การแก้มลทิน (สิ่งที่ไม่ดีไม่งาม) ให้ออกไปจากตัวเรา เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่า 2565 ต้อนรับปีใหม่ 2566


คนเราเกิดมาแรกเริ่มอาจจะขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใย แต่พอมาเจอกับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งดี และไม่ดี ปะทะเข้า อาจจะได้รับมลทิน หรืออาจจะมีมลทินมัวหมองติดตัวมาด้วย อย่างน้อย 9 ประการ มากน้อยต่างกัน แล้วแต่การฝึกจิตและการปฏิบัติเพื่อจะทำให้ลดน้อยลง หรือไม่มีเลยยิ่งดีตามสภาวการณ์ที่เราประสบอยู่

การแก้มลทิน (สิ่งที่ไม่ดีไม่งาม) ให้ออกไปจากตัวเรา

เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่า 2565 ต้อนรับปีใหม่ 2566

ดร.ถวิล  อรัญเวศ

        คนเราเกิดมาแรกเริ่มอาจจะขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใย แต่พอมาเจอกับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ
ซึ่งมีทั้งดี และไม่ดี ปะทะเข้า อาจจะได้รับมลทิน หรืออาจจะมีมลทินมัวหมองติดตัวมาด้วย อย่างน้อย 9 ประการ มากน้อยต่างกัน แล้วแต่การฝึกจิตและการปฏิบัติเพื่อจะทำให้ลดน้อยลง หรือไม่มีเลยยิ่งดีตามสภาวการณ์ที่เราประสบอยู่

         สำหรับมลทิน และการแก้มลทิน 9 ประการนั้น มีวิธีแก้ดังนี้ คือ

1.     ความโกรธ 

        (โกธะ) คนเรามักจะมีความโกรธเมื่อไม่สบอารมณ์ กระทบกับอิฏฐารมณ์ อารมณ์ที่ปรารถนา
ก็ชอบอกชอบใจ แต่ถ้ากระทบกับอนิษฐารมณ์ อารมณ์ทำให้ใจขุ่นเคือง ก็จะเกิดอาการโทสะ โมโหโทโสขึ้นมาทันที ถ้ามห้ามใจไม่ได้ก็อาจจะพาไปในทางที่ไม่ดีจนถึงอาจจะเกิดการทะเลาะวิวาทกันจนถึงกับทะเลาะวิวาทเลือดตกยางออกหรือเสียชีวิตไปก็มี

         แก้ด้วยการฝึกจิตใจให้มีความรัก ความเมตตา กรุณา สงสารเป็นที่ตั้ง มีทมะสูง

     2. ลบหลู่บุญคุณ (มักขะ)

        คนเราบางครั้งไม่เห็นบุญคุณของบุพการีหรือผู้มีบุญคุณต่อเราเลย เห็นผิดเป็นชอบเห็นกงจักรเป็นดอกบัวทำนองนั้น มักขะ คือ การลบหลู่คุณท่าน  เป็นธรรมเครื่องเศร้าหมองของจิต หนึ่งในอุปกิเลส 16 ความลบหลู่ กิริยาที่ลบหลู่ ความเป็นผู้ลบหลู่ กรรมอันประกอบด้วยความแข็งกระด้างนี้ท่านกล่าวว่าความลบหลู่ในคำว่า มักขะ

            แก้ด้วยการฝึกจิตใจให้มีกตัญญูกตเวที รู้สำนึกในบุญคุณท่านและตจอบแทน

     3. อิจฉาริษยา (อิสสา)

       คนเรามักจะมีความอิจฉา ริษยาในจิตใจ เมื่อเห็นคนอื่นดีกว่า ทำนอง

กับที่ว่า “ทำดีแต่อย่าเด่น จะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราที่เด่นเกิน” 

      วิธีแก้กรรม แก้ด้วยการฝึกแสดงมุทิตาจิต จิตพลอยยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี

     4. ความตระหนี่ (มัจฉริยะ)

       คนเรามักจะมีความตระหนี่ในใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จะให้อะไรแก่ใครก็คิดแล้วคิดอีก มีความเสียดาย หรือมองไม่เห็นประโยชน์ของการให้นั้น เป็นทาสแห่งทาน จะให้อะไรแก่ใคร ๆ ให้ของเหลือเศษ เหลือเด่น หรือให้ของบูดเน่า เพราะตระหนี่ถี่เหนียวนึกเสียดาย

      วิธีแก้ แก้ด้วยการฝึกจิตใจให้เป็นคนเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ เสียสละแก่กันและกัน เพราะ

มีพุทธภาษิตว่า “เนกาสี ลภเต สุขัง   กินคนเดียว ย่อมไม่ได้รับความสุข” ทำให้ขาด

พวกพ้องและบริวาร

     5. เล่ห์เหลี่ยม (มายา) 

       คนเรามักจะมีเล่ห์เหลี่ยมในใจเสมอ ทำนองที่ว่า “ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยกล ก็เอาด้วยมนต์ไม่ด้วยมนต์ ก็เอาด้วยคาถา”

      วิธีแก้  แก้ด้วยการฝึกจิตใจให้มีความจริงใจ มีสัจจะในตนเองเสมอ ยึดมั่นในคำที่ว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน”

     6. โอ้อวด (สาเถยยะ)

         คนเรามักจะมีความโอ้อวดต่างๆ มีอะไรนิดอะไรหน่อย ไม่ได้ เอาไปอวดแล้ว ทำให้คนอื่นหมั่นไส้ก็มี

       วิธีแก้  แก้ด้วยการฝึกจิตใจให้อ่อนน้อม ถ่อมตน เพราะถ่อมตน คนรัก อวดนัก คนชัง

หรือ “ถ้าอ่อน ให้อ่อนน้อม อย่าอ่อนแอ ถ้าแข็ง ให้แข็งแรง อย่าแข็งกระด้าง”

      7.พูดปด (มุสาวาท)

        คนเรามักจะพูดปดมดเท็จ พูดไม่จริงใจต่อกัน อาจจะเป็นเพราะมีอะไรซ่อนเร้นในใจ

หรือคาดหวังในอะไรบางอย่างจากเขา เพื่อจะได้รับประโยชน์หรือทรัพย์สมบัติของเขา

      วิธึแก้ แก้ด้วยการฝึกพูดคำจริง พูดคำสัตย์ต่อกัน ไม่เสแสร้งต่อกันและกัน ไม่ปากว่า

ตาขยิบ       

 

     8. อยากเห็นความวิบัติของคนอื่น (ปาปิจฉา)

       คนเราบางครั้งอยากเห็นความวิบัติของคนอื่น ชอบอกชอบใจเวลาเห็นคนอื่น

ประสบภัยพิบัติ ให้ทุกข์กับคนอื่น เอาดีใส่ตัว แต่โยนความชั่วให้แก่คนอื่น  พึงรำลึกเสมอว่า 
“ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นจะมาถึงตน”

       วิธีแก้  แก้ด้วยการฝึกจิตใจให้มีความปรารถนาดีต่อกัน มีความจริงใจต่อกัน

     9. เห็นผิดเป็นชอบ (มิจฉาทิฏฐิ)

             เห็นว่าบุญบาป ไม่มี ตายแล้วสูญทำให้มีใจไม่อยากทำความดี ไม่อยากให้อะไรแก่ใคร คิดแต่จะหาความสุขความสำราญใส่ตัวโดยไม่กลัวว่าจะผิดหรือถูก เห็นว่า ทานที่บุคคลให้แล้วไม่มีผล การบูชาพระรัตนตรัยไม่มีผล การบูชาเทวดาไม่มีผล ผลวิบากของกรรมดีและกรรมชั่วไม่มีโลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี มารดาไม่มี บิดาไม่มี สัตว์ที่จุติและเกิดไม่มี สมณพราหมณ์ ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ รู้ยิ่งเห็นจริงเห็นแจ้ง ประจักษ์ซึ่งโลกนี้และโลกหน้าด้วยตนเองแล้ว ประกาศให้ผู้อื่นรู้ได้ ไม่มีในโลกนี้  ยัญที่บูชาแล้วไม่มีผล การเซ่นสรวงไม่มีผล  ผลวิบากแห่งกรรมที่บุคคลทำดีทำชั่วไม่มีผลแต่อย่างใด ก่อให้เกิดการเห็นแก่ตัว ไม่กลัวบาปกรรม ท่ำชั่วอะไรได่หมด เพราะเห็นว่าบุญไม่มี บาปไม่มี จึงมีใจหลบหลู่ผู้มีพระคุณกับตนเอง

      วิธีแก้  แก้ด้วยการฝึกให้เป็นคนเห็นถูก เชื่อในกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว .ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นจะย้อนกลับมาหาตนอย่างแน่นอนเป็นเพียงไม่ช้าก็เร็ว

     คนเราเมื่อตายแล้ว สิ่งที่จะติดตามดวงวิญญาณเรามีสองอย่างเท่านั้น คือ “บุญ  นำไปสู่สุคติ บาป นำไปสู่นรก” อย่าเพิ่งด่วน    สรุปว่า อะไรที่ตาเรามองไม่เห็นแล้วจะไม่มี ดังเช่น ลมหรืออากาศเรามองเห็นไหม กระแสไฟฟ้า เรามองเห็นไหม ภาพต่าง ๆ เรามองเห็นไหม แต่ถ้ามีเครื่องรับ เช่น โทรทัศน์รับ เราก็มองเห็นภาพนั้นได้เป็นต้น บาปกรรม มีจริงทำดีจะได้ดี ทำชั่วจะได้ชั่ว เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น

----------------

 

 

     สวัสดีปีใหม่ 2566 ขอให้ท่านมีสุขภาพกายแข็งแรง

จิตใจเข้มแข็ง เพื่อจะได้มีแรงต่อสู้กับไวรัสโควิด 19

ตลอดทั้งโรคภัยไข้เจ็บอื่น ๆ ขออนานุภาพ

คุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่

ท่านเคารพนับถือ ได้โปรดดลบันดาลประทานพร

ให้ท่านมีความสุข และสมหวังดั่งใจปองด้วยเทอญ


 


 

 

 


https://youtu.be/mEiAUozvqis

 

 https://youtu.be/XZ4qm0FnLH0

 

https://youtu.be/OJ-OzUbs_7M

 

https://youtu.be/Y5MRive_REo

 

https://youtu.be/38NWUqfLrvI

 

 https://youtu.be/Q7ZSgANWpDM

 

 

 


 


 

 



 

 

 


 

 


 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 711044เขียนเมื่อ 1 มกราคม 2023 02:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มกราคม 2023 02:07 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท