น ย่อมจะไม่ไร้ค่าตามกาลเวลาที่ผ่านไป