๑,๓๒๔ ตุ๊กเอ๋ย...ตุ๊กแก


บันทึกภาพอย่างเพลิดเพลิน เดินอยู่ตรงหลังอาคาร แล้วก็มายืนชิดเกือบติดขอบหน้าต่าง ในใจก็ไม่ได้คิดไรมาก นอกจากสายตาสัมผัสอยู่กับใบไม้และหยากไย่กองโต ยกโทรศัพท์ขึ้นมาทันที

          ผมขึ้นต้นชื่อเรื่องเหมือนวรรคทองวรรคแรกของกลอนดอกสร้อย ร้อยกรองของไทยแต่โบราณ แต่เรื่องที่จะเล่าขานต่อไปนี้ เริ่มต้นแทบจะไม่เกี่ยวกับเรื่องตุ๊กแกแต่อย่างใด

          แต่พอมันมามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเพียงนิดเดียว ก็ทำให้ผมเจ็บแสบมิใช่น้อย

          เหตุเกิดที่โรงเรียน..นัดหมายคณะครูกับผู้ปกครองไว้ที่แปดโมงเช้า เพื่อยกโต๊ะ เก้าอี้ ตู้เอกสารและชั้นวางหนังสือ ออกจากอาคารเรียน ซึ่งมี ๔ ห้อง

          ผู้ปกครองมาตรงเวลาดีเหลือเกิน พร้อมใจกันกับครู ทั้งยก ทั้งแบกหาม คนละไม้ละมือ ผมเห็นแล้วรู้สึกประทับใจจริงๆ แบบว่าทำงานมาจนถึงปีสุดท้าย แล้วได้เห็นภาพดีๆแบบนี้

          ผมไม่ต้องทำอะไรมาก รับผิดชอบเฉพาะคอมพิวเตอร์กับโต๊ะทำงาน เดินนำหน้าคนที่ช่วยยก เพื่อไปเก็บไว้ที่ห้องธุรการ ส่วนเอกสารอื่นๆได้สะสางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

          ไม่ทันจะถึงสิบโมง..ทุกห้องโล่งเตียน มีความพร้อมมากมายที่จะให้ช่างผู้รับเหมา เข้ามาละเลงสีทั้งภายนอกภายในให้สดใส ลบความกระดำกระด่างออกไป หลังจากใช้งานมายาวนาน

          คณะครูและผู้ปกครองนั่งพักเหนื่อย ผู้ใหญ่บ้านผู้ซึ่งเป็นกรรมการสถานศึกษา ขับรถเข้ามาขอแรงผู้ปกครองส่วนหนึ่งให้ไปช่วยยกเต๊นท์ โต๊ะและเก้าอี้ที่วัด สำหรับนำมาเตรียมงานวันเด็ก

          ผู้ปกครองที่เป็นผู้หญิงพอหายเหนื่อยแล้ว ก็จับไม้กวาดทำความสะอาดพื้นห้อง ปัดหยากไย่ใยแมงมุม มีเสียงเอะอะและร้องวี๊ดว้าย ตกใจกันพอสมควร เมื่อเห็นไข่ตุ๊กแกบนพื้นและผนังห้อง

          บรรดาตุ๊กแกใหญ่น้อย คงหนีไปหมดแล้ว ตอนที่เลื่อนตู้และยกชั้นวางหนังสือ ทางเดินและวิ่งหนีภัยของตุ๊กแกก็คือหน้าต่างกับช่องลมตรงผนังที่ติดกับฝ้าเพดาน

          ผมอยู่ข้างนอก ไม่ทันได้เห็นตัวตุ๊กแก ว่าจะมากหรือจะใหญ่ขนาดไหน แต่ดูจากจำนวนไข่หนาแน่นอย่างนี้ ก็น่าจะอยู่กันแบบครอบครัวอย่างแน่นอน

          ครูธุรการของผม คงจะกลัวตุ๊กแกมาก รีบขออนุญาตเข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อไปรับข้าวกล่องและไก่ย่าง จากผู้ปกครองที่ขอเป็นเจ้าภาพอาหารกลางวัน เลี้ยงทุกคนที่มาช่วยงานในวันนี้

        ผมก็ไม่พลาดที่จะใช้เวลาช่วงนี้ เก็บภาพเอาไว้ในความทรงจำ บันทึกภาพโดยรอบอาคาร โดยเฉพาะด้านนอก ของใช้ที่ยกออกมาถูกจัดวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยดี

        งานซ่อมแซมอาคาร(ทาสี) ก็คงมีครั้งนี้เพียงครั้งเดียว ตลอดเวลาที่เหลืออยู่ ผมจึงเดินดูและสำรวจวัสดุอุปกรณ์และของใช้อีกครั้ง...ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันรับประทานอาหารกลางวัน

          บันทึกภาพอย่างเพลิดเพลิน เดินอยู่ตรงหลังอาคาร แล้วก็มายืนชิดเกือบติดขอบหน้าต่าง ในใจก็ไม่ได้คิดไรมาก นอกจากสายตาสัมผัสอยู่กับใบไม้และหยากไย่กองโต ยกโทรศัพท์ขึ้นมาทันที

          ตรงบริเวณส้นเท้าเหมือนมีไม้มาทิ่มแรงๆ ไม่เจ็บแต่มันหน่วงๆ เหมือนปากไก่ตัวใหญ่ๆมาจิกก็เหมือน ผมตกใจรีบยกเท้าหนี มีกระโดดตัวลอยเพื่อถอยออกมาเล็กน้อย

          หันไปมองตรงที่ผมยืน อื้อฮือ ผมขนลุกซู่ แม่เจ้าประคุณเอ๋ย ตุ๊กแกตัวใหญ่กว่าข้อมือผมอีก มันจะตกใจหรือมันจะกลัวผมกันแน่ ตาแดงเหมือนจะแค้นเคืองอยู่เหมือนกัน ถึงอ้าปากได้กว้างใหญ่ เห็นเขี้ยวชัดเจน

        ผมอยากถ่ายภาพมันไว้ในเวลานี้ เพื่อเก็บเป็นหลักฐาน แต่รู้สึกเจ็บเสียแล้ว ต้องรีบไปนั่งเพื่อให้ครูช่วยล้างแผลและใส่ยา...สักพักใหญ่..ผู้ปกครองก็เริ่มเดินเข้ามา ต่างแปลกใจว่า ผอ.เดินยังไง..ถึงโดนตุ๊กแกกัด....ผมไม่รู้จะพูดยังไง ใจก็คิดว่าเดินอย่างระมัดระวังและสง่างามที่สุดแล้ว

          ตุ๊กเอ๋ย..ตุ๊กแก..แกคงโกรธที่ถูกผู้คนมากมายมาทำลายคอนโดอันแสนสุข ทำให้ครอบครัวต้องแตกกระเจิง...ข้าฯ ในฐานะผอ. ขออภัยมา ณ โอกาสนี้..อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๗  มกราคม  ๒๕๖๖

หมายเลขบันทึก: 711138เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2023 22:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม 2023 22:39 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ตุ๊กแก สัตว์ชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ ;)…

ที่โรงเรียน..ตุ๊กแก..เยอะมาก ตัวใหญ่ๆ อยู่กันแบบสมบูรณ์พูนสุข เพราะเราไม่เคยรังแกกัน แต่วันนี้ สงสัยผมไปใกล้เขาเกิน และเขาเองก็คงจะอารมณ์เสียด้วยครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท