เมืองงอยคอยท่า : หาตั๋วรถไฟไปหลวงพระบางกัน


ฉันได้ยินชื่อเมืองงอยจากเอนกที่ไปแต่งงานกับนางต๊อด  สาวชาวลาว พี่มีพื้นเพเป็นคนเมืองงอย  ครั้งนั้นน่าจะ 11 ปีได้  ฉันอยากไปมาก

เมื่อรู้จักชื่อเมืองงอย ความอยากไปและพลาดโอกาสไปด้วยภาระหน้าที่  ทำให้ได้แค่ปักหมุดไว้ในแผน  เมืองงอยเป็นเมืองทางเหนือของลาว  อยู่เหนือหลวงพระบางไปสัก 3 ชม. (รถโดยสาร) นักท่องเที่ยวจะรู้กันดีในแหล่งท่องเที่ยวที่ยังเป็นธรรมชาติ คือ หนองเขียว-เมืองงอย  ซึ่งเมืองงอยนี้ก็อยู่ห่างหนองเขียวไปอีกประมาณ 1 ชม.

สิงหาคม  2565 ฉันไปลาวด้วยรถไฟความเร็วสูง EMU การเดินทางสะดวกสบายมาก  แต่ด้วยสังขารและวัยที่เพิ่มขึ้นในทุกปี...ฉันออกปากเลยว่า เค้าคงไม่ถึงแล้วหล่ะเมืองงอย เหนื่อยเดินทาง...แต่หลังจากนั้นอีก 3 เดือนเพื่อนเอนกก็โพสต์ FB ว่ากำลังทำที่พักแนว Farmstay ที่เมืองงอยหากใครต้องการเปลี่ยนบรรยากาศมาใช้ชีวิตแบบ Slow life มาได้เล้ยยย ที่พักพร้อมห้องน้ำพร้อม ทำเอาฉันเปลี่ยนแผนจากที่ปีใหม่ต้องกลับไปใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวทุกปี  เป็นว่าปีใหม่ปี 2566 ฉันจะไปเมืองงอย  

ไม่ไปปีนี้ ปีหน้าก็แก่ขึ้น…จะรอให้แก่ไปถึงไหน เดี๋ยวไปหานะเอนก

แพลนการเที่ยว 6 วันไว้ก่อน เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้กรณีหาตั๋วรถไฟไมได้อีก 1 วัน  รวม 7 วัน

ชีวิตคนทำงานก็มีกรอบ เป็นประการหล่ะฉะนี้

ปัญหาของทริปเมืองงอยนี้คือเพิ่งตัดสินใจและเคลียร์คิวก่อนเดินทาง 5 วัน  ฉันหาตั๋วรถไฟไม่ได้ ทำให้วางแผนอะไรไม่ได้เลย  เอเจนซี่ไทยรับซื้อตั๋วล่วงหน้า 7 วัน เค้าขออนุญาตไม่รับบริการฉัน ฉันต้องไปหาตั๋วที่เวียงจันทน์เอง

Day 1 ตัดสินใจเลิกงานปุ๊บข้ามด่านไปหาตั๋วที่เวียงจันทน์ จอดรถไว้ที่ฝากรถก่อนข้ามด่าน

นั่งรถเมล์ระหว่างประเทศข้ามไปด่านลาว คิดในใจยังงัยวันนี้คงต้องเหมารถกันแน่ๆ มันเริ่มเย็นแล้ว

เปลี่ยนซิมเสร็จ เหมารถไปสถานีรถไฟและเข้าเมืองในราคา 500 บาท  ให้รถพาไปดูตั๋วรอบเย็นที่สถานีรถไฟ  แต่ต้องรออีกประมาณครึ่งชม. ถึงจะเป็นเวลาขายตั๋ว  และแถวรอซื้อก็ยาว   อ้อ  จะซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีหน่ะรับเงินกีบนะจ๊ะ…ฉันก็กะยืมคนขับแหล่ะ เลี้ยงน้ำคนขับแก้เขินที่ยืมเงินเค้า  แก้วละ  65  บาทแหน่ะ ฉันเริ่มถามคนขับรถช่วยหาคน ฝากคนซื้อตั๋วให้หน่อย (ธค. 65  สถานีรถไฟขายตั๋ว 3 รอบ  เปิดขายตั๋วเป็นรอบ ๆ ดังนี้ 6:50-10:00 , 14:30-16:30 และ 20.00-22:00) 

