รีวิว ล็อคเป้าตาย ค่าไถ่หยุดโลก: The Point Men (2023)


รีวิว ล็อคเป้าตาย ค่าไถ่หยุดโลก: The Point Men (2023) เรื่องราว วิกฤตการณ์ช่วยเหลือตัวประกันสร้างจากเหตุการณ์จริง ของนักการทูตและเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ ร่วมทำภารกิจ ช่วยเหลือตัวประกันเกาหลีใต้จากกลุ่มตาลีบัน

ดูคลิปรีวิวที่นี่ 

หนังได้เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องหลังจากเหตุการณ์ 911 หรือวันที่ 11 กันยายนปี 2001ที่กลุ่ม กลุ่มอัลกออีดะฮฺ์ นำโดยอุสมาบินลาดินออกมาแสดงความรับผิดชอบพี่ตนได้ทำการก่อการร้ายโดยการ บังคับเครื่องบินพาณิชย์จู่โจมสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และตึกเพนตากอน จุดนี้จึงทำให้สหรัฐอเมริกาตัดสินใจนำกำลังทหารเข้าสู่ประเทศอัฟกานิสถาน ทำให้มีประเทศร่วมอุดมการณ์เข้าร่วมปฏิบัติการถึง 38 ประเทศ หนึ่งในนั้นคือประเทศเกาหลีใต้ที่ส่งกองกำลังไม่ทราบหน่วยเข้าไปร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ หลังจากที่กลุ่ม อัลกออีดะฮฺ์ แล้วกลุ่มของตาลีบันสูญเสียอำนาจให้กับรัฐบาลหุ่นที่ตั้งโดยสหรัฐอเมริกา กลุ่มตาลีบันก็ได้เลิกวิธีต่อสู้โดยการใช้ระเบิดพลีชีพมาเป็นการจับตัวชาวต่างชาติเป็นตัวประกัน เพื่อใช้ในการเรียกค่าไถ่ เป็นเครื่องต่อรองในการเรียกร้องข้อเสนอต่าง ๆ ต่อรัฐบาลอัฟกานิสถาน

วันที่ 19 กันยายน ปี 2006 มิชชันนารีชาวเกาหลีใต้ 23 คน ที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เดินทำงานเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในจังหวัดซาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน แล้วถูกกลุ่มตาลีบันจับเป็นตัวประกัน โดยมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลเกาหลีใต้ว่า จะต้องถอนกำลังทหารที่ปฏิบัติการในอัฟกานิสถานทั้งหมด และรัฐบาลของอัฟกานิสถานจะต้องปลดปล่อยนักโทษตาลีบัน ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ทำให้หัวหน้า ทีมเจรจาต่อรองของกระทรวงการต่างประเทศ ต้องเดินทางไปยังประเทศอิรัก โดยการนำตัวชายหน่วยข่าวกรอกของเกาหลีใต้ที่แฝงตัวอยู่ในอิรักมาช่วยแก้ไขวิกฤตการณ์ช่วยเหลือตัวประกัน แต่หลังจากที่เจรจาต่อรองกับประธานาธิบดีของอัฟกานิสถานแล้ว กลับกลายเป็นว่าอัฟกานิสถานไม่มีนโยบายปล่อยตัวนักโทษของตาลีบันเด็ดขาด เนื่องจากกลุ่มตาลีบันนั้นเป็นภัยคุกคามต่อรัฐบาลอัฟกานิสถานและสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ดังนั้น รัฐบาลเกาหลีใต้หัวหน้าทีมเจรจาต่อรองและหน่วยข่าวกรองจะต้องปฏิบัติการนี้เพียงลำพัง พวกเขาจะต้องเจอสถานการณ์มากมาย เจอกันหลอกลวง การนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์ที่ไม่สนเรื่องความปลอดภัยในชีวิตของตัวประกัน และต้องใช้ผู้คนที่เกี่ยวข้องและขำนาญในพื้นที่เข้ามาช่วยเหลือ และก็ต้องกระทำอย่างรวดเร็วภายใต้สถานการณ์ที่บีบบังคับโดยแข่งกับระยะเวลานาทีต่อนาที ปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันชาวเกาหลีใต้นั้นจะสำเร็จลุล่วงไปได้หรือไม่ และทีมช่วยเหลือนั้นจะต้องประสบปัญหาด้านใดบ้างและจะมีความเข้มข้นอย่างไรขอเชิญให้ทุกท่านติดตามรับชมต่อได้ทาง Netflix เลยครับ

รีวิว ล็อคเป้าตาย ค่าไถ่หยุดโลก: The Point Men ภาพยนตร์แอ็คชั่นระทึกขวัญอาชญากรรมของเกาหลีใต้ ออกฉายปี 2023 กำกับโดย อิมซุนรเย และนำแสดงโดย ฮวางจองมิน แสดงเป็นเจ้าหน้าที่ต่อ และ ฮยอนบิน รับบทเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง ภาพยนตร์ที่ได้แรงบันดาลใจในการสร้างจากเหตุการณ์จริงวิกฤตการณ์ตัวประกันชาวเกาหลีใต้ในอัฟกานิสถานในปี 2006

แม้ว่าจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับปฏิบัติการช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ที่ถูกชาวตาลีบันจะเป็นตัวประกัน แต่ด้วยความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง ทางทีมสร้างก็ได้เพิ่มสถานการณ์แทรกเข้าไปในหนังให้เราคอยลุ้นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการแสดงถึงความไม่ปลอดภัยในประเทศอัฟกานิสถาน ที่มีการก่อการร้ายเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

ให้ผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่และล่ามไปต่อรองกับเผ่าหนึ่งที่มีอำนาจสูงสุดเผ่าหนึ่งในอาฟกานิสถานช่วยเหลือ ดูเหมือนว่าจะช่วยได้ในเบื้องต้น แต่สำนักข่าวของทางเกาหลีใต้เองกลับนำเสนอข่าวว่านักโทษ 23 คนที่ถูกจับตัวไปนั้นหาใช่นักท่องเที่ยวธรรมดาไม่ แต่เป็นกลุ่มคนที่ต้องการเข้าไปเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในอัฟกานิสถาน และเมื่อมีข่าวแพร่กระจายออกไปในพื้นที่จึงทำให้ผู้ที่ช่วยเหลือรับไม่ได้จึงทำการปฏิเสธไม่ช่วยเหลือ เพราะนั่นคือสิ่งผิดหลักการต่อประเทศชาติที่ ทั้งประเทศนับถือศาสนาอิสลาม

การที่มีนายหน้าชาวต่างชาติที่อ้างตนว่าสามารถเข้าแทรกแซงการจับตัวประกันชาวต่างชาติของชาวตาลียันได้โดยที่มีเงินแลกเปลี่ยนจำนวนมาก  ซึ่งแน่นอนว่าในสถานการณ์ที่บีบคั้นทางเกาหลีใต้จำเป็นจะต้องช่วยเหลือนายหน้านักต่อรองคนนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเกาหลีใต้ก็ถูกหลอก

และปฏิบัติการนี้ก็อยู่ภายใต้ที่สถานการณ์ละเอียดอ่อน โดยทางเกาหลีใต้เองจะต้องไม่แสดงให้ชาวโลกได้เห็นว่าตนนั้นยอมทำตามข้อตกลงของผู้ก่อการร้าย ทางเกาหลีใต้ต้องแสดงความเข้มแข็งให้โลกรู้ว่าตนเองนั้นซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์ของฝ่ายเสรีนิยม ที่นำโดยสหรัฐอเมริกาเพื่อภารกิจในการปลดปล่อยชาวอัฟกานิสถานจากกลุ่มตาลีบันเป็นต้น

แสดงถึงการประชดประชัน การเข้ามาของผู้หลักผู้ใหญ่แทนที่จะช่วยแก้ไข ปัญหาให้มันดีขึ้นกับกลายเป็นว่าสร้างปัญหาให้เลวร้าย

การรักษาสมดุลของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของรัฐบาลเกาหลีกับรัฐบาลอาฟกันนิสถาน การปฏิบัติการที่ต้องกระทำภายใต้สถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนโดยมีชีวิตของผู้คนเป็นเดิมพัน หากทางอัฟกานิสถานช่วยเกาหลีใต้ก็เหมือนกับว่าตัวเองนั้นเปิดทางให้ตาลีบันเถลิงอำนาจในประเทศเกินไป

ทั้งหมดจึงเป็นงานยากที่ทำให้ทีมช่วยเหลือตัวประกันไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้อย่างรวด

แต่อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวมองว่าหนังเขายังไม่ทำให้เราได้ลุ้นไปตามสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีเท่าที่ควร และเนื่องจากมีเหตุการณ์ที่สอดแทรกเข้ามามากมายมันเลยทำให้เรานั้นไม่ได้อินหรือรู้สึกไปกับเหตุการณ์ต่าง ๆ นั้นสักเท่าไหร่ แถมเหตุการต่าง ๆ เหล่านั้นมันก็ผ่านไปได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วจนเกินไปด้วยซ้ำ และจุดนี้ถือว่าเป็นจุดใหญ่มากที่ทำให้หนังควรจะเป็นหนังระทึกขวัญ ควรจะเป็นหนังที่บีบคั้นอารมณ์คนดู กลับกลายเป็นว่าหนังไม่ได้สร้างให้เรารู้สึกว่าไปแตะในจุดระทึกขวัญหรือบีบคั้นอารมณ์นั้นเลย ก็เลยพลอยทำให้หนังดังนี้ไม่สนุกเท่าที่ควรจะเป็น

ส่วนในด้าน Production นั้นก็ต้องยอมรับว่าเกาหลีใต้เขาไปไกลระดับโลกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฉาก เรื่องของโลเคชั่นในการถ่าย เรื่องของเสื้อผ้าหน้าผม หรือการสร้างบรรยากาศให้เรารู้สึกว่าเหมือนเข้าไปอยู่ในอัฟกานิสถานนั้นมันสมจริงมาก ดังนั้นในด้าน Production นี้ก็ต้องยอมให้กับเกาหลีใต้จริง ๆ รวมถึงพลังดาราที่มารับบทนำก็สร้างให้กับหนังไม่น้อย

เอาเป็นว่าถ้าใครชอบเรื่องราวเกี่ยวกับปฏิบัติการทางการทหารความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการช่วยเหลือทุกประการภายใต้สถานการณ์ ที่ใช้เวลาอันจำกัดมากดดันแล้วละก็น่าจะสนุกกับหนังได้ไม่ยากนัก

7/10 
@วาทิน ศานติ์ สันติ

Super Review Channel 
#ล็อคเป้าตายค่าไถ่หยุดโลก
#ThePointMen2023

หมายเลขบันทึก: 713168เขียนเมื่อ 13 มิถุนายน 2023 20:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2023 20:29 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท