หัวใจสำคัญของการศึกษาทางประวัติศาสตร์มักเกี่ยวข้องกับเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร ตัวอย่างเช่นกฎหมายของรัฐบาล สนธิสัญญา บันทึกของศาล บันทึกส่วนตัว จดหมาย อาทิ บันทึกประจำวันของแอนน์ แฟรงค์ ซึ่งเขียนขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้น
สิ่งประดิษฐ์ซึ่งเป็นวัตถุทางกายภาพในอดีต เป็นหลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร หากมีอายุ 100 ปีขึ้นไป เรียกว่า โบราณวัตถุ นำเสนอให้เห็นถึงวิถีชีวิตผู้คนในยุคต่างๆ เช่น เครื่องมือ เครื่องปั้นดินเผา เสื้อผ้า และเครื่องประดับที่ขุดพบจากการขุดค้นทางโบราณคดี สามารถชี้ให้เห็นถึงชีวิตประจำวัน ประเพณี และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้ ตัวอย่างเช่น เครื่องปั้นดินเผาและเครื่องมือสำริดจากแหล่งบ้านเชียงในประเทศไทย เป็นต้น
อาคารและโครงสร้างสถาปัตยกรรมในอดีต เป็นหลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร หากมีอายุ 100 ปีขึ้นไป เรียกว่าโบราณสถาน ไม่ว่าจะเป็นความยิ่งใหญ่ของโคลีเซียมโรมัน ความยิ่งใหญ่ของพีระมิดแห่งอียิปต์ หรือความงามอันซับซ้อนของทัชมาฮาล ล้วนให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความยิ่งใหญ่ทางสถาปัตยกรรม โครงสร้างทางสังคม และอารยธรรมทางประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์จากปากเปล่าหรือการบันทึกเรื่องเล่าโดยตรงและมุมมองของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่มักจะสืบทอดกันมาจากหลายชั่วอายุคน มีทั้งเป็นหลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรและหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรด้วย ตัวอย่างเช่น ประวัติศาสตร์ปากเปล่าของชาวอะบอริจินในออสเตรเลียได้รักษามรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนานของพวกเขาให้คงอยู่
แหล่งภาพทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ถือเป็นหลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร เช่น ภาพถ่าย ภาพวาด ประติมากรรม หรือแผนที่ สามารถให้ข้อมูลมากมายของช่วงเวลาที่สร้างภาพนี้ขึ้น เช่น ภาพถ่ายของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะเสด็จประพาสยุโรป เป็นต้น
สุนทรพจน์ ดนตรี การออกอากาศทางวิทยุ และการบันทึกเสียงอื่นๆ สามารถนำเสนอภาพรวมผ่านรูปแบบของการได้ยินในยุคใดยุคหนึ่งได้ เป็นหลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ตัวอย่างเช่น สุนทรพจน์ "I Have a Dream" ของ Martin Luther King Jr. เป็นหลักฐานทางเสียงที่โดดเด่นจากการขับเคลื่อนด้านสิทธิพลเมือง
บันทึกต่างๆ เช่น ข้อมูลสำมะโนประชากร ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ ข้อมูลภูมิอากาศ หรือบันทึกด้านสาธารณสุข สามารถให้หลักฐานเกี่ยวกับแนวโน้มและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ได้ เป็นหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร ตัวอย่างเช่น ข้อมูลการสำรวจสำมะโนประชากรจากช่วงเวลาต่างๆ สามารถแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของประชากรในช่วงเวลาหนึ่ง
ในยุคดิจิทัล อีเมล บล็อก โพสต์บนโซเชียลมีเดีย ภาพถ่ายดิจิทัล และบันทึกอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เป็นหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร ทำหน้าที่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โดยให้ข้อมูลเหตุการณ์แบบเรียลไทม์ เช่น เว็บไซต์ GotoKnow.org ให้บริการบล็อกเพื่อบันทึกประสบการณ์ความรู้ของผู้คนเก็บประวัติศาสตร์เพื่อคนไทย
ฟุตเทจของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ สารคดี และแม้แต่ภาพยนตร์ที่แต่งขึ้นจากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอดีต เป็นหลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ตัวอย่างเช่น ภาพการลงจอดบนดวงจันทร์ในปี 1969
ของใช้ในชีวิตประจำวันของบุคคลในอดีตสามารถบอกเราเกี่ยวกับชีวิตและช่วงเวลาที่พวกเขาอาศัยอยู่ได้ เสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน หรือทรัพย์สินส่วนตัว เป็นหลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร เช่น จดหมายและบันทึกประจำวัน สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ได้อย่างดี
ไม่มีความเห็น