ตอนแรกฉันตั้งใจว่าหากซื้อตั๋วไม่ได้จะมาใหม่พรุ่งนี้เช้า อย่างน้อยน่าจะได้ตั๋วรถรอบบ่าย แต่พอเจอเอเจนซี่ลาวรับซื้อตั๋ว+100 บาทต่อใบ อยู่แถวๆ รถขายกาแฟดาวในลานจอดรถ บริการนี้ไม่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้า ซื้อแล้วเอเจนซี่จะ Tag ตั๋วให้ดูทางไลน์ หรือ whatsapp เรารับตั๋วที่หน้าสถานีแล้วค่อยจ่ายเงิน...ฉันเลยใช้บริการซื้อตั๋วทั้งขาไปและขากลับ

ราคารถเหมานี้รวมพาไปส่งพักแถวๆถนนคนเดิน จอดรถให้ดูน้ำพุเต้นระบำที่ประตูชัย กลับจากสถานีรถไฟเข้าเมืองก็เกือบจะ 2 ทุ่มแล้วค่ะ

มีคนซื้อตั๋วให้ก็สบายใจแระ โปรเจกค์ต่อไปคือการหาที่พักกันแถวๆ ถนนคนเดิน  คนขับรถจอดส่งที่หน้า Memory Hotel   น้องคนขับบอกว่าพี่ไม่พอใจไปดูที่อื่นก็ได้นะ เอาก็เอาวะ แค่นอนหน่ะ  เคยใช้แบบหาไปเรื่อยของที่เจอดีไม่เท่าอันแรก เอาเวลาไปเดินช้าๆดีกว่า

สาธุพรุ่งนี้ให้ได้ตั๋วเถอะจะได้มีเวลาเลาะเมือง…หลายคนถามทำไมไม่ไปซื้อที่ ที่ห้างเวียงจันทน์เซ็นเตอร์ ซึ่งจะประหยัดค่ารถที่จะออกไปสถานีรถไฟ…ก็ฉันข้ามด่านไปค่ำแล้ว  ไม่ชัวร์ว่าที่ห้างขายถึงเวลาเท่าไหร่ ฉันว่าเวลาทำการลาวกับไทยมีความแตกต่างกัน ไปสถานีรถไฟมั่นใจกว่า

สภาพห้องที่พักไม่โอเท่าไหร่ ราคา 700 (แพงอ่า) ไม่มีอาหารเช้า  แต่มี 3 เตียง 5555 เหตุเพราะฉันเลือกห้องด้านล่าง เพราะไม่มีลิฟต์ กระเป๋าฉันหนักเพราะแบกของไปแจกเด็กๆ ที่เมืองงอยด้วย เค้าเลยคิดราคา 3 คน  ฮร่าาาา   ปกติฉันชอบโรงแรมสวยๆ แต่นักท่องเที่ยวก็งี้หล่ะ  แค่นอนหน่ะ สะอาดยุนะ แต่ผ่านการใช้งานมามาก  และเนื่องจากเป็นชั้นล่างการระบายอากาศยังไม่โล่งโปร่งสบาย

ในซอยแถวที่พักมีร้านสวยๆ ให้นั่งดื่ม นั้งกิน ชิลไป เป็นที่พักด้วย

ข้อดีที่นี่คือ อยู่ในถนนคนเดิน ที่กินที่เที่ยว  วัดวาอาราม เดินสบาย  ที่แลกเงิน รถเช่ารถเหมา  

วันที่ไปเป็นวันหวยลาวออก ขายถึง 2ทุ่ม ฉันเสี่ยงโชคดูถ้าถูกจะแบ่งคนขายและคนขับรถ

หลักฐานการซื้อหวย  ค่ำนี้รวย!!!

บรรยากาศริมโขงย่านถนนคนเดิน มีของกิน  ของช้อป ของเล่น

เดินเหนื่อยก็หาของกิน เดินไปเห็นก๋วยจั๊บคนเวียดเข็นขาย  จัดมา 1 ถ้วย  น้องๆชาวลาวให้คำแนะนำในการยืนกิน และระหว่างการกินก็ได้ ลม (ภาษาลาว  บางทีลากเสียงยาว เป็น โลม)-แปลว่าพูดคุยกัน  เป็นช่วงเวลาดีๆ ของการท่องเที่ยวที่ได้พูดคุยกับคนท้องถิ่น

ถ้วยละ 20  บาทคร้าทู้กกกคน…ถูก อิ่ม อร่อย

ฉันยังเดินเล่นต่อไปเรื่อยๆ  อากาศเย็นสบายดี กลัวหิวตอนดึกๆก็ไปจัดสปาเกตตี้อีกจานและน้ำมะพร้าว  รวมอาหาร 2 จุดก็ 230 บาทมั้งน่าจะประมาณนี้ แถวๆ ที่พักมี Rooftop Bar ด้วย  

 

Day 2 ตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมความสลด เพราะฉันไม่ถูกหวยอ่ะนะ ตื่นค่อนข้างสายเพราะมะคืนกว่าจะนอนก็เดินเล่นอยู่นานเอาการ  มัวนั่งโง่ๆ เฝ้ามองผู้คนที่เดินผ่านไปมา ชมพระจันทน์ และมองข้ามโขงกลับไปฝั่งไทย แค่น้ำโขงกั้น 

เกือบ 10 โมง เอเจนซี่ไลน์มาบอกว่าได้ตั๋วสำหรับฉันแระ สบายใจฉันแล้ววว ถ้าไม่ได้ฉันคงต้องเชคเอ้าท์ออกจากโรงแรมและไปหาตั๋วที่สถานีรถไฟ

เริ่มโปรแกรมการท่องเที่ยวในเวียงจันทน์ ในย่านที่ฉันไม่เคยมา อ้อ สมัย 15 ปีก่อนมาหารถตู้นักท่องเที่ยวไปวังเวียง และเคยแวะกินข้าวที่หลายขอบใจเด้อแค่นั้นเอง  

ฉันเริ่มต้นโปรแกรมด้วย Brunch เป็นข้าวจี่ปาเต๊ะและกาแฟคั่วโบราณ เป็นร้านคนเวียด  ราคา 62 บาทประมาณนี้ ถู้กกมาก อร่อยด้วย ต้องจ่ายด้วยเงินไทย ตลอด…เพราะที่ด่านลืมแลกเงินกีบไว้

อิ่มแล้วไปหาแลกเงิน 

และเดินเล่นเลาะวัดต่างๆ ได้สัก 2-3 วัด ที่อยู่ใกล้ๆ กัน มีวัดองค์ตื้อหล่ะวัดนึง ที่เหลือจำชื่อวัดไม่ได้

ถือเป็นมงคลที่ได้ไหว้พระทำบุญทำกุศลในช่วงสิ้นปี  ขออนุโมทนาสาธุแก่ท่านผู้อ่านและกัลยาณมิตรทุกท่าน

เดินต่ออีกหน่อยไปทางวงเวียนน้ำพุและธาตุดำ มะวานนั่งรถผ่านมีร้านบรรยากาศดีๆ หลายร้านทีเดียว 

แวะพักขาที่ร้านกาแฟน่านั่ง  ชื่อ That Dam Wine House  ตรงข้ามกับธาตุดำเลย เบอเกอรี่อร่อยค่ะ มีอาหารขายด้วย

จิบกาแฟไป ควักมือถือมาค้นที่พักในหลวงพระบางไป  whatsapp ทักที่พักไปเพื่อจัดการจองที่พักสำหรับคืนนี้ 

มีเวลาเหลือได้นั่งอ่านหนังสือเล่น  จัดกาแฟซ้ำไปอีกแก้ว  ทำเอาไม่หิวข้าว ร้านยังไม่มีลูกค้า น้องๆเด็กเสริฟ์แวะเวียนมาชวนคุย พี่มาคนเดียวเหรอ  ใช่ค่ะ  มาคนเดียวไม่เหงาเลย...มีเพื่อนคุย ใช้ชีวิตช้าๆ ใต้ร่มไม้เขียวๆ ลมเย็มๆ ฟินนนนนน

เที่ยงก็เดินกลับมาเก็บของ เดี๋ยวรถคันเก่าจะมารับตอน 12.30 น. เพื่อไปขึ้นรถไฟตอน 15.05 น.  เผื่อรถติดและเผื่อเวลากินข้าว ดันไม่หิวซะงั้น  

ฉันเชคราคารถเหมากับสกายแล๊ปหน้าซอยที่พักแถวถนนคนเดิน  เรียกราคา 700 แหน่ะ  ไม่ว่ากันนะ จึงเรียกคันเก่ามารับได้ 400 บาท น้องคนขับบอกแวะกินข้าวไหมคับ รอได้  แต่พี่อิ่ม 

บริการพาไปรับตั๋วที่ให้เอเจนซี่ซื้อให้และยกกระเป๋าไปถึงประตูสถานี

สถานีรถไฟวันนี้สิ่งอำนวยความสะดวกเริ่มมาแล้ว  มีร้านขายกาแฟและขนมภายในอาคาร ต่างจากเดือนสิงหาคม 2565 ที่ฉันมาไม่มีอะไร…ต้องเดินไปซื้อนอกอาคาร  มาถึงสถานีเร็วก็ดีค่ะจะได้มีที่นั่งรถ  ใกล้เวลารถออกคนเยอะ

ฉันเจอเพื่อน Book Lover ที่นั่งติดกัน   Lonely Planet ของฉันไม่น่าเบื่อเลย เราแลกหนังสือกันอ่าน

EMU ใช้เวลาวิ่งประมาณ 2 ชม.ก็จอดที่ชานชาลาหลวงพระบาง 

ได้คำแนะนำจากพนักงานเฮือนพักที่ฉันจองไว้ล่วงหน้าเมื่อ 4 ชม.ก่อน ให้นั่งรถตู้เข้าเมืองแบบแชร์กัน ถ้าจำไม่ผิดคนละ 25,000 กีบมั้งถ้าจำไม่ผิด  (ประมาณ 50-60 บาท  ตาม Rate เงิน ไม่ถึง 100 บาท) ระบบบริการของเค้ารถจะจอดส่งหน้าเฮือนพักเลย  จุดขายปี้รถตู้ จะอยู่บริเวณลานจอดรถ  ตั้งโต๊ะขายเห็นได้ง่าย ถ้าไม่เคยไปก็ไม่ต้องกังวลเค้าจะเรียกถามลูกค้าเอง  เข้าเมืองบ้อ  รถตู้บ้อ

ที่พักคืนนี้คือ ปะกองทอง วิลล่า   น้องดิดพนักงานน่ารัก  พอรู้ว่าฉันไม่ได้จองอะไรไว้  ก็ whatsapp มาคุยรายละเอียดตลอด จริงอยู่ที่เค้าอาจจะส่งต่อบริการไปยังเครือข่ายแต่ทำให้ฉันประหยัดเวลาหาข้อมูลนู้นนี่ จะได้มีเวลาไปหาเลาะเล่น

ชอบมากตรงห้องน้ำสะอาด ห้องกว้าง  มีระเบียงติดถนนให้นั่งดูผู้คน อาหารอร่อย  พนักงานดูแลดีมาก…แนะนำการเปิดทีวี เปิดแอร์…มันเป็นหน้าที่ของผมครับ ที่สำคัญเดินนิดหน่อยก็ไปถึงย่่านร้านอาหารแคมโขง ถนนคนเดิน และตลาดเช้า สะพานไม้ไผ่ วัดพูสี พระราชวังเก่า

เข้าเฮือนพักแล้ว ขอเอนหลังแป๊บ ล้างหน้าล้างตา  เกือบทุ่มก็ออกไปข้าวเย็นกินแถวๆ แคมโขง  อากาศในวันท้ายๆของเดือนธันวาคม 2565 เย็นสบายค่อนไปทางหนาว ต้องใช้ผ้าคลุมไหล่หรือเสื้อคลุม เดินผ่านที่พักหลายๆแห่ง  แสงไฟยามเย็นสีสวยมากกกกกกก (อยากใส่ก.ไก่ล้านตัว)

ฉันเดินผ่านร้านอาหารหลายร้านและเฮือนพักสวยๆ แสงสีอุ่นในเวลาโพล้เพล้ย่ำค่ำ จนต้องว่าเมืองหลวงพระบางเป็นเมืองที่สวยงามแห่งหนึ่ง ทำให้เดินเพลินกันเลย 

จนท้องร้องจึงแวะฝากท้องไว้ที่ร้านหน้าตาดีริมแม่น้ำโขงจำชื่อไม่ได้  แต่มีรูปบารัค โอบามา ติดอยู่ เค้าว่าร้านนี้โอบามาเคยมากินมะพร้าว  วิวสวยค่ะ 

ความหิวด้วยกินแค่ Brunch ฉันจัดเต็มทั้งตำหลวงพระบาง สลัดหลวงพระบาง  และเบียร์ลาว หุหุ  ให้มั่นใจอย่างแรงว่ามาถึงหลวงพระบางแล้วววววว

อาหารจัดจานมาแบบดูดีเชียวหล่ะ

กลับมาที่พักใช้ไวไฟที่พัก check ข้อมูลเพื่อแพลนการท่องเที่ยว  ติดตามกันนะคะว่า Lonely Plannet ของฉันจะเป็นอย่างไร ฉันจะรอดหรือร่วงมาลุ้นกัน

Day -3 นั่งรถประจำไปหนองเขียว  นั่งเรือไปบ้านสบกอง  เมืองงอย นอนค้างเมืองงอย

Day -4 Farm Stay ที่นาตาดหมอก บ้านสบกอง Trekking ระยะสั้น นอนค้างเมืองงอย

Day -5 กลับออกมาจากบ้านสบกอง  เมืองงอย พักหลวงพระบาง ไนท์ไลท์หลวงพระบาง

Day -6 วิถีเช้าคนหลวงพระบาง เดินทางกลับเวียงจันทน์ด้วย EMU เที่ยวบ่ายสุด พักหลวงพระบาง 

            ถ้าข้ามด่านทัน…จะข้ามมานอนหนองคาย

Day -7 กลับขอนแก่น

 

หมายเลขบันทึก: 711510เขียนเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2023 00:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2023 13:05 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ไปคะไป ไปเที่ยวเพิ่มพลังนะคะ ขอบคุณสำหรับ Comment ค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท