สังขละบุรี สุดชายแดนตะวันตก (6) วัดวังก์วิเวการามและเจดีย์พุทธคยา

สังขละบุรี สุดชายแดนตะวันตก (6) วัดวังก์วิเวการามและเจดีย์พุทธคยา

สถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอสังขละบุรีนั้น นอกจากท่องเที่ยวชมความงามของธรรมชาติ ชมวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญแล้ว ยังมีโบราณสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั้งชาวไทย ชาวมอญ ชาวกะเหรี่ยงและพม่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งจะไปเยี่ยมชมในเช้าวันนี้ คือ วัดวังก์วิเวการาม และเจดีย์พุทธคยา

วังวังก์วิเวการาม หรือวัดหลวงพ่ออุตตมะ เป็นวัดจำพรรษาของหลวงพ่ออุตตมะซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวเมืองสังขละ หรือสังขละบุรี วัดแห่งนี้หลวงพ่ออุตตมะร่วมกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญได้ร่วมกันสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2496 ที่บ้านวังกะล่าง อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ใกล้กับชายแดนไทย - พม่า ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรีประมาณ 220 กิโลเมตร ในตอนแรกมีเพียงกุฏิและศาลา มีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ แต่ชาวบ้านมักเรียกกันว่า "วัดหลวงพ่ออุตตมะ" ตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สาย ได้แก่ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำแควน้อย ในปีพ ศ.2505 ได้รับอนุญาตจากกรมศาสนาให้ใช้ชื่อว่า"วัดวังก์วิเวการาม" ตามชื่ออำเภอวังกะ ซึ่งต่อมาถูกยุบเป็นกิ่งอำเภอ ก่อนจะยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอสังขละบุรี จัวหวัดกาญจนบุรี ในปี พ.ศ. 2508

(ภาพจากอินเทอร์เน็ต)

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ)ได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ เมื่อ พ.ศ. 2527 เมื่อเริ่มใช้กักเก็บน้ำ น้ำในเขื่อนเขาแหลมจะท่วมตัวอำเภอเก่า รวมทั้งบริเวณหมู่บ้านชาวมอญและกะเหรี่ยง รวมทั้งวัดวังก์วิเวการามด้วย หลวงพ่ออุตตมะจึงย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขาในที่ปัจจุบัน โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ถวายที่ดินให้กับหลวงพ่ออุตตมะเพื่อใช้สร้างวัดแห่งใหม่ พร้อมทั้งค่าชดเชยสิ่งปลูกสร้างภายในวัดทั้งหมด จากนั้นหลวงพ่ออุตตมะได้จัดสรรที่ดินของวัดวังก์วิเวการามให้ชาวบ้านครอบครัวละ 30 ตารางวาเพื่อใช้ปลูกสร้างบ้านพักอาศัย ปัจจุบันหมู่บ้านชาวมอญมีพื้นที่ราว 1,000 ไร่เศษ มีผู้อยู่อาศัยราว 1,000 หลังคาเรือน และมีจำนวนผู้อยู่อาศัยราว 4,000 กว่าคน

ส่วนบริเวณวัดหลวงพ่ออุตตมะเดิมนั้นได้ถูกน้ำท่วม หลวงพ่ออุตตมะได้นำชาวบ้านรื้อถอนเฉพาะส่วนที่เป็นไม้ออกมา รวมทั้งสิ่งของมีค่าที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ สิ่งก่อสร้างที่เป็นคอนกรีตถูกปล่อยไว้ในสภาพเดิม ปัจจุบันพระอุโบสถหลังเก่ารวมทั้งหอระฆังจมอยู่ใต้น้ำ และมีชื่อเสียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand เป็นที่รู้จักในชื่อว่าวัดใต้น้ำ สังขละบุรี

วัดวังก์วิเวการามที่สร้างใหม่อยู่ห่างจากอำเภอสังขละบุรีประมาณ 6 กิโลเมตร ภายในวัดมีสถานที่สำคัญให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมและสักการะบูชา เช่น ปราสาทเก้ายอด วิหารพระหินอ่อน พระอุโบสถ หอระฆัง วิหารพระหินอ่อน ภาพจิตรกรรมฝาผนัง หลังจากหลวงพ่ออุตตมะมรณภาพเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2549 ได้นำสังขารของท่านมาเก็บรักษาไว้ในปราสาทเก้ายอด และได้จัดสร้างหุ่นขี้ผึ้งรูปหลวงพ่ออุตตมะในท่านั่ง สำหรับให้ประชาชนได้กราบนมัสการอีกด้วย

เจดีย์พุทธคยา 

เป็นเจดีย์ที่จำลองมาจากเจดีย์พุทธคยาองค์จริงในประเทศอินเดีย ฐานเป็นทรงเหลี่ยมจัตุรัส ด้านหน้ามีรูปสิงห์ศิลปะแบบมอญ 2 ตัวยืนเฝ้าบันไดทางขึ้นสู่เจดีย์ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกนิ้วหัวแม่มือข้างขวา

บริเวณใกล้ๆกับเจดีย์พุทธคยา มีร้านจำหน่ายสินค้าเรียงรายเป็นแนวยาว สินค้าที่จำหน่ายส่วนใหญ่เป็นสินค้าจากพม่า เช่น ผ้านุ่ง เสื้อผ้า เครื่องไม้ เครื่องประดับ แป้งทานาคา ยาสมุนไพรพม่า ฯลฯ ซึ่งมีให้เลือกซื้อกันเพิ่มเติมจากที่ซื้อกันมาแล้วจากถนนคนเดินสังขละบุรีเมื่อวานนี้ ใครที่ยังได้ของไม่ครบ ก็มาจบกันที่เจดีย์พุทธคยานี่แหละค่ะ

ขอขอบคุณ

• หน่อยทัวร์ท่องเที่ยวและทีมงานให้บริการอย่างดีตลอดการเดินทาง
• ภาพจากอินเทอร์เน็ตช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป

 

[ขจิต ฝอยทอง]

ไปมาหลายที่เลยครับ

[ครูแป๊ว กัลยาณี]

ส่วนใหญ่เป็นทัวร์ที่ซื้อไว้ก่อนสถานการณ์โควิดค่ะ ถูกเลื่อนมาหลายครั้ง พอไปได้ก็ต้องรีบไปค่ะ แต่ละทริปจึงติดๆกัน